เสียงสุดท้าย!


เสียงสุดท้าย!

"ตุ้ย" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากเสียงสยอง

พวกเพื่อนๆ ชาวบาร์โฮสฯ พากันแซวผมว่า เป็นคน "ดวงผีหลอก" เพราะมาทำงานที่เลดี้คลับถนนสีลมนี่ยังไม่ทันจะครบเดือนดี โห..โดนผีหลอกตั้งสองครั้งสองคราแน่ะ!

อาชีพพวกผมน่ะมีคนเขาเรียกขานแบบเยาะๆ ว่า "ผู้ชายขายน้ำ" บ้าง "ไอ้ตัว" บ้าง แต่เราถือว่าเป็นอาชีพสุจริต ไม่ได้ลักขโมยหรือปล้นใครเอามายังชีพนะครับ ดีกว่าพวกคอร์รัปชั่นกินบ้านกินเมือง กินปลากระป๋องเน่า กินนมบูดของเด็กนักเรียน..จริงมั้ยครับ?

เราเห็นค่าของเงิน รู้ซึ้งด้วยว่ากว่าจะหาเงินได้น่ะมันยากเย็นแสนเข็ญแค่ไหน

พูดก็พูดเหอะ ผมว่าพวกเรายังมีส่วนช่วยแก้เหงาให้สุภาพสตรีอีกมากมาย ที่อาจมีปัญหาชีวิต ปัญหาครอบครัว ไม่ให้ฟุ้งซ่านจนถึงกับไปติดการพนัน เสพยา ฆ่าตัวตาย หรือไม่ก็ฆ่ายกครัวอย่างที่เป็นข่าวบ่อยๆ

ไม่ได้แก้ตัวหรือยกตัวเองหรอกครับ เพียงแต่คิดว่ามันคืออาชีพหนึ่งตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป เจตนาจริงๆ ของผมก็คือส่งตัวเองเรียนหนังสือให้จบก็ดีแล้ว

ตอนที่ไอ้หนุ่ย-เพื่อนซี้มันชวนไปทำงานน่ะ ผมก็ลองไปพบกับผู้จัดการชื่อพี่เอก แกก็บอกกล่าวตรงกับที่เพื่อนบอกไว้ ว่าจะมาทำงานเมื่อไหร่ก็ได้ ขอให้บอกล่วงหน้าซักวัน..เลี้ยงอาหารและเหล้าเบียร์ ยกเว้นห้ามเสพยาเด็ดขาด ไม่ว่ายาบ้า ยาอีหรือยาไอซ์

ถ้าคืนไหนแขกน้อยจนไม่ได้ดริงก์ ทางคลับก็จะจ่ายให้คืนละ 500 บาท!

ผมบอกไปตามตรงว่ามาหาเงินไปเรียนเท่านั้นแหละครับ พี่เอกก็เข้าใจ สะดวกเมื่อไหร่ก็มา สวมสูท หัดลีลาศ (มีครูสอน) ใครเก่งภาษาอังกฤษหรือญี่ปุ่นก็ได้เปรียบคนอื่นเยอะ

ทำไมพี่เอกเชื่อว่าผมอยากหาเงินไปเรียนน่ะหรือครับ? ก็แกขอดูบัตรนักศึกษาเป็นอย่างแรก ถ้าใครไม่มีบัตรต่อให้มาดแมนแสนเท่ หรือสุดหล่อแค่ไหนก็ไม่รับ..สาเหตุก็คือแขกที่มาเที่ยวแทบทุกคนจะขอดูบัตรว่าเป็นนักศึกษาตัวจริงเสียงจริง

เดี๋ยวนี้เป็นแฟชั่นไปแล้วครับ งานบริการยามราตรีเกือบทุกประเภทจะต้องเป็นนักศึกษาทั้งนั้น..แม้แต่หมอนวดก็ตาม ไม่เชื่อคุณก็ถามดูเถอะว่าน้องเรียนที่ไหน? พอสาวโชว์บัตรนักศึกษาก็โล่งใจ เป็นปลื้มซะไม่มี

อ้าว? พูดถึงหมอนวดทำให้นึกถึงแฟนประจำของผมขึ้นมาได้!

