ศาลาริมหาด


ศาลาริมหาด

"ปึ้ง" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากหาดจอมมณี หนองคาย

คนเราบทจะถึงคราวซวย พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก หน็อย! พระอาทิตย์ยังชำแรกเข้ามาเตะซะอีกแน่ะ เช่นผมเป็นต้น ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยถูกผีหลอกสักครั้ง แต่บทจะจ๊ะเอ๋เข้า โห...ดูไม่จืดจริงๆ ครับ งานนี้!

โดนผีหลอกกลางวันแสกๆ ผมเจอะเจอที่ตู้นอนรถไฟสายกรุงเทพฯ-หนองคายน่ะ ผีฝรั่งแก่ๆ หัวล้าน อ้วนพงพลุ้ย แถมพูดไทยได้คล่องปากคล่องลิ้นเหมือนคนไทยทั่วไป...ที่เล่าไปตอนก่อนไงครับ แต่ไอ้เต้กับไอ้อ๊อดเพื่อนผมหาว่าผมเพี้ยนมั่งละ ตาฝาดมั่งละ แหม! สบถสาบานยังไงมันก็ไม่เชื่อลูกเดียว จนผมต้องแช่งให้พวกมันเจอเรื่องขนหัวลุกแบบผมมั่ง แล้วจะได้รู้ว่าผีมีจริงๆ นะเฟ้ย

โห...ยังกะปากพระร่วงแน่ะครับ เพราะบ่ายวันนั้นเองที่หาดจอมมณี เพื่อนผมก็เจอช็อตเด็ดเข้าเต็มเปา! ฮ่าๆๆ

เรื่องเป็นยังงี้ครับ!

เพราะรถไฟเสียเวลาเลยไปถึงหนองคายสิบโมงกว่า เรานั่งสามล้อสองแถวที่เขาเรียกสกายแล็บบึ่งไปโรงแรมพรรณทวี ได้ห้องพักแบบบังกะโลฝั่งตรงข้าม ไอ้เต้อยู่กับไอ้อ๊อด ส่วนผมอยู่คนเดียว หลังจากอาบน้ำชำระกายจนสดชื่นแจ่มใสก็บึ่งไปเยี่ยมลุงชิตที่โรงพยาบาล อาการดีขึ้นจนพ้นขีดอันตราย ป้ากิ๊ดเมียแกต่อว่าที่ผมไม่ไปค้างบ้าน มาเสียเงินนอนโรงแรมโดยใช่เหตุ ผมก็แก้ตัวว่ามากับเพื่อนๆ เลยเกรงใจน่ะครับ

กว่าจะกินอาหารกลางวันก็เกือบบ่ายสองโมง ดีไปอย่างที่ร้านข้างจวนเหลืออยู่แค่ 2-3 โต๊ะ เพื่อนๆ ไม่เคยมาเที่ยวหนองคายมาก่อนทั้งคู่ อยากจะไปไหว้หลวงพ่อใส พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองหนองคาย กับอยากนั่งรถชมเมืองไปเรื่อยๆ จะได้ไม่เมื่อยน่อง เราเลยเรียกสกายแล็บคันหนึ่งมาเป็นพาหนะ

โชเฟอร์ชราหุ่นผอมเพรียว ผมขาวหนวดขาว เดาะเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีชมพูเป็นพระอังคาร ช่างพูดช่างคุยจ๋อยๆ ให้อารมณ์ครึกครื้นดีเหมือนกัน

ไหว้พระกับชมตลาดท่าเสด็จ ถ่ายรูปติดแม่น้ำโขงที่ยังกว้างขวางแม้จะย่างเข้าฤดูร้อนแล้ว...ก่อนจะไปลงเอยที่สะพานมิตรภาพไทย-ลาว

อ้าว? ฝนหลงฤดูเกิดโปรยปรายไม่ขาดสาย เราเลยไม่อยากขึ้นสะพานที่แบ่งเขตกันตรงกลาง...แต่ไปหลบฝนที่ศาลาทรงไทยของทางหลวงริมหาดจอมมณี

