วิญญาณเมืองลับแล


วิญญาณเมืองลับแล

"ด้วยความกลัว...ผมจึงวิ่งสุดตัว"




เย็นวันหนึ่งขณะที่ผมกำลังกลับจากโรงเรียน สมัยก่อนเส้นทางกลับบ้านยังเป็นป่าอยู่ บ้านที่ผมอยู่นั้นผู้เฒ่าผู้แก่เคยเล่าว่าเป็นเมืองเก่าสมัยทวาราวดี มีเศษอิฐ เศษกระ เบื้องแตกกระจัดกระจายอยู่มากมาย สิ่งที่ผมกลัวมากที่สุดในสมัยเด็กก็คือการเดินทางกลับบ้านแล้วจะต้องเดินผ่านป่าแห่งนี้ นอกจากจะต้องเดินกลับบ้านคนเดียวแล้ว ยังต้อง เดินกลับตอนเย็น ๆ ใกล้พลบค่ำด้วย เนื่องจากโรงเรียนอยู่ห่างไกล


โดยเฉพาะช่วงเวลาเย็นใกล้พลบค่ำนี่ เจ้านกฮูกนกเค้าแมวกำลังจะออกหากิน เสียงหรีดหริ่งเรไรร่ำร้องดังสนั่นทั้งป่า ช่างเป็นความสงบวิเวกวังเวงอย่างบอกไม่ถูก วันหนึ่งขณะที่ผมกำลังเดินผ่านป่าอยู่นั้นเอง ผมก็ต้องสะดุ้งสุดตัว เพราะสิ่งที่ผมเห็นนั้นมันไม่ได้ใช่ป่าสะแล้ว กลายเป็นคล้าย ๆ เมืองใหญ่ ๆ สมัยโบราณ แต่มองไม่ค่อยชัดเจนนัก เห็นผู้คนกำลังเดินกันไปมาขวักไขว่ ผมเกือบไม่เชื่อตาตัวเองว่าเป็นไปได้อย่างไร ด้วยความกลัวในสมัยเด็ก ผมจึงวิ่งสุดตัวอย่างไม่เหลียวหลังกลับไปดูอีก



"บางวัน...จะได้ยินเสียงดนตรีไทยโบราณ"




หลังจากวันนั้นเวลาผมจะเดินผ่านตรงที่ป่าแห่งนั้นอีก ผมจะวิ่งอย่างเดียวเลยครับ ไม่อยากจะเจออีกเข็ดจริงๆ เมืองลับแล คุณตาเคยเล่าให้ฟังว่าที่พวกเราอยู่นี้เป็นเมืองเก่าสมัยโบราณ บางวันช่วงค่ำ ๆ จะได้ยินเสียงดนตรีไทยโบราณฟังไพเราะจับใจมีคนเคยเห็นเมืองโบราณกันบ่อย คาดว่าน่าจะเป็นพวกเมืองลับแลที่ยังคงมีอยู่ แต่อยู่คนละมิติกาลเวลา


สำหรับผมการได้เห็นสิ่งที่แปลกประหลาดในวัยเด็กย่อมเกิดความกลัวเป็นธรรมดา มีคนเคยเล่ากันว่าในเมืองลับแลนั้นมีแก้วแหวนเงินทองมากมาย ใครได้หลงเข้าไปจะได้รับทองคำเป็นแท่ง ๆ กลับมา แต่พอมาถึงบ้านทองเหล่านั้นก็จะกลับกลายเป็นเพียงก้อนหินธรรมดา เป็นเรื่องราวที่คนสมัยก่อนเล่าต่อ ๆ กันมา


เมืองลับแลจะมีจริงหรือไม่ผมไม่ทราบ แต่ที่แน่ ๆ ผมเห็นมาแล้ว เห็นจนต้องโกยอ้าวเลยแหละครับ






แหล่งข้อมูล : บอร์ดรวมเรื่องผี


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์