คืนปีศาจ


คืนปีศาจ

ฝนตกหนักมาตั้งแต่หัวค่ำ ทั้งฝนทั้งพายุโหมกระหน่ำเกรี้ยวกราด

ไม้ไร่ใหญ่น้อยคล้ายจะถอนรากถอนโคนเพราะแรงกระหน่ำหนักหน่วง ท้องฟ้าดำมืดเหมือนสีหมึก แผดเสียงคำรนคำรามสนั่นไหวประหนึ่งจะแสดงอิทธิฤทธิ์ยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ ว่าทรงอำนาจล้นเหลือต่อมวลมนุษย์เสมอมา!

รถราติดขัดเป็นแพแม้จะเป็นชานเมือง! สายฟ้าแลบแปลบปลาบราวกับงูยักษ์สีส้มที่เลื้อยปราด ก่อนจะคำรามกึกก้องไม่ผิดกับเสียงอสุรกายที่ผงาดร่างขึ้นเหนือบ้านเมือง บางครั้งก็ผ่าเปรี้ยงปร้างชวนให้ผู้คนอกสั่นขวัญผวาไปตามๆ กัน

ในป้ายรถเมล์ล้วนแออัดยัดเยียด เบียดเสียดรวนเร ด้วยความหวาดหวั่นต่อพายุฝนที่สาดซัดเข้ามาจนเปียกปอนแทบถ้วนหน้า ไหนจะขนลุกขนพองด้วยเสียงฟ้าคำรามดุร้ายประหนึ่งจะไม่มีวันจบสิ้นไปตลอดรัตติกาล

ในที่สุด พายุฝนคึกคะนองก็ค่อยทุเลาบางลง

รถราค่อยทุเลาการติดขัด แสงไฟหน้ารถส่องฝ่าสายฝนที่ยังโปรยปราย...ผู้คนล้วนได้โอกาสขึ้นรถกลับเคหา และบ้างก็ลงจากรถวิ่งเข้าตรอกซอย มีทั้งกางร่มและใช้หนังสือพิมพ์คลุมศีรษะ...จนกระทั่งฝนที่โปรยปรายกลายเป็นละอองบางๆ พรมพรำเศร้าสร้อยอยู่ในราตรีกาล

สามทุ่มเศษ...รถรากับผู้คนหายไปเกือบหมดสิ้น เมืองทั้งเมืองเปียกโชก พื้นถนนสะท้อนแสงไฟเป็นเงาวับ สรรพสิ่งเหลือแต่ความเปล่าเปลี่ยว อ้างว้างวังเวงสิ้นดี!

"สวย" เดินซมซานคล้ายจะสิ้นแรงผ่านซอยเปลี่ยวใกล้ๆ กับป้ายรถเมล์ที่ไม่มีใครเหลืออยู่อีกเลยแม้แต่คนเดียว...

"หิวเหลือเกิน..." หญิงสาวได้แต่พร่ำบอกตัวเอง เหลียวซ้ายแลขวาด้วยความสิ้นหวัง...เธอพลัดหลงเข้ามาที่ชานเมืองเปล่าเปลี่ยว เยือกเย็นน่าวังเวงใจ ความอ่อนล้าและหิวโหยสุดชีวิตทำให้เกือบสิ้นแรงก้าวเดินต่อไปอีกแล้ว...

"ไปไหนจ๊ะ น้องสาว?" เสียงห้าวๆ ทำให้สวยแทบสะดุ้งผวา หันขวับไปมองทางซ้ายมือใกล้ๆ กับป้ายรถเมล์ เห็นเพิงพักของวินมอเตอร์ไซค์ที่ปากซอย...ร่างตะคุ่มๆ ของวัยรุ่นราว 3-4 คนกำลังจ้องมองด้วยนัยน์ตาลุกวาว บางคนกำลังยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม บางคนก็หัวเราะเหะหะด้วยสุ้มเสียงบาดใจเต็มที

"แวะมาคุยกันก่อนซีจ๊ะ คนสวย?"

"ไม่มีมอเตอร์ไซค์แล้ว ให้พวกพี่ไปส่งไหมจ๊ะ?"

"รับรองว่าปลอดภัย ไร้กังวล" ชายเตี้ยล่ำสวมเสื้อยืดคอกลมโดดลงจากแคร่ เดินทื่อเข้ามาหา นัยน์ตาแดงก่ำลุกวาว "แล้วพวกเราจะได้แต่งงานกับคนสวยทุกคนไงล่ะจ๊ะ ดีมั้ย?"

