8 ตำนานอันน่าขนหัวลุก วิทยาลัยนาฏศิลป


8 ตำนานอันน่าขนหัวลุก วิทยาลัยนาฏศิลป


1. ห้องน้ำตึกดนตรีไทย

เคยมีประวัติว่ามีนักเรียนผูกคอตายที่ห้องน้ำห้องสุดท้าย ซึ่งมีเหตุการณ์แปลกๆ เกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเสียงคนเปิดน้ำทิ้งไว้ทั้งๆ ที่ไม่มีคนเข้า เสียงร้องไห้ เสียงโหยหวน ซึ่งในปัจจุบันห้องน้ำได้ถูกปิดตายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

2. ห้องเรียนชั้น 2 ของตึกเก่า
เคยมีนักเรียนผูกคอตายเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ภารโรงและอาจารย์ที่อยู่เวรเคยพบเห็นบ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นเสียงร้องไห้ หรือเห็นคนนั่งอยู่ในห้องคนเดียวแล้วนั่งก้มหน้า พอเห็นแบบนี้แล้วก็ไม่มีใครกล้าไปตรวจตึกนั้นอีกเลยจนถึงทุกวันนี้... เชือกนั้นก็ยังคงอยู่ในห้องเรียนนั้นเหมือนเดิม

3. ม่านแดง ในโรงละครแห่งชาติ
มีคนเล่าว่า ถ้าใครเข้าไปในโรงละครหรือไปแสดงในั้น อย่าได้ไปเล่นที่ม่านแดงเด็ดขาดเพราะว่าเคยมีคนไปเล่นแล้วก็หายตัวไปอย่างลึกลับ... หลอนกันเลยทีเดียววววววว

4. ณ ลานมรกต จะมีหุ่นรูปปั้นตัวพระ-นางแต่งเต็มยศอยู่ในตู้กระจก
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 10 กว่าปีมาแล้ว เคยมีนักเรียนได้โอกาสไปแสดงที่ต่างประเทศ ทั้งตัวพระ-ตัวนาง แต่แล้วก็เกิดเหตุเครื่องบินตก ทำให้ 2 คนนั้น

ตายคาที่ อาจารย์เสียใจมากเนื่องจากนักเรียน 2 คนนี้เป็นคนดีเรียนเก่ง ก็เลยปั้นหุ่นอนุสรณ์เด็ก 2 คนนี้ไว้ ซึ่งก็มีผอ. เคยเห็น 2 คนนี้ออกมาจากตู้ บางครั้งก็เหมือนกับว่ารูปปั้นขยับได้ แต่ที่รูปปั้นนั้นได้มีโซ่ล่ามไว้เพื่อไม่ให้รูปปั้นล้มลงมา แต่พอจะเปลี่ยนชุดให้กลับเห็นว่า ขาหุ่นที่มีโซ่ล่ามไว้กลับเป็นรอยช้ำ ซึ่งมันแปลกมากหลังจากนั้นก็ไม่ได้เอาโซ่ล่ามไว้อีกเลย และในคืนวันพฤหัสมักจะมีคนเห็น 2 คนนี้ ออกมารำให้พระพิฆเนศดู

5. ต้นลั่นทม หน้าโบสถ์วังหน้า
เคยมีนักศึกษาชั้นสูงที่เรียนเกี่ยวกับการทำรูปปั้นต้องอยู่ทำงานจนดึก พอซักประมาณ 5 ทุ่ม เขากับเพื่อน 1 คนได้ลงมาโทรศัพท์ที่หน้าต้นลั่นทม ระหว่างที่กำลังคุยโทรศัพท์อยู่นั้น เพื่อนอีกคนก็เหลือบไปเห็น ผู้หญิงผมยาวแต่งชุดไทยกำลังนั่งแกว่งขาที่ต้นลั่นทม ตอนแรกก็นึกว่าตาฝาดก็ไม่ได้เอะใจอะไร แต่พอโทรศัพท์เสร็จแล้วออกมาจากตู้โทรศัพท์นั่นแหละชัดเลย เป็นผู้หญิงชุดไทยกำลังห้ออยหัวและหันมามองพวกเขา ซึ่งพวกเขาตกใจมากเป็นลมสลบไป และก็ไม่กล้ามาทำงานตอนดึกอีกเลย

6. หอใน วิทยาลัยนาฏศิลป
เรื่องมีอยู่ว่า ตอนนั้นเรากับเพื่อนเป็นเด็กวิทยาลัยนาฏศิลป และที่วิทยาลัยจะมีหอข้างใน คืนนั้นเป็นคืนวันศุกร์ ซึ่งจะมีคนกลับบ้านเยอะแยะ เรากับเพื่อนๆ ในกลุ่มเลยมานอนห้องเดียวกัน (ในหอพักมีทั้งหมด 4 ชั้น ชั้นละประมาณ 7-8 ห้อง แต่จะใช้ตู้เหล็กขนาดเล็กกั้นห้อง ฉะนั้นจึงสามารถที่จะเดินหรือตะโกนคุยกันกับเพื่อนต่างห้องได้ ละเตียงก็เป็นเตียง 2 ชั้น) แต่ด้วยความที่กลุ่มฉันมีทั้งหมด 7 คน และด้วยเตียงมีทั้งหมด 4 เตียง 8 ที่นอน จึงทำให้เหลือที่นอน 1 ที่ คืนนั้นฉันกับเพื่อนนอนคุยกับจนดึกทั้งๆ ที่ปิดไฟ กว่าจะหลับก็ปาเข้าไปเกือบตี 1 พอฉันเริ่มหลับไปพร้อมกับเพื่อนๆ ได้สักพัก เวลาประมาณตี 3 ครึ่ง ฉันเริ่มรู้สึกตัวขึ้นมาด้วยความปวดฉี่ และหน้าต่างที่อยู่ตรงข้ามกับฉันที่เปิดไว้ทำให้ฉันรู้สึกเริ่มหวั่นกลัว นิดๆ ด้วยความปวดฉี่มากกว่าสิ่งอื่นใด ฉันต้องไปเข้าห้องน้ำ และด้วยความที่ไม่อยากรบกวนเพื่อนให้ไปด้วย ฉันจึงตัดสินใจไปคนเดียว

