คืนสยอง


คืนสยอง

"นายโด่ง" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากอาร์ซีเอ


คุณเคยคิดไหมครับ ว่าสมองคนเรานี้เล่นตลกกับเราอยู่ตลอดเวลา!

สิ่งของที่อยู่ไกลโพ้น ถูกย่อขนาดให้เราเห็นว่ามันเล็กนิดเดียว ดูอย่างดวงจันทร์กับดวงอาทิตย์ซีครับ หรือขอบแก้วดื่มน้ำที่เราลงไปตรงๆ เห็นว่ากลมดิกนั้น แค่จับวางห่างออกไปฟุตเดียว สายตาเราพลันเห็นเป็นวงรี! คิดดูดีๆ ก็แปลกนะครับ ประสาทสัมผัสทั้งห้าของคนเรานี้เอาแน่นอนอะไรไม่ได้ซะเลย




ผมเป็นคนหนึ่งที่มักจะเจอเหตุการณ์ประหลาดๆ


บางทีหูแว่วได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้ดังมาจากพงหญ้าในที่เปลี่ยว บางทีเดินกลับบ้านคนเดียวในซอยมืดๆ ก็เหมือนมีเสียงฝีเท้าเดินตามมา บางครั้งอยู่คนเดียวรู้สึกคล้ายมีใครเอามือเย็นๆ มาแตะหลัง

แหม....ถ้าเป็นคนขวัญอ่อน ผมคงประสาทกินไปแล้วเนี่ย!




ผมทำงานบริษัทโฆษณาครับ


เป็นครีเอทีฟ บางครั้งต้องกลับบ้านดึกดื่น ทำงานบ้าง เที่ยวเตร่กับเพื่อนฝูงบ้าง ใช้ชีวิตอิสระตามประสาคนโสด งานที่ผมทำไม่จำเป็นต้องตะลอนๆ ออกไปตามสถานที่ต่างๆ นอกจากจำเป็นก็ไปกับเพื่อน ปกติจะใช้บริการ รถไฟฟ้า, แท็กซี่ สะดวก เป็นอิสระ ไม่ต้องดูแลรักษารถอีกต่างหาก




พูดถึงเรื่องผี ผมก็คงเหมือนคนทั่วไปน่ะครับ


คือไม่รู้ว่ามีจริงหรือเปล่า? แต่มันมีเหตุการณ์หลายอย่างที่เราหาคำมาอธิบายไม่ได้จริงๆ

ผมไม่ใช่คนกลัวผีนะครับ แต่คิดว่าวิญญาณอาจมีจริง ร่างกายสลายตายจากโลกไปแล้ว แต่วิญญาณอาจจะยังอยู่ วิทยาศาสตร์ยังพิสูจน์ไม่ได้ แต่เราก็มักมีปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติมาเล่าสู่กันฟังเสมอ ตั้งแต่สมัยโบราณมาจนถึงทุกวันนี้




คืนหนึ่งผมไปเที่ยวอาร์ซีเอกับเพื่อน


ความจริงวัยต้นสามสิบอย่างผมน่ะ มันออกจะแก่ไปสำหรับสถานบันเทิงนั้น แต่ไม่เป็นไรน่า ผมมีข้ออ้างว่าที่มานี่เพราะงานต่างหาก! เป็นงานโฆษณาเกี่ยวกับสินค้าวัยรุ่น เลยขอมาซึมซับบรรยากาศให้พลังวัยรุ่นมันซาบซ่านซักหน่อย

พวกเด็กๆ วัยทีนเอจนี่เป็นช่วงชีวิตที่มีพลังสูงและแรงมากๆ นะครับ!




คุณๆ ที่รู้สึกเหนื่อยหน่าย วัยชะแรแก่ชราทั้งหลาย


ลองเข้าไปอยู่ในกลุ่มวัยรุ่นสิครับ จะรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่าทันที ทำใจให้บริสุทธิ์แล้วร่วมงานกับพวกเขา อย่างในงานกีฬา งานคอนเสิร์ต คุณจะรู้สึกถึงกระแสพลังบางอย่างที่คุณเองเคยมีเหมือนกัน แต่มันหายไปแล้วเพราะกาลเวลามาเอาคืนไปซะเมื่อไหร่ก็ยักไม่รู้ตัว




คืนนั้น พอผมกับเพื่อนฝ่าเสียงบึ้มๆ


ของลำโพงเข้าไปนั่งในบาร์ได้ เราก็ดูพวกวัยรุ่นเขามันส์สะบัดช่อกัน ใจหนึ่งนึกเป็นห่วง แต่เอาเถอะ...สมัยนี้จะให้นั่งพับเพียบแต้เป็นเบญจกัลยาณีอยู่ที่บ้านก็คงจะอกระเบิดตาย

พวกเขามาปลดปล่อยอารมณ์กันสุดเหวี่ยง ใส่เสื้อผ้าบ่งบอกถึงการประกาศตัวเองให้โลกรู้ว่าฉันอยากแหกกฎ! เป็นกบฏสังคม! แล้วดูท่าดิ้นปั้ดๆ ของคุณเธอทั้งหลาย....แหม! ทั้งพลิ้วทั้งกระเพื่อม





