ตำนานอสุรกาย (1)


ตำนานอสุรกาย (1)

ขนาดจำแนกแยกแยะภูตผีนานาชนิดตั้ง 12 รายการ ก็ยังไม่ครบถ้วนกระบวนความ เพราะนอกจากผีๆ สางๆ ที่เล่ามาแล้วยังไม่ได้รวมถึงสัตว์ผีอีกหลายชนิด

1. หมาผี

ขึ้นชื่อว่าหมาซะอย่าง ไม่นับประเภทดุร้ายชอบงับน่องคนเป็นงานอดิเรก ถึงกับกัดเด็กตายอย่างที่เป็นข่าวอยู่บ่อยๆ ส่วนงานหลักก็คือกัดกันเองเป็นประจำ จนนำมาเรียกขานผู้ที่ชอบทะเลาะเบาะแว้งหรือวิวาทบาดถลุงบ่อยๆ ว่า "กัดกันเหมือนหมา" ถ้ามีเรื่องภูตผีปีศาจเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยแล้ว แทบจะฟันธงโป๊ะเชะได้เลยว่า หมากับผีเป็นของคู่กันมาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ก็ว่าได้

ไม่ว่าเรื่องปกติหรือเรื่องผี ถ้ามีเสียงหมาหอนโบ๋ววว...หรือหอนโจ๋วววว...ขึ้นมาเมื่อไหร่ คนที่ได้ยินมักไม่ค่อยสบายใจนัก ยิ่งเป็นเวลากลางค่ำกลางคืนหรือดึกสงัดด้วยแล้ว มักจะทำให้เกิดอาการหนาวๆ ร้อนๆ หรือเย็นสันหลังยังไงชอบกล

สาเหตุสำคัญก็เพราะเชื่อกันว่า "หมาหอนเพราะเห็นผี!"

คิดดูก็เข้าเค้าแฮะ เพราะวิทยากรแผนใหม่พิสูจน์ได้ว่า บรรดาเจ้าเล็บงามนี่มีประสาทสัมผัสว่องไว ละเอียดอ่อนกว่ามนุษย์เป็นไหนๆ คือจะได้ยินเสียงที่คนเราไม่ได้ยินจะเห็นสิ่งที่คนเราไม่ได้เห็น พอๆ กับสำนวนที่ว่า "ตาแร้งจมูกมด" อะไรประมาณนั้น

หมามักจะไม่กัดคนที่ไม่กลัวมัน แต่ถ้าใครกลัวหมาสุดๆ ร่างกายจะหลั่งสารบางชนิดออกมา ซึ่งทำให้หมาสัมผัสได้ คือ ได้กลิ่น...ว่างั้นเถอะ! เจ้าเพื่อนสนิทของมนุษย์ตั้งแต่สมัยมนุษย์ถ้ำก็จะกระโจนเข้างับน่อง หรือกระชากคอหอยที่หวาดกลัวมันทันใด

เป็นสิ่งยืนยันว่าหมามีประสาทสัมผัสว่องไวเป็นพิเศษขนาดไหน!

ยิ่งเรื่องผีๆ สางๆ ด้วยแล้ว แทบจะพูดได้เต็มปากว่าขาดหมาไม่ได้เด็ดขาด

หมาหอนเมื่อไหร่ก็แปลว่าผีมา หรืออย่างน้อยก็ใกล้จะออกโรงให้คนเห็นเต็มทีแล้ว เตรียมขนลุกขนพองได้เลย พระเดชพระคุณที่เคารพรัก...ผีมาเมื่อไหร่รับรองว่าหมาหอนเมื่อนั้น ไม่มีวันที่พวกมันจะนอนหลับอุตุหรืออยู่เย็นเป็นสุขได้หรอก จะบอกให้