อ้อ! ก่อนถึงศาลานั่นมีป้ายเป็นคติสอนใจตัวโตๆ ในความหมาย "ไม่มีอะไรเกินกว่าความ "พรากเพียร" ของคนเรา"

"พรากเพียร" จริงๆ ครับ..."เพียร" โดน "พราก" ไปแล้วจะมีอะไรเหลือล่ะ? ทำไมไม่มีใครท้วงติงให้แก้ไขใหม่เป็น "พากเพียร" ก็ไม่รู้เหมือนกัน

ที่ศาลานั่นมีผู้หญิงผิวดำท้องอ่อนๆ นั่งเล่นอยู่คนเดียว คงเป็นเพราะฝนตกน่ะเองที่ทำให้คนไม่ค่อยมาเที่ยวกัน...มองผ่านต้นตะขบที่เรียงรายไปสู่หาดจอมมณีและแม่น้ำโขงในสายฝนพรำ จากตลิ่งสูงลงไปสู่หาดเวิ้งว้างกว้างขวาง มีร้านสุราอาหารหนาตา เด็กๆ ที่ไม่กลัวฝนออกวิ่งเล่นเกรียวกราวแถวชายหาดใต้สะพาน

อ้าว? ไอ้เต้กับไอ้อ๊อดกำลังชวนสาวท้องนั่นคุยแก้เหงาแล้วละครับ

ผมกำลังเพลินชมวิวแต่ได้ยินแว่วๆ ว่าเธอเป็นคนสุรินทร์ แม่เขมรพ่อส่วย มาทำงานที่หนองคายจนได้สามี ปกติขายข้าวโพดต้ม แต่วันนี้ฝนฟ้าไม่อำนวยเลยออกมานั่งเล่นที่นี่ ส่วนท้องที่เรานึกว่าอ่อนๆ น่ะ ปาเข้าไปเกือบ 7 เดือนแล้ว

ฝนซาเม็ดลงเกือบหายขาด มีนักท่องเที่ยวจากจังหวัดใกล้ๆ ราว 5-6 คนมาชมวิวโดยเดินเล่นอยู่ใกล้ๆ ศาลา มีเก้าอี้ยาวทำด้วยปีกไม้ที่โคนตะขบให้นั่งพักผ่อน...เสียงไอ้เต้ร้องว่าเราน่าจะลงไปนั่งซดเบียร์แกล้มปลาเผาที่ชายหาดจอมมณีดีกว่า...ได้ยินเสียงถามว่า ไปนั่งกินอะไรด้วยกันมั้ย? น้องสาว...อ้าว? เฮ้ย!!

เสียงร้องดังลั่นจนผมหันขวับ เห็นไอ้เต้กับไอ้อ๊อดหน้าขาวซีด อ้าปากค้าง นัยน์ตาเหลือกลานทั้งคู่...ผมถามว่าเป็นอะไร? ก็ได้ยินเสียงไอ้เต้ตอบเสียงสั่นๆ ว่า...กำลังคุยกันดีๆ เธอก็หายไปดื้อๆ ว่ะ เล่นเอาผมร้องเฮ้ย! ขึ้นมามั่ง

สายลมพัดซ่า ยอดตะขบไหวกราว...บนศาลาที่สาวผิวดำนั่งห้อยขาอยู่หยกๆ ไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้วละครับ มองไปรอบๆ ก็ไม่เห็นแม้เงา

ซมซานกลับออกไปทางเดิม โชเฟอร์ชราขับรถจากใต้สะพานมารับ คงจะเห็นหน้าตาท่าทางของเราถึงได้พยักหน้าหงึกๆ เจอเข้าอีกรายแล้วเหรอเนี่ย...ขนหัวลุกน่ะซีครับ!



ขอบคุณเรื่องเล่าจากข่าวสด


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์