ซอยนี้...ผีดุ!


ซอยนี้...ผีดุ!

คมสัน" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากซอยเปลี่ยว


ผมเป็นนักศึกษาภาคค่ำของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง คืนนั้น หลังเลิกเรียนเพื่อนชวนผมไปกินข้าว เราคุยกันเพลินมาก กว่าจะรู้ตัวก็ปาเข้าไปเกือบตีหนึ่งแน่ะครับ

เพื่อนผมมีรถ เขาขับไปส่งผมที่บ้าน แต่บ้านผมอยู่ในซอยลึกมาก แถมซอยนี้ก็เป็นซอยแคบ กำลังมีการขุดถนนเพื่อปรับปรุงท่อประปา ด้วยความเกรงใจ ผมให้เพื่อนจอดรถหน้าปากซอยแล้วผมเดินเข้าไป

ความจริงก็กลัวเหมือนกันครับเพราะเมื่อเดือนก่อนมีคนถูกฆ่าตายแถวๆนี้!

เพื่อนเป็นห่วงผมมาก ยืนยันว่าจะไปส่งในซอยให้ถึงบ้าน แต่ผมก็ไม่ยอมเพราะถนนแคบ ยิ่งมีการขุดถนนด้วยเพื่อนจะลำบากมากเลย...ในที่สุด เขาก็ยอมส่งผมแค่ปากซอยเท่านั้น

แถวหน้าปากซอยมีร้านอาหารคาราโอเกะ เมื่อเดือนที่แล้วนี่เอง คนเมาเกิดทะเลาะกันและยิงกันตาย ผมจำได้เพราะคืนนั้นผมก็กลับดึกแบบนี้แหละครับ




เหตุเกิดราวตีหนึ่ง...เหมือนคืนนี้เลย!


ผมกำลังจะเดินเข้าซอย ก็ได้ยินเสียงคนตะโกนด่ากันโหวกเหวก พอหันไปมองก็ได้ยินเสียงเหมือนกิ่งไม้หัก นั่นละ...เสียงปืน แต่มันไม่ได้ดังปัง! แบบในหนังนะครับ

ผมเห็นชายคนหนึ่งล้มลง แล้วคนยิงก็วิ่งหนีไป ขณะที่ผู้คนในร้านมากมายหลายคนวิ่งออกมา เกิดวุ่นวายกันใหญ่ ผู้หญิงบางคนกรีดร้องอย่างเดียว ผู้ชายอีกสองสามคนรีบใช้โทรศัพท์มือถือแจ้งเหตุ...

ผู้คนแถวนี้พากันออกมาดู ผมเดินเข้าไปมุงกับเขาบ้าง เห็นชายคนตายกำลังกระตุก มีเลือดทะลักออกมาทางปากและจมูก...เขาโดนกระสุนเจาะลำคอ ตาเขาเหลือกลาน



ภาพคนตายติดตาผม แต่ผมก็เกือบลืมไปแล้ว...จนกระทั่งคืนนี้!


พอลงจากรถก็โบกมือให้กัน แล้วเพื่อนผมก็ขับออกไป ทิ้งให้ผมยืนอยู่บนถนน ท่ามกลางแสงไฟที่ไม่ได้สว่างนัก

คืนนี้แปลกจัง ผู้คนหายไปไหนหมดก็ไม่รู้ ปกติจะมีคนนั่งอยู่หน้าร้านคาราโอเกะ แต่คืนนี้ไม่มีเลย ห้องแถวร้านค้าก็ปิดประตู ปิดไฟเงียบ...คงจะหลับหมดแล้วมั้ง? สรุปว่าในนาทีนั้น มีผมยืนอยู่เดียวดาย

มันอดไม่ได้จริงๆ ที่จะมองไปตรงที่ผู้ชายคนนั้นล้มลงตาย!

พื้นตรงนั้นว่างเปล่า แต่ภาพศพที่น่าสยดสยองของเขา กลับผุดขึ้นมาอย่างแจ่มชัดในความทรงจำของผม

แหม...อยากให้มอเตอร์ไซค์ผ่านมาสักคันหนึ่งจัง คืนนี้เป็นอะไรนะ ไม่มีรถสักคันเดียว! ผมถอนใจยาว...ตัดสินใจเดินเข้าซอยตามลำพัง ความรู้สึกไม่ค่อยมั่นคงชอบกลครับ มันวูบๆ วาบๆ บอกไม่ถูก



ขณะเดียวกัน ก็ไม่อาจสลัดภาพศพถูกฆ่าให้หลุดออกจากสมองเจ้ากรรมของผมได้!


