รวมเรื่องเล่าสุดเฮี้ยน รอบรั้ว ม.รามคำแหง


รวมเรื่องเล่าสุดเฮี้ยน รอบรั้ว ม.รามคำแหง

ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ไหน ทั้งโรงเรียน โรงพยาบาล มหาวิทยาลัย ฯลฯ ต่างก็ย่อมมีเรื่องเล่า ความเชื่อ ที่ถูกเล่าต่อ ๆ กันมาจากรุ่นสู่รุ่น อย่างเช่นกระทู้นี้ที่เราจะพาเพื่อน ๆ มาหลอนกับเรื่องเล่าเฮี้ยน ๆ ของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งมีตำนานที่ถูกเล่าขานต่อกันมาอย่างมากมาย เราได้คัดมาให้แล้ว 7 เรื่องเฮี้ยนที่เกิดขึ้นจริงในมหาวิทยาลัยแห่งนี้...
7 เรื่องเล่าเฮี้ยน รอบรั้ว ม.รามฯ

เรื่องที่ 1 ผีตึกวิทย์

สมัยผมเรียนปี 1 (2544) มีเรื่องหนึ่งดังมากฟังมาจากรุ่นพี่อีกที คือมีนักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์คนหนึ่งทะเลาะกับแฟน เลยประชดแฟนโดยการกระโดดตึกจากชั้น 4 ของตึกวิทยาศาสตร์เก่า ถ้าบางคนไม่เคยผ่านตึกนั้นตอนโพล้เพล้คงไม่รู้ว่าน่ากลัวแค่ไหน? ยิ่งมีข่าวนี้เข้ามาด้วย ช่วงนั้นเด็กที่อ่านหนังสือแถววนั้นหายหมด เพราะมียามเห็นนักศึกษาสาวยืนอยู่บนดาดฟ้าตึก แล้วโดดลงมาประจำ บ้างก็เห็นเธอยืนยิ้มริมทางทั้งที่เสื้อเปื้อนเลือด ไม่ทราบว่าตอนนี้เธอยังอยู่หรือเปล่า วานนักศึกษาที่เรียนบริเวณนั้นช่วยไปดูให้ทีนะ...

ยังไม่หมดแค่นี้สำหรับเรื่องเล่าของตึกวิทย์ ยังมีอีกเรื่องที่น่ากลัวไม่แพ้กันก็คือ นักศึกษาคณะนิติมาโดดที่ตึกนั้นเสียชีวิต น่ากลัวจริง ๆ ใช่ตอนปีหนึ่งมีเด็กนิติกระโดดตึกวิทย์นั้นแหละ ไม่รู้เป็นเพราะอะไร อาจจะเป็นการเรียนหรือความรัก ก็เธอติดอยู่ 2 เล่ม lw103 กับ 312 มั้งถ้าจำไม่ผิด ตอนเช้ามืดหลังจากที่เธอตา ยได้ 3 หรือ 7 วันนี่แหละ เจ้าหน้าที่เจอเธอมาทำเรื่องจบ เลยต้องทำบุญมหาลัยเลย แต่ก็ส่งผลดีต่อผู้ที่สอบไม่ผ่านสองวิชานี้ เพราะเทอมนั้นอาจารย์ออกข้อสอบง่ายเป็นพิเศษเลยทำให้ผ่านกันเกือบยกบอร์ด

เรื่องที่ 2 ผีห้องกิจกรรม

ต่อด้วยเรื่องผีที่ตึกกิจกรรม เกิดขึ้นในชมรมเก่าแก่ชมรมหนึ่งของราม เมื่อก่อนชมรมนี้พอทำกิจกรรมของชมรมเสร็จ หน้าที่เก็บกวาดห้องจะเป็นของเด็กที่เพิ่งเข้าชมรมใหม่ ๆ วันนั้นรู้สึกจะเหลือนักศึกษาหญิงเข้าใหม่แค่ 2 คน ทำความสะอาด เมื่อก่อนตึกกิจกรรมปิดเวลา 19.00 น. สองคนนี้ก็ทำถึงประมาณ 6 โมงครึ่ง อีกครึ่งชั่วโมงตึกจะปิด เลยรีบทำกัน นักศึกษา 1 อยู่ ๆ ก็เอ่ยขึ้นมาว่า "เธอ ๆ เธอเชื่อเรื่องผีหรือเปล่า" นักศึกษา 2 ได้ยินดังนั้นจึงตอบว่า "เออสิวะ ไม่เชื่อได้ไง เขาว่ากันว่าชมรมของเราอะ เฮี้ยนจะตา ย" นักศึกษา 1 ได้ยินดังนั้น ก็ทำหน้าเซ็ง ๆ แล้วบอกว่า "ถ้ามีจริงก็มาให้เห็นเถอะ จะขอหวยซะให้เข็ด"

