เหยื่อฆาตกร


เหยื่อฆาตกร

"ปวีณา" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากบ้านเช่าที่สุทธิสาร


สามีของดิฉันเป็นข้าราชการที่ได้เลื่อนตำแหน่ง ต้องย้ายเข้ากรุงเทพฯ บ้านเราอยู่พิษณุโลก ดังนั้น เมื่อเข้ามาเราก็ต้องเช่าบ้านอยู่ค่ะ ที่จริงบ้านราชการก็มี แต่คนเก่าเขายังไม่ย้ายออกนี่คะ




เรารู้สึกชอบใจด้วยซ้ำ


เพราะเจอบ้านน่ารักแห่งหนึ่งแถวสุทธิสาร เห็นแล้วถูกใจทันที ค่าเช่าสมราคาไม่ถูกไม่แพง ย่านนั้นไปมาสะดวกมาก เพื่อนบ้านก็ดูอบอุ่นดีค่ะ

ไม่นึกเลยจริงๆ ว่าจะเจอเรื่องขนหัวลุก!






บ้านสองชั้นหลังนั้นไม่ใหญ่โตนัก


ทาสีชมพูอ่อน คนดูแลบอกว่าเจ้าของปลูกไว้ตั้งใจจะมาอยู่ เผอิญคุณแม่เขาไม่สบาย เป็นอัมพาตเลยต้องไปอยู่ดูแล ส่วนบ้านนี้ก็บอกให้เช่า




ได้ฟังประวัติของบ้านก็โล่งอกค่ะ


ดิฉันเป็นคนกลัวผี ยังหวาดๆ ว่าถ้าต้องเช่าบ้านเก่าที่ไม่รู้ประวัติคงสยองน่าดู แต่นี่เป็นบ้านใหม่ คงไม่มีผีสิงมาหลอกหลอนเราแน่ๆ

นึกอย่างนั้นดิฉันก็เงยหน้าขึ้นยิ้มกับผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ยืนมองเราอยู่ตรงหน้าต่างชั้นบน เธอคงเป็นลูกสาวคนดูแลบ้านน่ะ เพราะดูยังเด็กมาก อายุไม่น่าเกินยี่สิบ ท่าทางขยันน่าดู พอรู้ว่ามีคนมาเช่าก็ขึ้นไปปัดกวาดทำความสะอาด น่ารักจริงๆ




สองวันต่อมา เราก็ขนสัมภาระเข้าบ้านพร้อมกับลูกสาวคนเดียวของเรา


เฮ้อ! นึกๆ แล้วก็เหนื่อยนะคะ ดิฉันเพิ่งหาโรงเรียนใหม่ให้ลูกได้ แกอายุ 10 ขวบ คงปรับตัวเข้ากับโรงเรียนใหม่และเพื่อนใหม่ได้ไม่ยากนัก




สิ่งหนึ่งที่ทำให้ดิฉันเหนื่อยน้อยลงก็คือ


บ้านเช่านี้เราเข้าอยู่ได้ทันที มีแอร์ เฟอร์นิเจอร์พร้อมทุกอย่าง เราไม่ต้องไปหาซื้ออะไรทั้งสิ้น แม้แต่โทรทัศน์ พัดลม รวมทั้งตู้เย็น เครื่องซักผ้า และเครื่องครัวทั้งหมด เจ้าของใจดีจริงๆ ที่ให้เราใช้ได้ตามสบายไม่หวงห้าม ดิฉันเสียอีกที่เกรงใจ คิดว่าเราคงอยู่บ้านนี้อีกนาน ฉะนั้น ต้องรักษาของทุกอย่างให้ดีที่สุด

เออ...จริงซีนะ เด็กสาวคนนั้นล่ะ? คนที่ดิฉันเห็นตรงหน้าต่างชั้นบนน่ะเธอเป็นสาวใช้ที่นี่หรือเปล่า? ดิฉันจะจ้างเธอไว้ได้ไหม?




เมื่อถามเรื่องนี้กับคนดูแล


เขาอึ้งไปเล็กน้อยก่อนจะบอกว่าไม่ใช่ลูกสาวเขาหรอก ดิฉันคงเห็นสาวใช้เจ้าของบ้าน ป่านนี้คงกลับไปแล้ว ถ้าอยากได้คนรับใช้เขาจะหาให้ หรือจะไปรับจากศูนย์ก็ได้ แถวสุทธิสารน่ะมีศูนย์ลูกจ้างเป็นแม่บ้านเยอะมาก

ไม่เป็นไร...ดิฉันคิดว่าลองทำงานบ้านเองไปพลางๆ ก่อน ถ้าไม่ไหวจริงๆ ค่อยว่ากันใหม่




สัปดาห์แรกที่เข้าอยู่


พวกเราสามคนพ่อแม่ลูกมีความสุขและสะดวกสบายมาก สามีไปรับส่งลูก ดิฉันเองอยู่กับบ้าน ทำงานบ้าน ทำกับข้าว และคิดว่าอีกสักพักจะทำขนมเปี๊ยะขาย ดิฉันถนัดเรื่องทำขนมเป็นพิเศษมาหลายปีแล้วค่ะ

เราสามคนนอนห้องเดียวกัน เป็นห้องนอนใหญ่บนชั้นสอง หน้าต่างที่ดิฉันเห็นเด็กสาวยืนอยู่นั้นก็หน้าต่างห้องนี้นั่นเอง!




