ตู้เก็บวิญญาณ

"หนูจ๋า" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากตู้ในห้องเช่า

หนูเป็นเด็กต่างจังหวัด เรื่องผีน่ะหนูเคยได้ยินได้ฟังมาเยอะ ไหนจะหนังผีอีกล่ะ ไม่ว่าจอเล็กหรือจอใหญ่หนูดูมาหมด แต่แปลกที่ไม่กลัวสักนิด

เขาว่าบ้านนอกผีชุม แต่ในกรุงเทพฯ น่ะคนหลอกเก่งกว่าผีด้วยซ้ำไป

ที่ไหนได้ล่ะคะ หนูมาโดนผีหลอกในกรุงเทพฯ นี่เอง!

เรื่องขนหัวลุกนี่เกิดขึ้นหลายปีแล้วค่ะ คือพี่สาวหนูมาทำงานเป็นแคชเชียร์ในคาเฟ่แถวสะพานควาย พี่แอนตั้งใจทำงานจริงๆ ถึงเดือนก็ส่งเงินไปให้พ่อแม่ใช้ มีโอกาสก็กลับไปเยี่ยมบ้าน

หนูชอบฟังพี่สาวเล่าเรื่องกรุงเทพฯ หนุ่มๆ สาวๆ กับการแต่งตัวสวยงาม การเที่ยวเตร่น่าสนุกทั้งกลางวันและกลางคืน หนูถามว่าเหมือนในหนังและทีวีใช่ไหม? พี่แอนบอกว่าไม่เหมือนหรอก...ของจริงสวยงามกว่าตั้งร้อยเท่า!

บอกตรงๆ ว่าหนูอยากไปเที่ยวกรุงเทพฯ มากเลย พอดีพี่แอนมาตอนปิดเทอมปลายก่อนสงกรานต์เกือบเดือน หนูเลยขอไปเที่ยวกรุงเทพฯ ด้วย แค่ 3-4 วันก็ยังดี

ตอนแรกพ่อแม่ไม่ยอมเพราะเป็นห่วง บอกว่าพี่แอน ทำงานกลางคืนหนูจะอยู่คนเดียวได้ยังไง? แต่พี่แอนก็ช่วยพูดว่าไม่มีปัญหาหรอก ห้องเช่าติดๆ กันมีเยอะ พอจะฝากฝังคนที่ไว้ใจได้ ข้อสำคัญอย่าหนีเที่ยวก็แล้วกัน อารามอยากไปหนูบอก โอ๊ย...สาบานเลยว่าจะไม่ไปไหนเด็ดขาด

พี่สาวคงสงสาร เลยบอกกับพ่อแม่ว่าจะดูแลน้องอย่างดีที่สุด อาจจะหยุดงานต่ออีกสัก 2-3 วันก็ได้ พ่อแม่จะได้หมดห่วง หนูเลยได้เที่ยวกรุงเทพฯ สมใจ

ห้องเช่าพี่แอนอยู่ในซอยลอยมา เป็นบ้านตึกสองชั้นมีห้องเยอะแยะ คนเช่าส่วนมากเป็นผู้หญิง อ้อมห้องชั้นล่างไปขึ้นบันไดจนถึงห้องพักชั้นสอง เป็นห้องแคบๆ มีเตียงชิดฝา พัดลมเพดานและตู้เสื้อผ้าพลาสติกฝั่งตรงข้ามกับเตียง

ใกล้ๆ นั้นเป็นโต๊ะเครื่องแป้งเล็กๆ มีโต๊ะพับได้กับเก้าอี้สองตัว รับแขกหรือกินข้าวก็ที่โต๊ะนั่นแหละ ปลายเตียงมีชั้นวางแก้ว ถ้วยชาม ขวดกาแฟ น้ำตาล กระติกน้ำแข็ง ขวดน้ำเปล่า แม็กกี้ หม้อหุงข้าวไฟฟ้าอยู่ชั้นล่างสุด

ข้างฝาเขียนภาษิตไว้พราว เช่น "ตนเป็นที่พึ่งของตน" "เพื่อนกินหาง่าย เพื่อนตายหายาก" "ชีวิตคือความฝัน สิ่งสำคัญคือเงินตรา" "รักแท้คือแม่ข้า" ฯลฯ

วันแรกหนูขอให้พี่แอนพาเที่ยวกรุงเทพฯ ทันที ทั้งประตูน้ำ สยามสแควร์ ท้องสนามหลวง เดินห้าง ดูหนังและกินอาหารอร่อยๆ หนูเห็นหนุ่มหล่อๆ สาวสวยๆ แต่งตัวสุดเท่เดินผ่านไปมา เผลอมองจนเหลียวหลัง พี่แอนต้องดุเลยค่ะ...คืนนั้นพอเข้านอนก็หลับเป็นตาย!