สิ้นคำพูดนั้น นักศึกษา 1 ก็ได้ยินเสียงกระดิ่งข้อเท้า แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจ คิดว่าหูแว่ว สักพัก ขณะที่นักศึกษา 1 กำลังทำความสะอาดชฎาสวมหัวอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงกระดิ่งแถวเท้าตัวเอง เลยก้มลงไปดู ก็เห็นเท้าเหี่ยว ๆ ใส่กระดิ่งข้อเท้าอยู่ข้างหลังตัวเอง (มองลอดหว่างขา) ก็ตกใจ แต่ก็ยังกลั้นใจหันไปมอง แต่ก็ไม่พบสิ่งใด

ในห้องนั้นมีแค่เธอกับเพื่อนแค่ 2 คนเท่านั้้น แต่ก็กลั้นใจ คิดว่าตาคงฝาด รีบกลับดีกว่า ชักไม่ค่อยดีแล้วเธอก็หันกลับมาตรงที่วางชฎาเพื่อดูความเรียบร้อยอีกรอบ แล้วเธอก็เห็นหัวของชายแก่สวมชฎาซึ่งมีแค่หัว หันมายิ้มมาให้เธอ เท่านั้นแหละเธอก็กรี๊ดแล้วก็สลบไป ข่าวบางกระแสว่าเธอเลิกเรียนแล้วกลับไปอยู่บ้าน บางกระแสบอกเธอช็อคจนเสียสติไป บางกระแสบอกว่าเธอเป็นเจ้าหญิงนิทรา หลับไม่ตื่นเพราะว่าโดนดึงวิญญาณไป... อันนี้ก็ไม่รู้ว่าอันไหนเป็นเรื่องจริง ไม่รู้ว่าหลังจากนั้นเธอเป็นอย่างไรบ้าง?

เรื่องที่ 3 นักศึกษาตา ยในลิฟต์ห้องสมุด

รหัสแก่ ๆ อาจจะเคยได้ยินมาบ้างแล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในปี 42 หรือ 44 ไม่แน่ใจเท่าไหร่ วันที่มหาวิทยาลัยปิดยาว ช่วงเทศกาลปีใหม่ (วันที่ 31 ธันวาคม 1-2-3-4 ติดเสาร์-อาทิตย์) เปิดเรียนอีกทีก็วันจันทร์เลย คือวันที่ 31 ธันวาคมในห้องสมุด วันนั้นยามเห็นว่าไม่มีคนแล้ว เลยปิดห้องสมุดโดยไม่ได้ตรวจตราความเรียบร้อย ปิดสวิตช์ไฟหมดเลย โดยไม่รู้เลยว่า มีนักศึกษาติดอยู่ในลิฟต์ 5 คน
เรื่องนี้มารู้กันอีกที ก็วันที่เปิดเรียนคือวันจันทร์ที่ 5 เปิดห้องสมุดมามีนักศึกษาตา ยอยู่ในลิฟต์ 5 คน น่าสงสารมากเลย (เรื่องนี้เขาปิดข่าวนะ แต่ถ้าใครเรียนตอนนั้น จะเห็นว่าเค้าเอาพวงหรีดมาวางหน้าห้องสมุดด้วย) ใครที่ขึ้นลิฟต์ห้องสมุดคนเดียว ระวังหน่อยนะ จะเจอดีโดยไม่รู้ตัว

เรื่องที่ 4 หอพักหญิงตรงลานเกือกม้า

หอพักหญิงชวนขนหัวลุกนี้ มีเพื่อนสนิทที่เจอผีเข้าจัง ๆ ที่ห้อง 516 เตียง 7 เป็นเตียงชั้นบน (เตียง 2 ชั้น) เวลาเกิดเหตุอยู่ในช่วงตะวันใกล้โพล้เพล้แล้ว เพื่อนนอนหลับ แต่ระหว่างที่สะลึมสะลือจะตื่น ก็เห็นผู้หญิงไต่เตียงขึ้นไปหา ผู้หญิงที่เห็นใส่ชุดดำ ไว้ผมยาว กระโดดมาทับตัวเพื่อน ดิ้นไม่ได้เลย ทั้งยังบีบคอ จนต้องท่องนโมหลายจบ แล้วเขาก็หายไปในที่สุด พอสะดุ้งตื่นมาจริง ๆ ไม่เจอใครในห้อง แล้วเตียงนั้นก็ไม่มีใครยอมมานอนอีกเลย

เรื่องที่ 5 ตึกวิศวกรรมศาสตร์ ชั้น 8

ตอนนั้นตั้งใจจะขึ้นลิฟต์ไปยังชั้น 8 เพื่อสำรวจความน่ากลัวตามที่ร่ำลือกันมาว่ามีอาจารย์เสียชีวิตอยู่ในห้องดรอว์อิ้ง ขณะที่กำลังสำรวจนั้น อยู่ดี ๆ ลิฟต์ก็เปิดออกและปิดในทันทีพร้อมกับขึ้นไปที่ชั้น 8 โดยที่ยังไม่มีใครกดลิฟต์ในชั้นใด ๆ ทั้งสิ้น ตอนนั้นเพื่อนทุกคนก็ถอยกรู ขนลุก ปรากฏว่าไม่มีใครอยากขึ้นไปอีกเลย...