ตอนกลางคืนเราอยู่กันสบายมาก


แต่พอตอนกลางวันก็เริ่มมีเรื่องให้ดิฉันกังวล เพราะเวลากวาดบ้านอยู่ดีๆ จะรู้สึกเหมือนมีใครมาวนเวียน เดินขึ้นเดินลงบันไดให้เห็นแวบๆ พอหันไปมองตรงๆ ก็ไม่มีอะไร

บางทีจะได้ยินเสียงฝีเท้าเดินอยู่ชั้นบน ครั้นย่องขึ้นไปดูก็ไม่มีใคร คงจะหูแว่วไปเอง หรือไม่ก็เป็นเสียงสะท้อนจากข้างบ้าน




เสียงแปลกๆ เช่นนี้ตอนกลางคืนไม่มีเลยค่ะ แล้วจะให้คิดว่าเป็นผีได้ไง?


วันหนึ่ง เป็นวันศุกร์ราวบ่ายสองโมง ดิฉันเตรียมหั่นหมูแล้วหมักไว้ในตู้เย็น ล้างผักเตรียมอาหารแล้วออกไปซื้อน้ำแข็งร้านข้างบ้าน พอกลับมาต้องสะดุ้งซะตัวลอยเพราะเห็นเด็กสาวคนเดิมก้มกวาดบ้านอยู่ที่เชิงบันได!




เธอเงยหน้ามองดิฉัน ทำหน้าตาเฉยมาก งงไม่หายว่าเธอเข้ามาได้ยังไง?


ก็เลยถามว่ายังไงกันเนี่ย ใครให้มา? เธอก็ก้มหน้ากวาดต่อคล้ายจะอาย หรือไม่อยากพูดอะไร ดิฉันเดินตามเธองงๆ ไม่รู้จะทำยังไงดี...น่าสังเกตที่อากาศเย็นยะเยือกผิดปกติ

ลองนึกภาพตามดูนะคะ!




บ่ายสองโมงแดดจัดจ้า


ดิฉันอยู่ในบ้านตามลำพัง มีเด็กสาวที่ไม่รู้ที่มาที่ไปกำลังก้มหน้าก้มตากวาดบ้านไปเรื่อยๆ อยู่อย่างนั้น เธอกวาดอ้อมเข้าไปใต้บันได ไปทางห้องเล็กๆ ที่ติดกับห้องน้ำ ดิฉันเชื่อว่าห้องนี้เป็นห้องคนใช้ เพราะเคยไปเปิดดู ปรากฏว่าเป็นห้องเดียวในบ้านที่โล่งว่าง ไม่มีเครื่องเรือนแม้แต่ชิ้นเดียว




ดิฉันถามต่อว่า "มาเอาของเหรอ?"


ถามแล้วก็ขำตัวเอง เดินตามเด็กสาวไปเรื่อยๆ เพราะไม่รู้จะทำยังไงดี เธอหายเข้าไปในห้อง...และพอดิฉันพ้นประตูเข้าไป ในห้องนั้นเงียบกริบ โล่งว่าง สว่างจ้า...ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆ

ไม่มีเด็กสาวคนนั้นแล้ว...คนเป็นๆ จะหายตัวได้หรือคะ?




ห้องทั้งห้องหมุนคว้าง


ขนหัวลุกกรูเกรียว แก้วหูดังวิ้งๆๆ ดิฉันถอยกรูดโดยสัญชาตญาณ แล้วหันหลังเดินแกมวิ่งออกไปนั่งหน้าตื่นอยู่ที่ร้านขายของชำ ที่เพิ่งซื้อน้ำแข็งเขาเมื่อครูก่อน




เรื่องจริงก็คือ


บ้านสีชมพูนี้เป็นบ้านปลูกใหม่ เจ้าของกำลังจะเข้าอยู่ก็ให้สาวใช้มาปัดกวาด และเฝ้าบ้านล่วงหน้า 2-3 วัน ช่วงนั้นเองที่เด็กสาวใช้คนนี้เจอกับเด็กหนุ่มแปลกหน้า ซึ่งทำทีว่าเป็นช่างไฟที่เจ้าของบ้านสั่งให้มาตรวจความเรียบร้อย

เธอรับเขาเข้าบ้าน ก็เลยถูกข่มขืนฆ่าที่ห้องนอนใหญ่ชั้นบน!




ดิฉันโทร.หาสามี เล่าเรื่องทั้งหมดให้เขาฟัง...


เราติดต่อคนดูแลบ้าน พูดกับเขาตรงๆ ยังดีที่เขาไม่หัวหมอต่อว่าต่อขานอะไร ตรงข้าม เขาก้มหน้าแบบคนสำนึกผิด พูดอ้อมๆ แอ้มๆ ว่าเขาไม่เชื่อเรื่องผี และคิดว่าคงไม่มีอะไรหรอก

สรุปว่าเราจากกันด้วยดี ดิฉันกับสามีต้องหาที่อยู่ใหม่ เราไปเช่าห้องพักแถวประดิพัทธ์ คิดว่าเมื่อบ้านของทางการว่างเราก็จะทำเรื่องขอเข้าอยู่...หวังว่าคงไม่ต้องพบกับเรื่องขนหัวลุกอีกนะคะ!




แหล่งที่มา: บอร์ดรวมเรื่องผี


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์