รุ่งเช้า เราออกไปหาผัดไทยเจ้าอร่อยกินที่ปากซอยแล้วออกไปชมกรุงอีกวัน ตอนเย็นกลับห้องพักพี่แอนบ่นถึงที่ทำงาน หนูก็ยุให้ไปเถอะหนูอยู่คนเดียวได้ รับรองว่าจะไม่หนีไปเที่ยวที่ไหน พรุ่งนี้ตอนบ่ายๆ ขอเที่ยวอีกหน่อยก่อนขึ้นรถทัวร์กลับ

คืนสุดท้ายในกรุงเทพฯ หนูต้องนอนคนเดียวค่ะ พี่แอนสัญญาว่าจะกลับมาไม่เกินตี 3 หนูก็หลับสบายเหมือนคืนแรก...แต่แล้วเสียงแปลกๆ ที่ได้ยินทำให้หนูตื่นขึ้น

"ช่วย...ด้วย..." เสียงผู้หญิงดังแผ่วๆ อยู่ใกล้หู ตอนแรกหนูนึกว่าหูแว่วไปเอง แต่เสียงสะอื้นเบาๆ ก็ดังตามมาอีก "โอย...ปวดเหลือเกิน! ช่วยด้วย..."

ใครน่ะ หนูนึก...หูตาสว่างเต็มที่ เปิดไฟดูนาฬิกาปลุกหัวเตียงก็เห็นตีสองกว่าๆ หนูนอนตั้งแต่สามทุ่มโดยเปิดเทปฟังจนหลับ ประตูก็ใส่กลอนเรียบร้อย รอให้พี่แอนมาเคาะเรียกตอนตีสาม แต่...ในห้องว่างเปล่านี่คะ!

นัยน์ตาหนูมองไปรอบๆ อีกครั้งก็ไม่เห็นอะไรผิดปกติ ลุกขึ้นนั่งมองอยู่ใต้พัดลมครางหึ่ง...จู่ๆ ก็หนาวเยือกไปทั้งตัว ขนลุกซู่เมื่อเสียงนั้นดังขึ้นอีก

"ช่วยด้วย...ฉันปวดมาก! โอย..." หนูอ้าปากค้าง ตาโพลง ขนหัวคล้ายจะลุกชันเมื่อได้ยินเสียงที่ดังมาจากตู้เสื้อผ้านั่นเอง หนูถอยกรูดๆ ไปจนหลังพิงฝา กลัวจนอยากร้องไห้โฮ...

ใครจะเข้าไปร้องไห้อยู่ในตู้? ถ้าไม่ใช่ผี

คำตอบคือเสียงรูดซิปจากด้านขวาบน ด้านหน้าผ่ากลาง พลาสติกสองข้างเปิดลงช้าๆ

โอย...หนูกลัวจนหัวใจแทบหยุดเต้น อยากจะหลับตาแต่ก็ยิ่งเบิกโพลง มองดูภาพสยองสุดขีดที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา...แล้วหนูก็ได้เห็นภาพนั้นค่ะ!

คุณพระคุณเจ้า! ร่างเล็กๆ นั่งขดงอก่อ ผมยาวแทบปิดหน้า ค่อยๆ เบือนมาจ้องมองด้วยนัยน์ตาลึกกลวงสีดำ เลือดแดงฉานไหลย้อยลงมาตามแก้มและคางช้าๆ ราวกับภาพในคืนฝันร้าย

"โอ๊ย!" หนูแผดร้องสุดเสียง หลับตาปี๋ ร้องลั่นๆ จนแสบแก้วหู มีเสียงทุบประตูโครมคราม แต่หนูลุกไม่ได้ค่ะ...ในที่สุดประตูก็พังครืน พี่แอนวิ่งนำหน้าเพื่อนเข้ามาหาหนูที่ร้องไห้โฮ โผกอดพี่สาวแล้วหมดสติไป


ทุกวันนี้หนูอยู่บ้านตามเดิม โดนผีหลอกครั้งเดียวเข็ดกรุงเทพฯ จนตายเลยค่ะ!


ตู้เก็บวิญญาณ

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์