พลังปีศาจ


พลังปีศาจ

"มัธยันต์" เฉลยปัญหา...ทำไมขนหัวลุกเมื่อโดนผีหลอก?

ทำไมต้องขนหัวลุก? ก็นั่นซินะ...ผมละสงสัยมานานแล้วว่าเพราะเหตุใดเวลาถูกผีหลอก เราถึงได้ขนลุกเกรียวไปหมดทั้งตัว? โดยเฉพาะที่หัวนี่ตัวดีเลย...มันลุกตั้งชี้ยังกะถูกกระแสไฟฟ้า

สปาร์กจนพองฟูขึ้นมาเป็นดอกกระถิน!

คุณเชื่อไหมว่า ประโยคที่ผมเอ่ยมาเมื่อตะกี้ไม่ใช่แค่คำอุปมาอุปไมยธรรมดา ผมไปค้นคว้ามาแล้วละ ว่าเวลาที่ถูกผีหลอกหลอน ตัวการที่ทำให้เราขนหัวลุกก็คือกระแสไฟฟ้าจริงๆ ด้วย...เอ๊ะ! เรื่องมันเป็นยังไงมายังไง? เอาละ...ผมจะเล่าให้ฟัง

ก่อนอื่นต้องขอสาธยายว่า อันอาการขนลุกของคนเรานี้มันเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น ปวดท้องอยากเข้าห้องน้ำก็ขนลุกทั้งตัว รวมทั้งหัวด้วย เราต้องเคยเป็นกันทุกคน มันเป็นธรรมชาติน่ะครับ ไม่ต้องคิดมาก

หรือเมื่อเราเห็นใครทำอะไรเปิ่นๆ เฉิ่มๆ เราก็มักจะอุทานว่า "อุ๊ย! ขนลุก"

ยิ่งกว่านั้น เวลาเราเกิดอารมณ์แบบสุดๆ เช่น ปีติ เราก็เกิดขนลุกเกรียวไปหมดเลยได้ง่ายๆ เหมือนกับยามหนาวเหน็บ ขนเราก็ลุกเพราะเป็นกลไกป้องกันตัวเอง นัยว่าจะทำให้เราอุ่นขึ้นมาซักหน่อยก็ยังดี อ้อ! เวลาจั๊กจี้น่ะบางทีเราก็ขนลุกนะครับ

แต่ถ้าอยู่ดีๆ คุณขนลุกโดยไม่ทราบสาเหตุ ก็ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า...ผีมาแล้ว!!

ยกตัวอย่างเช่นเพื่อนรุ่นน้องของผมคนหนึ่งมาที่บ้าน...ช่วงหนึ่งเธอเดินผ่านเชิงบันได จะไปที่ห้องรับประทานอาหาร...ทันใดนั้น ผมเห็นเธอหยุดชะงัก ทำหน้าแปลกๆ แล้วเดินกลับมาที่บันไดอีกครั้ง พลางส่งเสียงเรียกอย่างตื่นเต้น

"พี่ๆ มาตรงนี้แน่ะ แปลกจัง! พอหนูเดินผ่าน ผมตรงท้ายทอยหนูลุกซ่าเลย!"

ผมกับภรรยานึกสนุกเลยไปยืนตรงที่เกิดเหตุประหลาดนั่น และก็เป็นจริงอย่างที่เธอบอก คือพอก้าวเข้าไปตรงจุดนั้นผมทั้งหัวจะลุกวาบ พอถอยออกมาผมก็ราบลง สนุกดี

เราสรุปว่า การที่เราขนลุกกันวูบๆ วาบๆก็เพราะมี "ผี" ยืนอยู่ตรงจุดนั้น แล้วเราก็ผ่านตัวเขา! ผีที่ว่าก็คือเจ้าที่เจ้าทาง หรือผีบ้านผีเรือนของผมนั่นเอง!

จากประสบการณ์ของคนที่เจอผีมักจะเล่าตรงกันประการหนึ่งว่า...ขนลุกซู่ ชาเห่อไปทั้งใบหน้า ผมฟูตั้ง หนาวยะเยือกจับไขสันหลัง...อาการเหล่านี้เกิดขึ้นเพราะอารมณ์สยองของเรา หรือเกิดจากผีมีจริงกันแน่?

