ที่มาของการห้อย ตุ๊กตา ท้ายรถ


ที่มาของการห้อย ตุ๊กตา ท้ายรถ

ในเริ่มแรกเดิมทีนั้น



ตอนแรกๆจะห้อยตุ๊กตาที่มีรูปร่าง "เหมือนคน"

พวกตุ๊กตาบาบี้ หรืออะไรก็ได้ ที่ดูออกว่า "เป็นรูปคน"

แล้วเค้าห้อยทำไม ... การห้อยตุ๊กตารูปคน ทำเพื่อแก้เคล็ด



สำหรับรถที่เคย "ลากคนไปอยู่ใต้ท้องรถ" มาแล้ว



ด้วยความเชื่อที่ว่า เพื่อไม่ให้วิญญาณคนที่ถูกลาก ตามติดอยู่ใต้ท้องรถตลอดไป จะขายราคาก็ตก เงินก็ไม่มี เดี๋ยวไม่มีรถใช้

[คล้ายๆกับเรื่องที่เราไปแย่งนอนเตียงผี ถ้าเราไปนอนแทน ผีก็นอนไม่ได้]

เรื่องตุ๊กตาห้อยท้องรถก็เช่นกัน ห้อยไว้ เพื่อเอาตุ๊กตามา "แย่งที่" ไม่ให้วิญญาณ มาอาศัยใต้ท้องรถเราอยู่



บางคนซื้อรถมือสอง แล้วเห็นอะไรแปลกๆขณะขับรถ


หรือไม่ไว้ใจประวัติรถ ก็มักจะมาห้อย กันเอาไว้ก่อน

มาตอนนี้กลายเป็นว่า ... ห้อยเป็นแฟชั่น

แต่การห้อยเป็นรูปตุ๊กตาหมีหรืออะไรต่างๆน่ะ กันวิญญาณไม่ได้
แต่อาจจะทำให้วิญญาณเร่ร่อน ตามติดรถไปได้อีก



การโชว์ ตุ๊กตา หรืออะไรต่างๆที่เป็นของที่มนุษย์


ใช้ที่มันดูน่ารักน่าเล่นน่ะ

ไม่ต่างอะไรกับการ "เชื้อเชิญ" ถ้าใส่ไว้ในรถจะไม่เป็นไร แต่ถ้านอกรถเป็นการ แสดงการเชื้อเชิญ

[คล้ายๆกับการตอบ "ครับ" หรือเปิดประตูรับ ทำให้วิญญาณเข้ามาในบ้านเราได้]



ถ้าเผลอไปลากคนไปอยู่ใต้ท้องรถมาแล้ว ไม่จำเป็นต้องห้อยตลอดไป


แค่ 49 วันก็พอ กลัวนับผิด จะห้อยเกินไปบ้างก็ไม่เป็นอะไร

วิญญาณใต้ท้องรถน่ะ แม้โดนแย่งที่ แต่มีสิ่งเหนี่ยวอยู่สิ่งเดียว ก็คือใต้ท้องรถที่ลากเค้าน่ะแหละ วิญญาณที่สามารถยึดติดอยู่กับสิ่งเหนี่ยวได้ จะไม่ไปผุดไปเกิด

แต่ถ้าไม่สามารถยึดติดได้ จะไปผุดไปเกิดในช่วง 49 วัน



ฉะนั้น ถ้าเผลอห้อยแล้วหลุด หรือโดนหมางับหายไป


ให้เริ่มต้นห้อยและนับ 1 ใหม่ ไปอีก 49 วัน

นั่น คือ สาเหตุ และ ดูเหมือนการห้อย จะมีผลร้าย ด้านความเชื่อ ซึ่ง ถ้า ไม่ห้อยรูป คน อาจทำให้มีวิญญานติด รถไปได้

สรุป ให้เข้าใจง่ายๆ ว่า



ห้อยตุ๊กตารูปคน = กันผี = แฟชั่น = ห้อยได้ไม่มีผลเสีย



ห้อยรูป อื่นๆที่ไม่ใช่รูปคน = เรียกผีมา = แฟชั่น = น่ารัก แต่อาจมีวิญญาณคนตายตามท้องถนนติดมา = มีผลเสีย (ถ้าไม่เชื่อ ก็ไม่เป็นไร)

ถ้าอยากห้อยรูป อื่นๆที่ไม่ใช่รูปคน = ห้อยได้ตามปกติ = แฟนชั่นสวยงาม = ดึงดูดผีตามตุ๊กตามา = มีผีติดรถ = เอาพระมาห้อยในรถ

= ผีจะโดนพระไล่ไปเองโดยอัตโนมัติ = ผีตัวไหม่ไม่รู้ว่ามีพระ ก็ เข้ามาตามตุ๊กตาอีก = โดนพระไล่ ไปอีก เป็นแบบนี้ เรื่อยไป




แหล่งที่มา:


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์