อสูรใต้สมุทร

ชาวเรือทั่วโลกล้วนเชื่อถือว่าปีศาจทะเลมีจริง!

ไม่ใช่คนตกน้ำตายธรรมดาๆ หรือโดนฆ่าทิ้งทะเลทั่วๆ ไป พวกนั้นน่ะถือว่าเป็นผีกิ๊กก๊อกที่ไม่ค่อยมีพิษสงน่าพรั่นพรึงอะไรนัก แต่เป็นระดับจอมอสุรกาย หรือเทพเจ้ามรณะประจำมหาสมุทร คอยจ้องจะพร่าผลาญชีวิตผู้คน ที่บังอาจจะล่วงล้ำเข้าไปในท้องทะเลเท่านั้น

มีการแสดงอิทธิฤทธิ์น่าขนพองสยองเกล้า ก่อนจะลงมือขย้ำวิญญาณของพวกมนุษย์เคราะห์ร้ายไปเป็นเหยื่อ

ขาใหญ่จริงๆ ถึงจะได้รับการยอมรับนับถือของผู้คนทั่วไปว่าเป็น "ปีศาจทะเล"

ถ้าไม่แยกประเภทออกจากกันเสียก่อน ก็จะเกิดความสับสนเปล่าๆ เช่นถูกผีหลอกตามหาดทรายชายทะเลนิดๆ หน่อยๆ ก็ร้องโหวกโหวยโหยหวนว่าเจอะเจอปีศาจทะเลเข้าให้แล้ว โอ๊ย! น่าขนหัวลุกซะไม่มี...เสื่อมเสียถึงพญาอสุรกายแห่งมหาสมุทรเปล่าๆ น่า

ต้องระดับซีแฮ็ก, ดร็อก หรือเจ้าหญิงแห่งชายหาด ถึงจะเข้าขั้นปีศาจทะเลจริงๆ

แล้วปีศาจทะเลของไทยเราล่ะ?

เคยฟังเรื่องเล่าจากชายทะเลรุ่นเก๋า ออกทะเลลึกตื้นมาตั้งแต่วัยรุ่นจนปลดระวางคุ้นเคยกับทะเลเหมือนญาติมิตร อยู่ในทะเลก็เหมือนอยู่บ้าน เจอะเจอกับความน่ากลัวสารพัด ไม่ว่าสัตว์ร้ายต่างๆ ตั้งแต่ฉลาม, หอยมือเสือ, กระเบนยักษ์, ปลาไหลไฟฟ้า, ดอกไม้กินคน ฯลฯ

โดยเฉพาะภูตผีปีศาจที่ปรากฏร่างแปลกๆ หลายรูปแบบเหมือนเทพเจ้าโพไซดอนของฝรั่ง เห็นเข้าก็ขวัญหนีดีฝ่อไปตามๆ กันเพราะสิบสัตว์ร้ายยังไม่น่ากลัวเท่าหนึ่งปีศาจนี่นา

บางทีทะเลราบเรียบอยู่ดีๆ อ้าว? เกิดคลื่นจัดลมแรง กระแทกกระทั้นโครมคราม ตอนแรกนึกว่าคลื่นหัวแตกธรรมดา ที่ไหนได้ล่ะ ฟ้ามืดทะมึนบ่งบอกว่าจะเกิดเหตุร้าย ลมพัดอู้ๆ มารอบทิศรอบทาง น่ากลัวราวกับปีศาจมาหัวเราะเยาะหยันอยู่รอบๆ ตัว

นอกจากจะขอความเมตตาจากแม่ย่านางให้คุ้มครอง ชาวเรือหลายคนยังบนบานศาลกล่าวเทพเจ้าน้อยใหญ่ รวมทั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก จงโปรดช่วยปกปักรักษาชีวิตให้รอดตายด้วยเถิด เจ้าประคุณเอ๋ย

โชคดีที่ยังไม่ถึงฆาต นอกจากหัวร้างข้างแตก กับฟกช้ำดำเขียวไปตามๆ กันเท่านั้นเอง!

บางครั้งกำลังแล่นเรืออยู่ดีๆ ไต้ก๋งส่องกล้องมองหาฝูงปลา ก็เกิดเสียงดังโครม! ซ่า...ราวกับมีฝนห่าใหญ่ซัดลงมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย เล่นเอาทุกคนหันไปมองเป็นตาเดียวกัน

นรกเป็นพยาน! ลูกเรือมองเห็นภาพนั้นได้ถนัดตาก็แทบจะขาดใจตายคาที่ไปตามๆ กันเพราะความกลัวสุดขีด

...ถัดจากหัวเรือไปไม่ไกลนัก ปรากฏว่าร่างของอสุรกายโผล่พรวดขึ้นมาจากใต้ทะเล ทั้งใหญ่โตทั้งสูงตระหง่านปานขุนเขา มองเห็นน้ำแตกกระจายตามลำตัวได้ถนัดชัดเจน

ร่างมหึมาของปีศาจทะเลที่ทะลึ่งพรวดจากใต้บาดาล หรือขุมอเวจีล้ำลึกนั้นทำให้เกิดคลื่นลูกโตๆ ม้วนตัวถาโถมเข้าโหมกระหน่ำจนเรือแทบจะจมหายไปใต้คลื่น ก่อนจะพุ่งหัวขึ้นพ้นน้ำ กระแทกตูมลงไปครึกโครมปานจะแตกทำลายในพริบตา!

ชาวเรือกระเด็นกระดอนไปคนละทิศละทาง แผดร้องโหยหวนด้วยความตกใจสุดขีดคลั่ง...ใครเคราะห์ร้ายก็หล่นตูมลงน้ำ หมดโอกาสดิ้นรนตะเกียกตะกาย คลื่นปั่นป่วนดูดกลืนร่างจมหายกลายเป็นผีเฝ้าทะเลไปเดี๋ยวนั้นเอง

ปีศาจร้ายได้เหยื่อสาสมใจก็หัวเราะร่า ดังเหมือนเสียงฟ้าร้อง ก่อนจะทิ้งตัวจมหายไปต่อหน้าต่อตา...เกิดคลื่นยักษ์โจมตีเรืออีกครั้ง โชคดีที่ยังไม่ถึงกับพลิกคว่ำให้ผู้คนต้องล้มตายมากกว่าเดิม

ขึ้นฝั่งได้ก็จับไข้จับหนาวไปตามๆ กัน! บางคนเพ้อเจอคลั่งถึงปีศาจร้ายอยู่หลายวัน บางคนก็สบถสาบานว่าชาตินี้จะไม่ยอมออกทะเลอีกต่อไป เพราะภาพอันน่าสยดสยองพองขนติดตามมาหลอกหลอน เข็ดหลาบขี้อ่อนขี้แก่ชนิดจดจำฝังใจไปจนวันตาย!

แต่ชาวเรือที่ประสบเหตุการณ์น่าขนหัวลุกหลายๆ คนก็ยังออกทะเลอีกต่อไป เพราะความเคยชินต่ออาชีพที่ทำมาตั้งแต่บรรพบุรุษ จะไปหากินทางอื่นก็ไม่ถนัดไม้ถนัดมือเหมือนออกทะเลหาปลา

ถึงแม้ว่าจะต้องวัดดวงกับปีศาจทะเลก็ไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ ครับ นอกจากจะสวดมนต์ภาวนา ขอให้คุณพระคุณเจ้าช่วยคุ้มครองให้อยู่รอดปลอดภัย...ได้กลับเข้าฝั่งมาเห็นหน้าลูกเมียทุกครั้งก็แล้วกัน!


ขอบคุณเรื่องเล่าจากข่าวสด