ภาพปีศาจ


ภาพปีศาจ

บิณฑ์" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากโรงแรม

นอกจากจะไม่กลัวผีแล้วผมยังไม่เชื่อเรื่องผีอีกต่างหาก คนเราก็ต้องทำมาหากินจนตัวเป็นเกลียว แล้วจะเอาเวล่ำเวลาที่ไหนไปสนใจเรื่องผีๆ สางๆ อีกล่ะครับ?

โดยเฉพาะเซลส์แมนอย่างพวกผม ต้องตะลอนขึ้นรถลงเรือ ไปเหนือล่องใต้เพื่อขายสินค้าประเภทของจำเป็นสำหรับการทำไร่ทำนาสารพัดชนิด ตั้งแต่ปุ๋ยไปยันรถไถหรือควายเหล็ก เรื่องสำคัญที่สุดก็คือการรวบรัด "ปิดการขาย" ให้รวดเร็วที่สุด จะได้ไปพบปะกับเหยื่อ...เอ๊ย! ลูกค้ารายอื่นๆ ต่อไป

ขืนมามัวคิดเรื่องผี กลัวผี ก็อย่าไปเป็นเซลส์ที่ต้องออกต่างจังหวัดเลยครับ เพราะต้องไปนอนค้างในโรงแรม ไม่รู้ว่ากี่สิบกี่ร้อยแห่ง ไม่งั้นจะเกิดจินตนาการสุดหลอน จนถึงสยดสยองพองขนสุดขีดจนไม่กล้าหลับนอนในโรงแรมเด็ดขาด

ต้องขอสารภาพอย่างหน้าชื่นว่า...ผมผู้ไม่กลัวผี ได้ประสบกับเหตุการณ์ขนหัวลุกปิ่มว่าจะเอาชีวิตไม่รอดในโรงแรมนั่นเอง!

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อราว 3 ปีมาแล้ว ตอนนั้นผมกำลังตระเวนภาคอีสาน ไล่ดะตั้งแต่โคราช บุรีรัมย์ สุรินทร์...แล้ววกไปร้อยเอ็ด มหาสารคาม ก่อนจะไปถึงอุดรฯ ซึ่งเป็นจังหวัดใหญ่ ลูกค้าเยอะแยะ...ปัญหาอยู่ที่เราจะรอบจัดแค่ไหนในเรื่อง "ปิดการขาย" ได้เร็วๆ น่ะ

สรุปว่า ผมนอนพักโรงแรมระดับ 3 ดาว เพราะเที่ยวนั้นธุรกิจราบรื่นเป็นที่ยิ่ง

ในห้องนอนเล็กๆ ที่มีทั้งแอร์ ทีวี และตู้เย็นพร้อมสรรพ...หลังจากกินอาหารกับน้ำสีอำพันแก้เหนื่อย ก็กลับมานอนโรงแรม...เป้าหมายเที่ยวนี้อยู่ที่หนองคายครับ

ข้างเตียงที่ติดกับห้องน้ำมีภาพเขียนย่อมๆ ที่มักประดับประดาตามห้องหับในโรงแรมทั่วไป...เป็นรูปม้าสีขาวกำลังเหยาะย่างอยู่ที่พื้นดินใกล้เชิงเขา เป็นภาพดาดๆ ที่ไม่มีอะไรน่าสนใจนัก แม้จะนึกชมว่าเขาเขียนรูปม้าเก่ง ดูแล้วรู้สึกว่ามันมีชีวิตชีวาไม่ผิดกับภาพถ่าย

น่าประหลาดนิดหน่อยที่นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มของมันจ้องมองยิ้มๆ แต่กะพริบตาอีกทีไหงนัยน์ตาถึงกลายเป็นสีฟ้าไปได้ก็ไม่รู้...คงเพราะเบียร์สองขวดใหญ่ที่ผมเพิ่งดวดมาหยกๆ ทำให้หูตาลายได้ง่ายๆ

...ดับไฟขึ้นเตียงแล้วชักผ้าห่มคลุมร่างก่อนจะหลับไปอย่างรวดเร็ว จมดิ่งเข้าสู่ความฝันอันพิลึกพิลั่นน่าดู!

