เรื่องเล่าจากแท็กซี่


เรื่องเล่าจากแท็กซี่

เรื่องนี้เป็นเรื่องจากผู้โดยสารแท็กซี่ผู้หญิงท่านหนึ่ง ที่ได้ฟังประสบการณ์สยองจากปากพี่คนขับรถ ในระหว่างที่นั่งรถกลับบ้าน โดยพี่คนขับรถได้เล่าประสบการณ์สยองให้ฟัง 2 เรื่อง.. (จริงๆ มีอีก ถ้าไม่ถึงที่หมายก่อน)

● เรื่องที่ 1 :
พี่ไปส่งนักศึกษาคนหนึ่งที่มหาวิทยาลัย ตอนนั้นเวลาประมาณเที่ยงคืน ก่อนลงจากรถ นักศึกษาคนนั้นก็บอกว่า ‘พี่..ขากลับพี่ออกทางเดิมนะครับ..' พี่ก็ถามว่า ‘ทำไมล่ะ?' นักศึกษาคนนั้นบอกว่า ‘ไปทางลัดมันมืดครับ ออกทางเดิมดีกว่า..' ว่าแล้วนักศึกษาก็จ่ายตังค์แล้วลงจากรถแท็กซี่ไป แต่พี่ก็คิดในใจว่า ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลยนี่นา ออกทางลัดใกล้กว่ากันเยอะ เราก็ไม่ได้กลัวอะไรอยู่แล้ว แล้วพี่ก็ขับออกทางลัด.. ซึ่งทางลัดมันก็มืดจริงๆ พี่เลยเปิดไฟสูง ไฟสาดไปเจอตึกตึกหนึ่ง เป็นตึกประมาณ 7-8 ชั้น ซึ่งมีชั้น 2 เปิดไฟไว้อยู่แค่ดวงเดียว เป็นไฟหลอดเล็กๆ สลัวๆ มองไกลๆ เห็นยามยืนอยู่หน้าตึก กำลังกวักมือเรียกแท็กซี่พี่ให้จอดรถ เหมือนจะมีผู้โดยสารเรียกรถ พอถึงหน้าตึกพี่ก็จอดรถ แล้วยามคนที่เรียกรถก็วิ่งเข้าไปในตึก พี่ก็คิดในใจ สงสัยคงจะวิ่งไปตามผู้โดยสาร.. พี่รออยู่ประมาณ 5 นาที แต่ก็ยังไม่มีใครลงมา เลยลงจากรถไปยืนอยู่ข้างๆ รถ รออีกประมาณ 5 นาที เลยตัดสินใจตะโกนเรียก ‘จะไปไหมครับบบ!? รอนานแล้วนะครับ ถ้าไม่ไป จะได้ไปหาผู้โดยสารต่อ!' ทันใดนั้นเอง ไฟชั้น 2 ก็ดับลง ด้วยความเงียบ และมืด มีเพียงแสงไฟจากหน้ารถแท็กซี่ส่องไปยังพื้นข้างหน้า พี่คิดในใจ สงสัยจะลงมากันแล้ว

แล้วเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น! มีผู้หญิงกระโดดจากตึกลงมากองตรงพื้นที่หน้ารถพี่จอดอยู่!! สภาพนอนคว่ำ เลือดไหลอาบไปทั้งพื้น พี่ตกใจรีบวิ่งไปดู เผื่อยังมีชีวิตอยู่จะได้ช่วยเหลือทัน.. ขณะที่มือพี่กำลังเอื้อมไปจะถึงตัวหญิงสาวคนนั้น เธอก็ใช้เข่าดันตัวเองลุกขึ้นมายืน แล้วเดินผ่านพี่เข้าไปในตึก เหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น!? พี่นี่ยืนนิ่ง ขาแข็งทำอะไรไม่ถูก เวลาผ่านไปเพียงเสี้ยวนาที หญิงสาวคนนั้นกระโดดจากตึกลงมากองอยู่ตรงพื้นหน้ารถของพี่เป็นรอบที่ 2 ก่อนจะใช้เข่าดันตัวเองขึ้น เดินผ่านพี่ไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก.. ตอนนั้นพี่รีบตั้งสติ คิดในใจ ‘กูจะรอให้มันมาโดดให้ดูอีกทำไมวะ?' พี่รีบขึ้นรถ เหยียบมิด!! หลังตงหลังเต่าที่อยู่ในมหาวิทยาลัยนี่ไม่ได้เบรคสักอัน มารู้ตัวอีกที กางเกงที่ใส่อยู่เปียกไปหมด อ๋อ! กูฉี่ราดดดด!!

