หลังความตาย


หลังความตาย

วันนี้จะเล่าเรื่องผีให้ฟัง


จะขนหัวลุกหรือสยองสุดขีดหรือเปล่า เดี๋ยวก็รู้น่า...คนเราตายแล้วก็เรียกผี ขอเล่าเรื่องไปเผาผีก่อนแล้วกัน

บ้านผมถือว่างานศพนี่สำคัญกว่างานอื่นๆ นะครับ คงจะถือว่าเป็นครั้งสุดท้ายแล้วก็ได้ ผิดกว่าไปงานบวช อ้าว? เดี๋ยวพี่ทิดก็สึกออกมาแต่งเมียแล้ว เผลอๆ ก่อนแต่งยังต้องปลูกบ้าน เฮ้อ...ไปงานขึ้นบ้านใหม่รอบแรกก่อน พอแต่งได้ไม่นานก็ทำลูกออกมาร้องอุแว้ๆ ต้องแห่ไปรับขวัญเด็กกันอีกแล้ว






งานศพนี่ต้องไปครับ


ไม่ว่าผู้ใหญ่หรือเด็กๆ ไปกันหมด คนตายจะยากดีมีจนยังไง ขึ้นชื่อว่าคนบ้านเดียวกันก็ต้องไปเผาจี่กัน ไปอโหสิกรรมต่อกันเป็นครั้งสุดท้าย

บ้านผมเรียก "ไปเผาผี"




ตอนงานศพก็ช่วยเงิน


ช่วยข้าวปลาอาหาร บ้างก็ช่วยลงแรงทำของกินเลี้ยงพระเลี้ยงคน ไม่มีการรังเกียจรังงอนกัน พอถึงวันเผาก็แต่งตัวถือฟืนคนละอันหรือคนละท่อน คนละดุ้นก็ตามที เดินดุ่มๆ ตัดสวนไปวัดกันเป็นแถว

ถ้าเจอใครที่ยังไม่รู้ข่าวถามว่าไปไหนก็บอกว่า "ไปเผาผี..."




พระสวดเสร็จก็มีการโปรยทานให้เด็กๆ แย่งกันสนุกไป


พอสัปเหร่อยกโลงขึ้นตั้งบนเมรุปูน เปิดโลงเพื่อผ่ามะพร้าวเอาน้ำล้างหน้าศพ จุดไฟพรึ่บก็โปรยทานกันอีกรอบ คล้ายจะให้เสียงเฮฮากลบเสียงร้องห่มห้องไห้ของญาติๆ ผู้ตาย

เด็กๆ อย่างพวกผมสนใจแต่เรื่องแย่งทาน กับการเอาน้ำมะพร้าวล้างหน้าศพ ถามพ่อแม่ก็บอกปัดไปดื้อๆ สั่งแต่ว่ากลับบ้านให้เอาใบทับทิมแช่น้ำล้างหน้า ภาพต่างๆ ที่เห็นเขาเผาผีจะได้ไม่ติดตา!




พวกเราอยากรู้เลยหาโอกาสไปถามตาหลบ-สัปเหร่อ


วันที่แกว่างงาน สูบกัญชาสำราญใจ...ได้ความรู้ว่าน้ำมะพร้าวเป็นน้ำบริสุทธิ์ยิ่งกว่าน้ำทุกชนิด เพราะเกิดเองในลูกมะพร้าว เคยได้ยินแต่ว่าเขาล้างหน้าศพให้สะอาด จะได้ไปพบเทพเจ้าในโลกหน้าในสภาพดีๆ หน่อย แต่ตาหลบแกกลับบอกว่า

"น้ำมะพร้าวล้างหน้าแล้วทำให้ลืมชาติเดิมจนหมด ไปเกิดใหม่ก็จำไม่ได้ว่าแล้วชาติก่อนเป็นใคร? อยู่ที่ไหน? ไม่งั้นยุ่งตายห่...โว้ย"






พวกเราเชื่อสัปเหร่อมากกว่าพ่อแม่แฮะ งานนี้!


"ตาต้องสะกดวิญญาณผีทุกตัวใช่มั้ย?" ไอ้หวนซัก "เขาว่าตามีคาถาตอกตะปูโลงผีไม่ให้ออกมาจริงหรือเปล่า?"




"กูกลัวกูน่ะซี" ตาหลบหัวเราะอารมณ์ดีเพราะฤทธิ์กัญชา


"ขืนไม่สะกดมันไว้ก่อนเดี๋ยวก็มากวนกูทั้งคืน ไม่ได้หลับได้นอนกันพอดี"


"แล้วผีหลอกได้ไงล่ะ?" ไอ้หน่ำลูกเจ๊กเนี้ยวถามตรงใจเพื่อนทุกคน "ผีจำอะไรไม่ได้ ไหนจะโดนตาสะกด แล้วไหงมันมาหลอกคนบ่อยๆ ได้ล่ะตา?"




"อูบ๊ะ! ช่างซักจริงพวกมึงนี่"


สัปเหร่อหลบทำปากจึ๊กจั๊ก "ผีมันจำอะไรไม่ได้แล้วก็จริง แต่มันก็อยากจะไปไหนๆ เหมือนคนเรานี่แหละ เหมือนพวกมึงหนีพ่อแม่มาซักไซ้กูนี่ไหง! แต่มันโดนอาคมสะกดไว้ก็ต้องสิงอยู่ในป่าช้าจนกว่าจะได้เวลาไปผุดไปเกิด"




"อ้าว? แล้วมันหลุดออกมาหลอกคนก่อนกำหนดได้ไงล่ะตา?"


ไอ้หน่ำไม่วายข้องจิต ตาหลบชะโงกหน้าเข้ามาหัวเราะแหบๆ เห็นฟันกระดำกระด่างน่ากลัวพอๆ กับผีหลอกน่ะแหละครับ




นักโทษมันยังแหกคุก หนีคุกได้นี่หว่า...ผีก็เหมือนกัน!


บางตัวกูเผลอนิดวิญญาณมันเฮี้ยนหน่อยก็โน่น...เผ่นแน่บออกนอกป่าช้าไปหลอกเขามั่ง ขอส่วนบุญเขามั่ง! อยากรู้จริงๆ รอกูตายก่อนแล้วจะมาเล่าให้พวกมึงฟัง"

เราผงะหน้า รีบลุกขึ้นเพราะใกล้ค่ำ ตาหลบหัวเราะฮ่าๆ บอกว่าถ้าเจอผีกลางทางก็ถามดูนะโว้ย ว่ามันหนีกูไปได้ไง? ผมขนหัวลุกตั้งแต่ยังไม่โดนผีหลอกแน่ะครับ!



แหล่งที่มา: บอร์ดรวมเรื่องผี


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์