เสียงหัวเราะครืนดังมาจากด้านหลัง แล้วชายอีกสองคนที่เหลือก็ตามมาสมทบ...สวยกลืนน้ำลายลงคอด้วยความปั่นป่วน ร่างในชุดเสื้อกระโปรงสีเข้มถอยหลังช้าๆ คล้ายจะหมุนตัวกลับวิ่งเตลิดหนีไปทางเดิม...แต่ทุกอย่างก็สายเกินไป!

ร่างเตี้ยล่ำเผ่นพรวดเข้ามากระชากแขนหญิงสาวจนหัวคะมำ สวยดิ้นรนเต็มที่ แต่ก็โดนคนที่สองตวงกำปั้นเข้าใส่หน้าท้องจนเธอตัวงอ ทรชนคนที่สามฉุดแขนอีกข้าง ลากถูลู่ถูกังไปที่แคร่ริมทาง มืดครึ้มด้วยกิ่งมะขามหนาทึบปกคลุมหลังคา

เสียงหัวเราะหยาบช้ากรอกหู กลิ่นเหล้าโรงเหม็นคลุ้งจนสวยต้องเบือนหน้าหนีอย่างสะอิดสะเอียน...ก่อนที่ร่างอรชรจะถูกผลักลงไปนอนหงายบนแคร่ไม้แข็งกระด้าง ขวดกับแก้วเหล้าถูกกวาดกระเด็นไม่แยแส แขนทั้งสองข้างถูกกดตรึง ร่างเตี้ยล่ำที่เล่นงานเธอเป็นคนแรกแทรกเข้ามาตรงกลางลำตัวที่มีกระโปรงบางๆ กีดขวางอยู่เท่านั้น

ไม่มีใครผ่านมาเลย รถราที่นานๆ จะแล่นมาสักคันก็ล้วนแต่ห้อตะบึงเหมือนลมพัด...ขณะที่ใบหน้าร้อนผะผ่าวของทรชนฝังหน้าคลุกเคล้าทรวงอกที่ไหวกระเพื่อมด้วยแรงหายใจหืดหอบไม่เป็นส่ำ ก่อนจะเลยเลื่อนไปทั่วใบหน้าที่พลิกหนี...ซุกไซ้ลงมาที่ซอกคอขาวผ่อง

เสียงเพื่อนอีกสองคนเร่งเร้าให้เผด็จศึกสามานย์ มีเสียงคล้ายสะอื้นฮัก...ใบหน้าของหญิงสาวพลิกมาที่ซอกคอของมันอย่างเหมาะเหม็ง!

พริบตานั้น...สวยก็อ้าปากเหมือนจะกรีดร้องขอความช่วยเหลือ แต่กลับปรากฏเขี้ยวขาววับน่าสยองกัดขย้ำเส้นเลือดที่ลำคอของคนชะตาขาด เสียงแผดร้องของมันดังโหยหวน เลือดสดๆ แสนจะหอมหวนโอชะถูกดูดดื่มด้วยความหิวโหยสุดชีวิต

เสียงร้องแช่งด่าดังมาจากชายทั้งสอง เมื่อเห็นร่างเตี้ยล่ำของเพื่อนผงะขึ้นยืน แต่สวยลุกผวาตามติด ขย้ำคอหอยดูดเลือดอย่างสาสมใจ...ขณะที่ชายทั้งสองแผดร้องไม่เป็นภาษามนุษย์ วิ่งเตลิดเปิดเปิงเข้าซอยด้วยความหวาดกลัวเหมือนหัวใจจะแตกทำลายในพริบตา

เงียบและมืด...ร่างอาบเลือดล้มลงนอนคว่ำหน้าแน่นิ่ง...ไม่มีร่างของหญิงสาวที่ถูกฉุดคร่ามาข่มขืนที่เพิงพักนั้นอีกต่อไป นอกจากค้างคาวตัวใหญ่ที่กระพือปีกบินหายลับไปในรัตติกาลอันเยือกเย็น เร้นลับ ไม่อาจจะประจักษ์แจ้งด้วยประการทั้งปวง!



ขอบคุณเรื่องเล่าจากข่าวสด


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์