ตัวเราได้ฟังแล้วเรารู้สึกขนหัวลุกอย่างบอกไม่ถูกค่ะ พี่แท็กซี่ยังบอกอีกว่า.. ‘ถ้ามีอะไรก็ให้บอกตรงๆ บอกว่าไปทางลัดมันมืด! จะพูดอ้อมๆ ทำไม ถ้าบอกว่าผีดุ ใครมันจะกล้าไป!!' เราเลยถามพี่แท็กซี่ว่า ‘แล้วยามคนที่เรียกไปไหนแล้วล่ะคะ?' พี่แท็กซี่บอก ‘ยังคิดว่ามันใช่คนอยู่อีกเหรอ!?'

● เรื่องที่ 2 :
มีคนมาเรียกแท็กซี่อยู่ที่หน้าปากซอย บอกให้เข้าไปรับคนป่วยในหมู่บ้านที่อยู่ในซอยไปส่งที่โรงพยาบาล พอพี่ขับไปถึงบ้าน เป็นบ้านไม้ทรงไทย คนที่มาด้วยก็ลงจากรถเพื่อไปรับคนป่วยขึ้นรถ สักพักหนึ่ง ก็มีคนอุ้มคนป่วยลงมา อุ้มกันประมาณ 3 คน แล้วมีพระรูปหนึ่งเดินนำหน้า พี่สังเกตแขนของคนป่วยที่ห้อยลงมาจากผ้า เป็นแขนสีขาว ตรงทื่อ ไม่กระดุกกระดิก! แล้วพระก็เปิดประตูแท็กซี่ออกตรงที่นั่งข้างหน้าข้างคนขับ แต่ยังไม่ได้ขึ้น พี่เลยรีบเอื้อมตัวไปปิดประตูเข้ามา เพราะคิดว่านี่คงไม่ใช่คนป่วยละ ไม่ใช่แน่นอน! แล้วพี่ก็ขับรถออกไปเลย.. ขับออกไปเพื่อหาผู้โดยสารใหม่ แต่พอมีผู้โดยสารเรียกรถ เขากลับเรียกคันข้างหลัง ไม่มีใครเรียกคันพี่เลย เป็นแบบนี้หลายครั้งจนพี่ก็เริ่มเอะใจ พี่เลยไปจอดตรงคิวรถแท็กซี่ในห้างแห่งหนึ่ง จอดเป็นคิวแรกเลย แต่ก็ยังไม่มีใครขึ้นมา!? ผู้โดยสารกลับไปขึ้นคันที่อยู่ข้างหลัง จนคิวผ่านไปเรื่อยๆ ทำให้พี่ตัดสินใจขับออกไปจากคิว ขับไปอีกหน่อยก็ถึงโรงพยาบาลที่เป็นจุดหมายปลายทางของคนที่มาเรียกพี่ในตอนแรก พี่เลยตัดสินใจจอดรถ แล้วเดินออกไปเปิดประตู แล้วพูดลอยๆ ขึ้นมาว่า ‘จะมาโรงพยาบาลใช่ไหมครับ ถึงแล้วนะครับ ผมต้องทำมาหากินครับพี่..' แล้วพี่ก็ปิดประตู พอขึ้นรถเข้าฝั่งคนขับ ก็มีผู้โดยสารเดินออกมาจากโรงพยาบาลมาขึ้นรถพี่พอดี พอออกรถไป เขาพูดกับพี่ว่า ‘ทำไมไม่ไปส่งคนป่วยเขาข้างในล่ะคะ? เห็นเขาเดินขากระเพลกๆ ดูไม่ค่อยไหว..' พี่นี่หน้าชาเลยจ้าาาาา ได้แต่ยิ้มอ่อน

Story by สมาชิกพันทิป 1584381


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
รวมข่าวในกระแส คลิ๊กเลย ++
กระทู้เด็ดน่าแชร์