เสียงประหลาดดังแว่วขึ้นไกลๆ มันไม่ใช่เสียงที่คุ้นหูเอาเสียเลย ฟังเหมือนเสียงกลองทึบๆ หรือเสียงอะไรกระทบข้างฝา...ต่อมาจึงมีเสียงร้องแหลมเป็นห้วงๆ ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จนผมเริ่มจะนึกออกว่ามันเป็นเสียงอะไรแน่...

เสียงฝีเท้าม้าที่ควบอย่างคึกคะนอง กับเสียงร้องอย่างลำพองใจของมันนั่นเอง

ในฝันนั้น ผมรู้ตัวว่ากำลังฝันไป...แล้วผมก็ลืมตาขึ้นในฝันนั้น! มองเห็นภาพที่ทำให้อ้าปากค้าง แต่ไม่มีเสียงอะไรออกมาเลย รู้สึกเหมือนกับเส้นผมตั้งชันขึ้นมาลุกกรูเกรียวไปทั้งศีรษะ

นรกเป็นพยาน! เจ้าม้าขาวในภาพเขียนนั้นกำลังขยับเท้าเต้นอยู่กับที่ นัยน์ตาแดงจ้าไม่ผิดกับเปลวไฟจ้องมองผมเขม็ง ท่ามกลางบรรยากาศเงียบเชียบ เยือกเย็นจนหนาวสะท้านไปถึงขั้วหัวใจ แต่ผมกลับเหงื่อกาฬแตกพลั่กออกมาเต็มหน้า

ก่อนที่จะขยับตัววิ่งหนีในความฝัน ม้าอุบาทว์ตัวนั้นก็แสยะปากแผดเสียงร้องดังลั่นแสบแก้วหู นัยน์ตาเหลือกโปนออกมาราวกับถ่านไฟแดงโร่...เผ่นโผนโจนทะยานเข้าใส่ผมในพริบตานั้นเอง!

"เฮ้ย!" ได้ยินเสียงตัวเองร้องตะโกนจนแสบแก้วหู พร้อมๆ กับม้าขาวจากนรกนั่นกระโจนออกจากภาพเขียนเข้ามาคร่อมอยู่บนร่างของผม ในอาการดุร้ายเหมือนจะเอาชีวิต

โลกทั้งโลกแตกสลายลงเป็นเสี่ยงๆ สมองผมกำลังจะระเบิดออกมา สรรพสิ่งหมุนเคว้งคว้างเหมือนตกอยู่ในเรือที่กำลังโดนมรสุมโหมกระหน่ำ ผมตกใจจนลุกพรวดพราดขึ้นมานั่งพร้อมกับตะโกนลั่นๆ

"ช่วยด้วย! ช่วยที...ไอ้ม้าปีศาจมันจะฆ่า..."

เสียงผมขาดหายไปเมื่อพบว่าตัวเองกำลังนั่งตัวสั่นเทาอยู่บนเตียง หอบหายใจฮั่กๆ จนตัวโยน เปิดไฟหัวเตียงแล้วหันขวับไปมองภาพเขียนข้างฝา ก็พบว่าม้าขาวตัวนั้นกำลังยืนจ้องมองมาอย่างเยือกเย็น...คล้ายๆ กับว่ามันกำลังยิ้มเยาะผมอย่างสาสมใจ

...ผมอาจจะฝันร้ายไปเองก็ได้! ตอนแรกผมก็ปลอบใจตัวเองแบบนั้น แต่แล้วก็ต้องยอมรับความจริงที่ว่า...บนผ้าห่มนั่นมีรอยเท้าม้าทั้งสี่ข้างปรากฏชัดเจน จนผมต้องลุกขึ้นมานั่งถ่างตามองกระทั่งรุ่งเช้า...เดี๋ยวนี้ผมเชื่อแล้วครับว่าผีมีจริง!



ขอบคุณเรื่องเล่าจากข่าวสด


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์