มีอยู่ 2-3 คนครับที่คุ้นๆ กับผม..ต้องถือว่าพวกเธอเป็นผู้มีบุญคุณที่เข้ามาอุดหนุนพวกเราบ่อยๆ ถึงแม้จะมีพวกสาวยุ่นกับสาวผมทองรุ่นพี่รุ่นน้ามาตอนค่ำๆ ไล่เลี่ยกับสาวไทยประเภทแม่ม่ายบ้าง สาวโสดขี้เหงาบ้าง..แต่คิดแล้วมีแค่ 10-15 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง

ที่เหลือคือด๊อกเตอร์นวดนี่แหละครับที่เป็นลูกค้าส่วนใหญ่ พวกเธออาจจะมาดึกหน่อยราวตีหนึ่งขึ้นไป แต่ก็นั่งนาน จ่ายหนัก ถูกอกถูกใจก็ยัดใส่มือสามพันห้าพันหน้าตาเฉย

"พี่ตอง" เป็นขาประจำคนหนึ่ง ขาว สวย ขี้เล่น เคยเอียงหน้ามาซบไหล่พลางบีบมือผมไว้แน่น..ถ้าเราเปลี่ยนอาชีพไปทำงานกลางวัน มีหวังอดตายกันทั้งคู่ ตุ้ยว่ามั้ย?

ดูเถอะครับ ทำท่าซึ้งๆ แต่พูดจาแบบตลกร้ายจนแทบหัวเราะไม่ออกซะงั้น!

เป็นที่รู้กันว่าพี่ตองเป็นแฟนผม..แต่ดูๆ แล้วก็แปลกที่เธอไม่เคยถามว่าผมเรียนที่ไหน? อยู่กับใคร? มีแฟนหรือยัง? เท่าๆ กับไม่เคยเล่าเรื่องส่วนตัวของเธอด้วย พี่ตองไม่เคยขอเบอร์มือถือผมซักครั้ง..ที่มาเที่ยวก็บอกว่าเหงา มาหาเพื่อนคุย ถูกใจผมเพราะไม่พูดมาก ไม่ฉวยโอกาสขอดริงก์ซักครั้งเดียว

พี่ตองยัดเงินใส่มือผมครั้งละ 2-3 พันบาทโดยที่ผมไม่ได้เอ่ยปาก แถมยังไม่เคยชวนผมออกไปข้างนอกด้วย ทำให้เชื่อสนิทว่าเธอไม่ได้ต้องการอะไรมากกว่าหาเพื่อนคุยที่ถูกคอเท่านั้นเอง

เหตุเกิดเมื่อพี่ตองหายไปราว 4-5 คืน..จู่ๆ มือถือผมก็ส่งสัญญาณสายเข้า

"ตุ้ยเหรอ.." เสียงพี่ตองนั่นเอง "ต่อไปนี้พี่มาหาตุ้ยไม่ได้อีกแล้ว อย่าคิดมากนะ! พี่คิดถึงตุ้ยเสมอจ้ะ ลาก่อน.."

ผมนั่งงงอยู่พักหนึ่งเมื่อเสียงนั้นขาดหายไปช้าๆ ก่อนจะนึกได้ว่าไม่เคยให้เบอร์เธอนี่นา! ครั้นมีโอกาสคุยกับไอ้หนุ่ยก็ถามมันว่าให้เบอร์ผมหรือเปล่า? พี่ตองโทร.มาลาน่ะ แต่เพื่อนผมส่ายหน้าดิก ยืนยันว่าไม่เคยคุยกับพี่ตองซักคำด้วยซ้ำ

วันรุ่งขึ้นก็ได้รับคำตอบจากข่าว..เชือดหมอนวดสาวหมกห้อง! ตำรวจสันนิษฐานเป็นเรื่องชู้สาวแต่ฆาตกรชิงทรัพย์อำพรางคดี..ภาพถ่ายยิ้มระรื่นของพี่ตองกำลังจ้องมองผมเศร้าๆ แว่วเสียง..ลาก่อน! ยังดังก้องอยู่ในความทรงจำ

พี่ตองโดนฆ่าตอนเย็น ตกดึกก็โทร.มาหาผม..ขนหัวลุกซีครับ!


ขอบคุณเรื่องเล่าจากข่าวสด


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์