อุ้มลูกรอผัว


อุ้มลูกรอผัว

มันเป็นเรื่องสมัยที่แม่เรายังเป็นสาวๆน่ะ

แม่เราเล่าให้ฟัง มีสองสามีภรรยา คนที่เป็นสามีนะ เค้าก็เป็นญาติห่างๆกับแม่ เราด้วย เค้ามีอาชีพเป็นภารโรงอยู่ที่โรงเรียนประถมแถวบ้าน เค้ามีอาชีพเป็นภารโรงอยู่ที่โรงเรียนประถมแถวบ้าน ส่วนภรรยาของ เค้าก็ตั้งท้องได้8เดือนกว่า ใกล้คลอดแล้ว ก็มีอาชีพขายของในโรงเรียนนั้นแหละ วันนึงก็มีการจัดกีฬาสีที่โรงเรียน ผู้หญิงคนนั้น เค้าก็วิ่งข้ามถนนไปซื้อของยังอีกฟากหนึ่งของถนน ขณะที่วิ่งข้ามไปนั้นก็ไม่ทันดูรถที่วิ่งมาเพราะรีบร้อน จึงถูกรถบรรทุกที่วิ่งมาชน จนเสียชีวิต เป็นภาพที่น่าสลดใจสำหรับผู้พบเห็นมาก เด็กที่อยู่ในท้องยังดิ้นอยู่ และดิ้นแรงมาก แต่ไม่มีใครช่วยอะไรได้

เราคิดว่าถ้าเป็นเดี๋ยวนี้เด็กคนนั้นคงรอดตายแล้ว เมื่อหยุดดิ้นแล้ว คิดว่าตายแล้วนั่นแหละ

ก็มีสัปเหร่อมาผ่าท้องผู้หญิง คนนั้นด้วยเคียว เพราะถือกันว่าคนตายท้องกลมจะได้ไม่เฮี้ยน พอเสร็จแล้วสามีก็ได้นำศพภรรยาและลูกไปไว้ที่โรงเรียน ที่บ้านพัก ภารโรง เพื่อทำพิธีทางศาสนา และได้ทำพิธีตัด ( พิธีตัดคือ ตัดผัวตัดเมีย ตัดพ่อตัดลูกและเหล่าญาติๆ ) พอผ่านไปได้ประมาณ หลายเดือนเหมือนกันนะ ก็มีคณะแสดงม้ามาแสดงที่โรงเรียนนั้น เค้าแสดงกันตอนกลางคืน เพราะกลางวันคนส่วนมากจะไปทำงานกันน่ะ

เด็กๆก็ไปโรงเรียน คณะนั้นเค้าก็มาแสดงกันเป็นเวลาเจ็ดคืน

พอตกคืนที่สาม หัวหน้าคณะเกิดคิดอะไรขึ้นมาก็ไม่รู้ เดินไปทำธุระส่วนตัว แถวหลังโรงเรียนน่ะ แถวนั้นก็เป็นทุ่งนาด้วย พอทำธุระเสร็จ ก็เห็นผู้หญิงยืนอุ้มลูกอยู่ที่คันนา ผู้หญิงคนนั้นร้องไห้ด้วย แต่เค้าไม่คิดอะไรเลยเดินไปถามว่ามีไรมั้ย ทำไมมายืนร้องให้อุ้มลูกอย่างนี้ล่ะ ผู้หญิงคนนั้นก็บอกไปว่าชั้นถูกผัวทิ้ง หาก็ไม่เจอ นี่ก็หามาตั้งนานแล้ว หลายเดือนแล้ว เค้าทิ้งชั้นกับลูก หัวหน้าคณะก็ถามอีกว่า บ้านอยู่ไหน ผู้หญิงก็ตอบไปว่าก็อยู่แถวนี้แหล่ะ แต่เข้าบ้านไม่ได้ ไม่รู้จะไปอยู่ไหน เค้าจึงคิดว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นคนไม่ดี คงมีชู้ และมีลูกกับชู้ เลยโดนไล่ออกจากบ้าน เค้าก็เลยล่ำลาผู้หญิงคนนั้นแล้วกลับไปที่งานต่อ

พอตอนเช้าก็ถามชาวบ้าแถวนั้นเกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้น

และเล่าเรื่องที่ตัวเองเจอ ชาวบ้านฟังแล้วก็รู้ทันที และเล่าเรื่องเกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้นให้เขาฟัง และเล่าอีกว่า ที่เขาหาสามีไม่เจอก้เป็นเพราะว่าได้ทำพิธีตัดแล้ว เพราะผู้หญิงคนนั้นตายไปแล้วนั่นเอง ต่อจากนั้นอีกนะ คณะแสดงก็ได้หยุดการแสดงแล้วก็แผ่นไปเลย


ขอบคุณเรื่องเล่าจากช็อคเอฟเอ็ม


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์