คำตอบก็คือเป็นไปได้ทั้งสองอย่าง ประการแรก เราไม่ได้เจอผีสางอะไรหรอก มันไม่ได้มา แต่เราหลอนตัวเอง และกลัวจนขนลุก ประการที่สอง ผีมาจริงๆ และอาการดังกล่าวที่เราเป็นอย่างนั้นก็เพราะคุณสมบัติบางอย่างของภูตผีนั่นเอง!

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่ามีไฟฟ้าสถิต ซึ่งเป็นไฟฟ้าธรรมชาติอยู่ในสิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัวเรา ฟ้าแลบ ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า ก็เกิดจากไฟฟ้าสถิต ประจุบวก ประจุลบ วิ่งเข้าหากัน

ในฤดูหนาว อากาศแห้งมากๆ ถ้าเราสวมถุงเท้าเดินลากเท้าไปบนพรม ถุงเท้าจะเสียดสีกับพรมเกิดประจุไฟฟ้าขึ้นในตัวเรา พอเราเข้าใกล้โลหะเช่นลูกบิดประตู ประจุไฟฟ้าก็จะโดดเข้าหากัน ทำให้เรารู้สึกเหมือนถูกไฟดูดแปล๊บ เมื่อมือเราสัมผัสกับลูกบิดนั้น

หรือเวลากลางคืน เราห่มผ้าอยู่ในห้องแอร์ อากาศแห้ง ถ้าเราดับไฟมืดแล้วสลัดผ้าห่มออกจากตัว บางทีเราจะได้ยินเสียงเปรี๊ยะเบาๆ และที่ผ้าห่มเราจะเห็นจุดประกายไฟสีเขียวเรืองปรากฏขึ้นแวบหนึ่ง

ในการทดลองทางวิทยาศาสตร์ คุณอาจจะเคยเห็นการเล่นสนุกอย่างหนึ่ง ที่ทำให้คนเราสัมผัสกับลูกทรงกลมที่มีประจุไฟฟ้า พอสัมผัสแล้ว ผมจะชี้ตั้งไปรอบทิศ ดูตลกดีจริงๆ

กระแสไฟฟ้าที่แล่นผ่านผิวกายเรานี้ ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า "ไอออน วินด์" ทำให้เรารู้สึกเย็นเยือกๆ ได้ด้วย และนี่ก็คือสิ่งเดียวกับที่เกิดขึ้นเมื่อเราเผชิญหน้ากับผี

ผีไม่ใช่อะไรที่เป็นส่วนหนึ่งของโลกมนุษย์ของเรา!

การที่ผีจะมาปรากฏตัว หรือสำแดงอิทธิฤทธิ์ใดๆ ก็ตาม ผีจะต้องอาศัยพลังงานอย่างมาก ลองคิดดูดีๆ สิครับ ผีไม่มีร่างกาย ไม่มีอะไรเลย บางเบายิ่งกว่าลมซะอีก แต่ทำไมผีแผลงฤทธิ์ได้? อย่างปรากฏตัวให้เราเห็น หรือเอามือเย็นๆ มาแตะเรา หรือที่เก่งกว่านั้นก็คือการเคลื่อนย้ายวัตถุ และที่เจอกันเสมอก็คือได้ยินเสียง ได้กลิ่น มีเสียงฝีเท้าหรือเสียงปึงๆ ปังๆ

ผีอาศัยพลังแม่เหล็กไฟฟ้า โดยดึงเอามาจากสิ่งแวดล้อม รวมทั้งจากมนุษย์นี่เอง

ทุกวันนี้ยังพิสูจน์ไม่ได้ตามหลักวิทยาศาสตร์ แต่สันนิษฐานกันว่าถ้าผีมีจริง ซึ่งเราเชื่อนะว่ามันมีจริงๆ ผีก็ต้องอาศัยพลังงาน เช่น พลังแม่เหล็กไฟฟ้า พลังจากไฟฟ้าสถิตในบรรยากาศและพลังแม่เหล็กโลกไว้ในตัวเอง แล้วฉายออกมา หรือแผลงฤทธิ์ออกมาให้มนุษย์เห็น และรู้สึกได้

นี่แหละครับ เราถึงได้ขนหัวลุกฟู่ฟ่าเวลาเจอผี สนุกดีนะครับ...


ขอบคุณเรื่องเล่าจากข่าวสด


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์