ทันใดนั้น ผมสะดุดก้อนหินใหญ่จนหัวคะมำ เท้าพลิก ใจหายวาบ ขวัญผวาไปหมด ร้องอุทานอย่างลืมตัว

เฮ้อ! เจ็บข้อเท้าจังเลย นี่ละผลของการขุดถนน ดีนะที่ผมไม่ตกลงไปในหลุมที่เขาขุดน่ะ นี่ใจผมยังเต้นตึ้กๆ อยู่เลยเพราะอารามตกใจ

เมื่อตั้งสติได้ ก็รู้สึกว่ามีใครเดินมาข้างหลัง...โจรรึเปล่า?

ผมหันไปดู แต่เห็นหน้าเขาไม่ถนัดเพราะมันมืด เขาเป็นผู้ชายตัวใหญ่กว่าผม...คงไม่ใช่ผู้ร้ายหรอก เพราะเขาเดินดุ่มๆ นำหน้าผมเข้าไปในซอย ...เดินเร็วมากเลยครับ




ดีเหมือนกันจะได้มีเพื่อน ผมเดินตามเขาไปห่างๆ และรู้สึกสบายใจขึ้นมา


ในซอยนี้บางบ้านก็เปิดไฟรั้ว ผนวกกับไฟถนนที่ห่างเป็นระยะๆ ทำให้มีแสงมองเห็นได้ ดีกว่าตรงหน้าปากซอยที่ไฟมันดับไปดวงหนึ่ง ถึงกระนั้นบรรยากาศก็ยังค่อนข้างน่ากลัว...มันเงียบสงัด แต่มีลมพัดอู้ๆ และลมก็แรงขึ้นๆ ผมแหงนมองดูท้องฟ้า...มันแดงฉานเชียว แสดงว่าฝนกำลังจะตก!

ผมรีบเดินเร็วๆ ชายคนนั้นยังนำหน้าผม ห่างกันราวๆ สิบก้าว ผมรักษาระยะห่างนั้นไว้ แต่ดูเหมือนเขาจะทอดจังหวะการเดินช้าลงๆ

เอ๊ะ! รึว่าเขาจะหลอกให้ผมตายใจ พอเดินไปทันเขาอาจควักอาวุธขึ้นมาทำร้ายผมดื้อๆ

"กลัวรึ? ฮึๆๆ" เสียงพูดนั้นมาจากเขาแน่นอน ตอนนี้เขาอยู่ห่างจากผมแค่ 4-5 ก้าว...เขาไม่หันมาเลย ผมชักตกใจ ชะงักฝีเท้าเหมือนถูกตรึงอย่างไม่รู้ตัว




ขณะที่กำลังละล้าละลัง เขาก็หันมา...ไฟส่องเต็มหน้าพอดี!


คุณพระช่วย ใบหน้านั้นเป็นหน้าของคนตายชัดๆ ปากและจมูกมีเลือดเอ่อเสื้อด้านหน้าเปรอะเลือดไปหมด...ผมจ้องภาพนั้นเหมือนถูกสะกดจิต อยากจะร้องแต่ร้องไม่ออก ขยับแข้งขาไม่ได้ มันเหมือนฝันร้ายจริงๆ ครับ

ลมพัดมาวูบหนึ่ง...พัดเอาชายคนนั้นสลายไปกับอากาศธาตุ!

น้ำตาผมไหลพราก พยายามสะกดตัวเองไม่ให้ออกวิ่ง แข็งใจเดินช้าๆแต่อึดใจเดียวก็ไม่ไหวแล้ว...ผมเผ่นกระเจิงจนมาถึงบ้าน

เมื่อแม่ทราบเรื่องนี้จากผม แม่ก็ให้จุดธูปไหว้พระ บอกว่าตอนที่ผมสะดุดหินน่ะใจหายวูบ และเป็นช่องทางให้ภูตผีวิญญาณแทรกเข้ามาได้ ...ทีหลังอย่างกลับดึกแล้วกัน

ตั้งแต่นั้นผมเข็ด ไม่กลับบ้านดึกๆ ดื่นๆ อีกเลยครับ




แหล่งที่มา:


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์