ไม่ว่านิยายผี ละครผีหรือหนังผี ถ้าผีคือตัวเองหรือหัวใจของเรื่อง หมาก็คือตัวประกอบสำคัญที่สุดชนิดขาดไม่ได้ เพราะถ้าไม่มีเสียงหมาเห่าหอนเลย ก็อย่าไปเขียนเรื่องผีหรือสร้างเรื่องผีให้เสียเวลาดีกว่า เจ๊งกับเจ๊งเปล่าๆ

แทนที่คนอ่านหรือคนดูจะตื่นเต้น หัวใจตึกตักโครมคราม เผลอๆ ก็จะพานง่วงเหงาหาวนอน หรือหลับผล็อยไปดื้อๆ อย่าได้ทำล้อเล่นกับเสียงหมาหอนไปเชียว

บางครั้ง ผีก็จะปรากฏตัวในร่างหมา หรือหมาถูกผีสิง ก็คือ "หมาผี" ที่อาจยืนจ้องเหยื่อเขม็งด้วยนัยน์ตาเขียวปัดหรือแดงก่ำปานแสงไฟก็ตาม อ้าปากแสยะ น้ำลายไหลยืดด้วยความหิวโหยเนื้ออ่อนๆ ของมนุษย์ ลิ้นสีแดงแลบเข้าแลบออกระหว่างเขี้ยวขาววับ พร้อมกับส่งเสียงคำรามฮื่อฮ่า น่าพรั่นสยองจนตัวแข็งทื่อ สองขาหนักอึ้งเหมือนถูกถ่วงด้วยท่อนเหล็ก ไม่มีทางที่จะเผ่นหนีเอาตัวรอดจากคมเขี้ยวยาวโง้งของเจ้าหมาปีศาจจากนรกอเวจีได้เลย

อา...มันกำลังตั้งท่าว่าจะกระโจนพรวดเข้าฝังเขี้ยว กระชาก คอหอยจนขาดเหวอะหวะ ณ บัดนี้แล้ว! คนอ่านคนดูจะไม่หวิดขาดใจตายตามไปด้วยก็เห็นจะผิดที

เสียงหมาหอนโหยหวนในตอนดึกติดๆ กันหลายคืน ก็เป็นสัญญาณหรือลางสังหรณ์ว่าจะเกิดเหตุร้ายแก่คนในครอบครัวนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องแต่ง รวมทั้งหนังและละครอย่างที่ว่า

แม้แต่การเอาเสียงหมาหอนมาเล่าสู่กันฟัง ก็สร้างบรรยา กาศให้ขนลุกขนชันได้ง่ายๆ อ้อ...มีข้อแม้ว่าอย่าไปเล่าเรื่องนี้ในตอนกลางวันแสกๆ ตามถนนรนแคมที่มีผู้คนพลุกพล่าน แถมแดดเปรี้ยงอีกต่างหาก เพราะสร้างอารมณ์คล้อยตามได้ยากเย็นเต็มที

ขึ้นชื่อว่าเรื่องผี ไม่ว่าผีไทยผีฝรั่งย่อมไม่ถูกกับแสงแดดอยู่แล้ว ไม่เชื่อลองนึกถึงมหาอสุรกายอย่างท่านเคาต์แดร๊กคิวล่าก็ยังได้!

ตอนกลางวันมีแสงแดดเจิดจ้าน่ารำคาญชะมัด จอมปีศาจเลยต้องนอนอุบเงียบอยู่ในโลงซะ ตะวันตกดินเมื่อไหร่ถึงจะเปิดโลงออกมาเป็นผีดิบกระหายเลือด แปลงร่างเป็นค้างคาวหรือแวมไพร์ออกล่าเหยื่อ...ฝังเขี้ยวที่ลำคอแล้วดูดเดือดจนอิ่มหนำสำราญใจ

ส่วนเหยื่อผู้เจอะเจอแจ๊กพอตเข้าอย่างจัง ก็ต้องกลายเป็นผีดิบไปด้วยอย่างช่วยไม่ได้ (ว่ะ)



ขอบคุณเรื่องเล่าจากข่าวสด


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์