แม่นากพระโขนง (3)


แม่นากพระโขนง (3)

เสียงโจษจันถึงความดุร้ายของแม่นาก ตรงกับความเชื่อถือของคนโบราณที่ว่า "ผีตายทั้งกลมดุร้ายที่สุด" แม้ว่าสัปเหร่อจะตอกตะปูฝาโลงพร้อมกับลงคาถาอาคมที่เรียกว่า "สะกดวิญญาณ" แล้ว แต่ก็ยังเอาไม่อยู่

ชาวพระโขนงทยอยย้ายบ้านหนีผีแม่นากไปหลายครัว เรือน เพราะอารามหวาดกลัวว่าจะโดนหลอกหลอนจนขวัญหนีดีฝ่อตายเสียเปล่าๆ

จนพ่อมากกลับมา โดยไม่ระแคะระคายเลยว่าเมียรักของตนคลอดลูกตายไปแล้วเมื่อเดือนก่อน!

ทิดทุยบอกข่าวร้ายก็ถูกหาว่าใส่ร้ายเมียของตนอย่างหน้าด้านๆ

ไม่ว่าใครจะบอกกล่าวยังไง พ่อมากก็ไม่เชื่อทั้งนั้น จนแทบจะเกิดวิวาทบาดถลุงกันขึ้น เพราะพ่อมากยังเห็นแม่นากเป็นคนปกติ ลูกชายอ้วนท้วน หน้าตาน่ารักน่าชัง ส่งเสียงอ้อแอ้ตามประสาทารก ยิ่งทำให้พ่อมากอุ้มชู กอดจูบด้วยความรักใคร่ลูกน้อยของตนสุดหัวใจ

จนกระทั่งวันหนึ่งก็เกิดความแตกจนได้!

นั่นคือ แม่นากจะตำน้ำพริกให้ผัวกิน แต่มะนาวเจ้ากรรมเกิดพลัดหล่นลงร่องกระดานไป แม่นากเผลอตัวจึงเอื้อมมือยาวเหยียดลงไปหยิบมะนาวที่ใต้ถุนเรือนขึ้นมา โดยไม่ได้เฉลียวใจว่าผัวมองเห็นเหตุการณ์นั้นเต็มลูกตา

พ่อมากแน่ใจแล้วว่าแม่นากคลอดลูกตายอย่างที่ได้ข่าวมาจริงๆ จึงวางแผนหลบหนีอย่างแยบยล ด้วยการเจาะตุ่มน้ำแล้วเอาดินเหนียวอุดไว้ ใกล้ดึกก็บอกแม่นากว่าปวดท้องเบา แล้วรีบลงบันไดมาเปิดดินเหนียวที่ตุ่ม ทำให้เกิดเสียงเหมือนผู้ชายกำลังยืนปัสสาวะอยู่ ส่วนตัวเองรีบจ้ำอ้าวมุ่งหน้าไปวัดมหาบุศย์เพื่ออาศัยหลบภัย

ฝ่ายแม่นากเห็นผัวหายไปนานก็สงสัย เมื่อลงมาเห็นตุ่มน้ำก็เข้าใจได้ตลอด เร่งรุดตามหาผัวไปทันก่อนที่ฝ่ายนั้นจะถึงวัด

พ่อมากแทบจะขาดใจตายด้วยความหวาดกลัว พอดีเหลือบไปเห็นต้นหนาดพุ่มใหญ่อยู่ใกล้ๆ จึงพุ่งตัวเข้าไปทันที แม่นากเองถึงจะเป็นผีตายทั้งกลม แต่ก็หวาดกลัวฤทธิ์เดชของใบหนาดเช่นเดียวกับภูตผีทั่วๆ ไป ได้แต่ยืนร้องไห้อ้อนวอนผัวรักอยู่ห่างๆ ให้กลับไปร่วมสุขร่วมทุกข์กันที่บ้านตามเดิม

พ่อมากก็พลอยน้ำตาไหลเพราะสงสารเมียเช่นกัน

...ทั้งหวาดกลัวทั้งสมเพชเวทนา พ่อมากก็บอกกล่าวตามแบบของคนที่ถูกผีหลอกทั่วๆ ไปว่า...ขอให้ไปผุดไปเกิดเสียเถิดนากเอ๋ย! ขอให้วิญญาณจงไปสู่สุคติเถิด อย่าได้อาลัยอาวรณ์ภพนี้ภูมินี้อีกเลย

แถมท้ายว่า

"พี่เป็นคนแต่นากเป็นผี ถึงยังไงเราก็อยู่ด้วยกันไม่ได้หรอก ถ้าแม้นว่าชาติหน้ามีจริงก็ขอให้เราได้พบกันอีก ได้เป็นคู่ผัวตัวเมียที่ครองคู่กันอย่างผาสุกไปจนแก่จนเฒ่า อย่าได้มีเวรมีกรรมทำให้ต้องจำพรากกันก่อนเวลาอันสมควรเหมือนชาตินี้เลย"

แม่นากก็ได้แต่ยืนร้องห่มร้องไห้อยู่จนรุ่งอรุณ แสงอาทิตย์สาดส่องลงมา ร่างแม่นากก็หายวับไป พ่อมากก็ซมซานออกจากดงหนาดไปพึ่งใบบุญหลวงตาในวัดมหาบุศย์ จนกระทั่งอพยพหลบภัยไปอยู่ที่อื่นในเวลาต่อมา

เรื่องของแม่นากพระโขนงก็มีเพียงเท่านี้ แต่ก็เป็นที่โจษจันกันแพร่หลายกันไปปากต่อปาก จนกลายเป็นเรื่องโด่งดังไม่มีสิ้นสุดมาจนถึงปัจจุบัน

เพราะความโด่งดังของแม่นากจากพระโขนงเข้ามาถึงพระนครนี่เอง กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์จึงทรงนำมา สร้างเป็นละครเวที ออกแสดงที่โรงละครปรีดาลัย มีการต่อเติมเสริมแต่งให้เรื่องราวสนุกสนาน ตื่นเต้นเร้าใจคนดูตามประสาหนังละครทั่วๆ ไป เช่นมีฉากหมอผีเรียกวิญญาณแม่นากลงตุ่ม แต่ปรากฏว่าแม่นากสำแดงอิทธิฤทธิ์ออกจากตุ่มไปปรากฏตัวอยู่บนขื่อ...เล่นเอาคนดูร้องวี้ดว้ายกันไปทั้งโรง

เบื้องหลังก็คือการเจาะตุ่มน้ำให้ตัวละครที่เล่นเป็นแม่นากลอดออกมาโดยคนดูไม่เห็น ทำให้ได้รสชาติตื่นเต้น ถูกอกถูกใจแฟนละครจนต้องแสดงกันยาวยืดถึง 24 วัน...เมื่อเป็นละครดังก็ต้องเอามาสร้างเป็นภาพยนตร์กันตามระเบียบ

บริษัทหัสดินทรนำเรื่อง "นางนากพระโขนง" มาสร้างหนังในปี 2479 คนดูก็แห่แหนไปอุดหนุนกันแน่นตึงยิ่งกว่าตอนเป็นละครเสียด้วยซ้ำไป



ขอบคุณเรื่องเล่าจากข่าวสด


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์