สถานที่แบบนี้เป็นเหมือนขุมอเวจีที่โคตรมันส์จริงๆ


ทุกตารางเมตรมีแต่ความเร้าใจที่เคลือบคลุม ซ่อนเร้นอันตรายจนมิดชิด อันตรายที่อาจถึงแก่ชีวิต! ไม่รู้ใครคือผู้ล่าใครคือเหยื่อ? แต่เชื่อเถอะว่าต้องมีเรื่องใดเรื่องหนึ่งเกิดขึ้นได้ทุกนาที

กำลังคิดอะไรเพลินๆ ผมก็เหลือบไปเห็นเด็กสาวสายเดี่ยว ผอมสูง ผมยาวกำลังบิดตัว ชูแขนเหนือหัว ส่ายตามจังหวะดนตรีราวงูเห่าที่โดนฤทธิ์ปี่ของแขกเล่นกล




บางสิ่งบางอย่างบอกผมว่าเธอมาคนเดียวแน่


เต้นปล่อยตัวปล่อยใจอยู่กลางฟลอร์ ท่ามกลางคนวัยเดียวกับเธออีกนับร้อยนับพัน มันเหมือนเธอแหวกว่ายสบายอารมณ์อยู่กลางทะเลมนุษย์...ผมสะกิดเพื่อนให้ดูเด็กสาวคนนั้น...สายเดี่ยวชุดดำนั่นไง!




เพื่อนถามว่าสนใจจะทาบไปถ่ายโฆษณาเหรอ?


ผมสั่นหน้า...เธอขาวซีด ท่าทางเหมือนอมทุกข์ก้อนโต! พูดไปก็บาปปาก เธออาจเป็นเอดส์แล้วปล่อยชีวิตให้ผล็อยไปตามยถากรรม น่าสงสารนะครับถ้าเป็นอย่างนั้นจริง




วัยแค่นี้ ผมน่าจะเห็นเธออยู่ในชุดนักศึกษา


รวบผม ผูกโบ สะอาดสะอ้านอยู่กลางแสงตะวันในรั้วมหาวิทยาลัยมากกว่า

ไม่รู้อะไรมาดล....คิดถึงตรงนี้ สาวน้อยสายเดี่ยวชุดดำก็สะบัดหน้าขึ้นสบตาผมพอดี...กายเธอยังโยกส่ายหมุนไปทางโน้น โดยใบหน้ายังหันตรงมาทางผม!




"เฮ้ย!" ผมอุทาน เพื่อนหันมาถามทันที "อะไรวะ?"


ผมกะพริบตา ควันบุหรี่และแสงเลเซอร์ทำให้ประสาทจักษุผมเพี้ยนไปได้ถึงปานนั้นเชียวเหรอ?

สาวชุดดำเคลื่อนกายมาทางเรา จะว่าเธอก้าวเข้ามาก็ไม่เชิง มันคล้ายเลื่อนมาตามรางดอลลี่มากกว่า แต่ผมไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะยังเชื่อว่าควันและแสงกะพริบวาบๆ นั่นทำให้เกิดภาพลวงตาแปลกๆ




อึดใจต่อมาผมอยากไปห้องน้ำ


ซึ่งต้องเดินเบียดกลุ่มนักเต้นไปข้างในโน้น ผมไม่ได้ตั้งใจหรอกครับว่าจะเดินเฉียดไปทางเธอ แต่พอรู้ตัวอีกทีสาวน้อยก็อยู่ห่างผมแค่เอื้อม...วินาทีนั้นเอง ผมโดนวัยรุ่นที่กำลังเต้นสุดสะวิงเซมากระแทกหลัง ผมได้ยินเสียงขอโทษ...จังหวะนั้นผมหัวทิ่มไปทางสาวน้อย ยังไงๆ ก็ต้องล้มใส่เธอแน่ๆ




ผมล้มใส่เธอจริงๆ แต่พระช่วย!


มือผมที่ยื่นออกไปรับแรงปะทะนั้นพุ่งพรวด ทะลุผ่านกระดูกไหปลาร้าด้านขวาของเธอไปเลย แล้วผมก็เซหลุนๆ ไปโดนคนที่อยู่ถัดเธอไป...เขาจับผมไว้พลางหัวเราะ ไม่มีทีท่าว่าเห็นสิ่งน่าขนลุกที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา!

ไม่มีเด็กสาวคนนั้นแล้ว!





ความอยากเข้าห้องน้ำก็หายไป


ผมกลับมาหาเพื่อนเล่าว่าเกิดอะไรขึ้น เขามองไปที่ฟลอร์พร้อมผม...เด็กสาวสายเดี่ยวยังเต้นรำอยู่ตามเดิม เพื่อนหาว่าผมเมา เรายังนั่งต่ออีกพักใหญ่...เด็กสาวประหลาดหายไปแล้วครับ

ตั้งแต่วันนั้นจนวันนี้ ผมระแวงอยู่ตลอดว่าจะเห็นเธออีก...เธอเป็นผีหรือประสาทสัมผัสของผมมันเล่นพิเรนทร์กันแน่หนอ?





แหล่งที่มา: บอร์ดรวมเรื่องผี


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์