เรื่องที่ 6 ตึกภาพพิมพ์ (ปัจจุบันโดนทุบทิ้งไปแล้ว)

ระหว่างที่เรียนมีโอกาสได้ทำหนังสั้นแนะนำมหา'ลัยออก แนว Reality หนังผี ตอนนั้นมีรุ่นพี่รุ่นน้องไปกันเกือบ 10 คน ตอนตี 1-3 ได้มีโอกาสตะเวนไปตามตึกที่เขาร่ำลือกันว่าน่ากลัว โดยเริ่มแรกที่ตึกภาพพิมพ์ ซึ่งเมื่อก่อนมีคนโดนฆ่าแล้วถูกนำศ พมาทิ้งไว้ที่บ่อน้ำ ข้าง ๆ ตึก ในตอนนั้นหลายคนนึกว่าเป็นหุ่นของทางคณะศิลปกรรมนำมา ใช้โปรโมตละครเวทีจนเวลาผ่านไป 2-3 วัน ศ พเริ่มเน่าและอืดอยู่ในบ่อน้ำ จึงได้รู้ความจริงกันว่าไม่ใช่หุ่นธรรมดา แต่มันคือ ศ พคนตา ย...

เรื่องที่ 7 ห้องเซรามิก คณะศิลปกรรมศาสตร์

เล่ากันมาจากรุ่นพี่ที่มีสัมผัสที่ 6 คนหนึ่งว่า เห็นผู้หญิงแต่งชุดไทยใส่ชฎารำอยู่ข้างในห้อง ตอนแรกก็คิดว่าเด็กเรียนรำไทยมาฝึกซ้อมที่นี่กันหรือเปล่า พอตอนเช้าเขาไปถามได้คำตอบว่า "ไม่มี" รุ่นพี่จึงสงสัยว่า นางรำที่เขาเห็นนั้นอาจจะไม่ใช่คนแน่ ๆ และเป็นประจำที่หน้าห้องนี้เวลาดึก ๆ หมาจะหอนกันเกรียวเลย

คำเตือน: สิ่งที่ไม่ควรทำเมื่อไป ม.รามฯ

1. ไปนั่งที่สระรามเวลาตั้งแต่ 3 ทุ่ม เป็นต้นไป โดยหันหลังให้เสาธง แล้วนับเสาไฟ วนตามเข็มนะ นับเรื่อย ๆ ว่ากันว่าพอถึงรอบที่ 3 จะมีเสาเกินมา 1 ต้น คือต้นที่มีคนยืนพิงอยู่ ลองโบกมือให้เขาดู เผื่องานเข้า

2. เดินผ่านตึกวิทยาศาสตร์เก่า แล้วยืนอยู่บนฟุตบาทถนนฝั่งเดียวกะตึก หันหลังให้ตึกแล้วแหงนหน้าขึ้นไปจนเห็นดาดฟ้า ว่ากันว่าจะเห็นคนที่โดดตึกยืนอยู่

3. เวลาขึ้นลิฟท์ตึก SBB ลองมองแถวหว่างขาดู เผื่อมีขาคนโผล่มาอยู่ข้างหลัง

4. ห้องน้ำชายชั้น 4 ตึกกิจกรรม พอเข้าไปนั่ง ลองผิวปากเพลงธรณีกรรแสงดู พอหยุดผิว จะได้ยินเสียงผิวปากต่อจากห้องข้าง ๆ

5. เวลาไปดูเกรดที่ตึกนิติตอนเย็น ลองจุดเทียนดูเกรด ว่ากันว่าจะมีคนมาดูเกรดเป็นเพื่อนอีกเพียบ

6. เวลาเดินผ่านรามตอนกลางคืน ลองสังเกตดูจะมีนักศึกษาบางคนอ่านหนังสือในมุมมืดของตึก

ป.ล. เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ถ้าใครไม่เชื่อก็ถือว่าเป็นการอ่านเพื่อความบันเทิงนะ
ส่วนใครเคยเจอผีใน ม.รามฯ ก็สามารถแบ่งปันเรื่องหลอนๆ กันมาได้ในช่องคอมเมนต์นะ พวกเรารออ่านอยู่



เครดิตแหล่งข้อมูล :
klangsayong


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์