ทันใดที่ฉันลุกขึ้นจากเตียง ฉันก็ต้องตะลึงกับสิ่งที่เห็น ฉันเห็นขาคนห้อยลงมาจากเตียงที่ว่างอยู่ ใส่จงกระเบนสีดำกำลังนั่งแกว่งขา ฉันไม่กล้าที่จะมองหน้า และเชื่อว่าอาจจะเป็นครูในวิทยาลัย ฉันจึงตัดสินใจเดินไปเข้าห้องน้ำที่บันไดอย่างสงบ ด้วยระยะทางที่ห้องของฉันอยู่ในที่สุดของชั้น และห้องน้ำก็อยู่ติดกับบันได ทำให้ความหวาดระแวงมีอยู่มากบวกกับความมืดที่ครอบคลุมอยู่ แล้วฉันก็เสร็จธุระของฉันปิดไฟและกลับเข้าห้องนอน ขณะที่ฉันเดินมาที่เตียง ครูที่นั่งอยู่นั้นก็ยังไม่ไปไหน ยังคงนั่งแกว่งขาอยู่ ฉันตัดสินใจกล้าๆ กลัวๆ มองหน้าท่าน แล้วการตัดสินใจของฉันก็ทำให้มองได้แค่ลำตัวไม่กล้ามองหน้าท่าน จากนั้นฉันก็พยายามสงบสติตัวเอง ฉันไม่ร้องกรีดหรือโวยวายใดๆ เมื่อเห็นท่าน ฉันพยายามนอนให้หลับเช่นเดิม และแล้วก็สำเร็จ ตื่นเช้ามาฉันเล่าสิ่งที่พบให้เพื่อนฟัง เพื่อนๆ ต่างสยองเป็นแถบๆ

7. ห้องดนตรีไทย
เคยมีอาจารย์นอนที่โรงเรียน เพราะว่าเตรียมการแสดงเสร็จจนดึก พอประมาณซักเที่ยงคืนอาจารย์ได้ยินเสียงคนเล่นดนตรีไทย มันจะเป็นไปได้ยังไงนี่มันเที่ยงคืนแล้ว แต่มีอาจารย์คนนึงเล่าว่า เขาเห็นผู้หญิงคนนึงกำลังหวีผมในกระจกและหันมายิ้มให้อาจารย์ ซึ่งทุกคนคิกว่าน่าจะเป็นอาจารย์ท่านก่อนๆ ที่เสียชีวิตไปแล้ว

ปิดท้ายความหลอนกับเรื่องที่ 8

8. เกิดขึ้นที่วิทยาลัยนาฏศิลป์ เชียงใหม่
เรื่องมีอยู่ว่า ในทุกๆ ปี ที่วิทยาลัยนาฏศิลป์ เขาจะมีนิทรรศกาลประมาณ 10 กว่าวัน แต่มีบางปีวงปี่พาทย์ไม้แข็งไปนอนข้างห้องเก็บของ (ห้องเก็บของที่นั่นก็กว้าง 18 เมตร ยาว 32 เมตร มีทางไว้เดินแล้วข้างๆ เป็นที่เก็บเศียรของตัวละคร เครื่องดนตรี ฯลฯ) โดยคืนนั้นพวกวงปี่พาทย์เขาแสดงจนเพลียมากแล้ว จะหลับกันแล้วก็ได้ยินเสียงขับเสียงพา รู้สึกว่าจะเป็นตอนที่นางผีเสื้อสมุทรเขาจะแปลงร่างเป็นผู้หญิงรูปงาม มาจีบพระอภัยมณี แล้วพวกวงปี่พาทย์ก็ไป ปรากฎว่าห้องมันปิด แล้วเสียงก็หายไป ทีนี้ก็เลยกลับไปนอนก็มีเสียงอีก แล้วก็หายไป ทีนี้พวกเขาไปหาครูที่เฝ้าเวรอยู่ แล้วครูเวรก็ไปเดินเข้าไปในห้อง แต่กลับไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย ครูเวรให้พวกวงปี่พาทย์นอน แล้วครูเขาก็นั่งเฝ้าไว้ อยู่ดีๆ ผ่านไปสักพักครูเวรก็ได้ยินเสียงเหมือนที่พวกวงปี่พาทย์ได้ยิน จึงเดินตามเสียงไปเรื่อยๆ แต่ก็ไม่เจออะไรเลย พอรุ่งเช้าทั้งเด็กแล้วก็ครูเวรก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า มีผีอยู่ในห้องนี้ พวกเขาเลยไปถามภารโรง เขาบอกว่าที่นี่เคยเป็นที่แสดงของคณะวงต่างๆ และพ่อของภารโรงชอบมาเปิดวิทยุฟังบ่อยๆ และก็มีหญิงคนนึงชอบมานั่งกลางห้องแล้วขับเสียงพาบทผีเสื้อสมุทรนั่นแหละ....

CR:: campus.campus-star.com



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
ตามข่าวteenee.com จาก LineToday เข้าไปคลิ๊กกดติดตามได้เลย
กระทู้เด็ดน่าแชร์