บ้านเช่าผีสิง


บ้านเช่าผีสิง

"ได้ยินเสียงร้องของน้องผู้หญิง"


เรื่องก็มีอยู่ว่ามีดาราอยู่ 5 คน เป็นผู้หญิง 2 คนและผู้ชาย 3 คน
คนที่ประสบกับเหตุการณ์นี้เป็นดาราใหม่ชื่อ แจ็ค
พวกเขากำลังเดินทางไปถ่ายทำละครซึ่งระหว่างทางก็แวะพักที่ จ.โคราช เพราะว่ามันดึกแล้ว
พวกเขาจึงตัดสินใจเช่าบ้านพักหลังหนึ่งซึ่งมันก็เป็นทาวเฮาส์ธรรมดานี่แหละ
พอพวกเขาตกลงเช่าก็นำของเข้าไป ซึ่งในกลางบ้านหลังนั้นมีแมวซึ่งสวยมากนอนอยู่กลางบ้าน
ก็มีพี่คนหนึ่งบอกว่าอยากได้และตอนกลับจะเอากลับไปด้วย
แล้วแจ็คกับผู้หญิงอีก 2คนก็ออกไปซื้ออาหารเข้ามากินกัน
ซึ่งพวกเขา ก็ซื้อหมูสะเต๊ะและอาหารอื่นเข้ามาด้วย
เมื่อมาถึงบ้านก็มานั่งกินกันจนอิ่มเรียบร้อย

แล้วน้องผู้หญิงคนหนึ่งก็ขอขึ้นไปนอนพักข้างบนห้อง
เพราะน้องผู้หญิงคนนี้สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรงจึงขอตัวขึ้นไปก่อน
สักพักพวกเราได้ยินเสียงร้องของน้องผู้หญิง แจ็คจึงวิ่งขึ้นไปดู
ก็เห็นน้องคนนั้นกำลังจะกระโดดหน้าต่าง แจ็คก็เลยรีบวิ่งเข้าไปดึงตัวไว้
แต่แปลกใจที่ทำไมน้องคนนี้จึงมีแรงอันมหาศาล ทั้งที่สุขภาพก็ไม่ค่อยแข็งแรง
แจ็คจึงเรียกพี่ๆที่อยู่ข้างล่างให้รีบขึ้นมาช่วย
เพราะเอาไม่อยู่แล้ว เมื่อพี่ๆ ขึ้นมากันหมดก็ช่วยกันจับมานอนลงที่เตียง
2คนจับแขน อีกคนจับขา ส่วนแจ็คขึ้นนั่งบนตัวแล้วกดไหล่ไว้จึงเอาอยู่
แต่ก็ยังดิ้นไม่หยุดพอดีพี่ในนั้นคนหนึ่ง
เขามีความรู้ในเรื่องผีๆ สางๆอยู่บ้าง
พี่เขาก็เลยบอกว่าให้เอาพระมาใส่ที่คอน้องคนนั้นไว้



"กูจะเอาน้องมึงคนนี้ไปกลับกูด้วย"


ในขณะเดียวกันที่เสียงน้องคนนั้นก็เปลี่ยนไป
ซึ่งเป็นเสียงที่น่ากลัวมากแล้วพูดว่า
"กูจะเอาน้องมึงคนนี้ไปกลับกูด้วย"
พี่เขาก็เลยถามว่า มึงเป็นใคร มึงอย่ามาลองดีกับกูดีกว่า แล้วพี่เขาก็เอาพระยัดใส่ปาก
สักพักน้องคนนั้นก็สงบลงได้ แล้วน้องคนนั้นก็หมดสติหลับไป
พวกเขาจึงปล่อยให้เธอนอนพัก แล้วก็ลงมานั่งคุยกันข้างล่าง
แต่สักพักใหญ่ก็ได้ยินเสียงดังขึ้นมาอีก แต่คราวนี้มันดังมากกว่าคราวก่อน
พวกที่อยู่ข้างล่างจึงวิ่งขึ้นไปดูก็พบว่าน้องคนนี้พูดเป็นภาษาอะไรไม่รู้
แต่แจ๊คพอฟังออกบ้างว่าเป็นภาษายาวี ซึ่งเป็นภาษาของพวกอิสลาม
พวกเขาก็วิ่งเข้าไปจับไว้แล้วก็ช่วยกันลากลงมาข้างล่างดีกว่า เดี๋ยวจะกระโดดหน้าต่างอีก

ที่นี้พวกเขาก็จับเธอนอนลงที่พื้น แล้วก็เอาพระที่มีอยู่ทั้งหมดวางไว้รอบตัวของน้องคนนั้น
แต่ในขณะที่พวกเขานั่งเฝ้าอยู่ ทันใดนั้นร่างของน้องคนนั้นก็กระเด้งตัวขึ้นมายืน
โดยที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ พวกเขารู้สึกกลัวและตกใจมากกับภาพที่เห็น




"มึงจะเอาแมวของกูไปเหรอ กูไม่ให้แล้วกูก็จะเอาตัวน้องของพวกมึงไปด้วย"


เพราะสีหน้าและดวงตาของน้องคนนั้นเริ่มเปลี่ยนไปเป็นดุขึ้นแล้วก็พูดว่า
"มึงจะเอาแมวของกูไปเหรอ กูไม่ให้แล้วกูก็จะเอาตัวน้องของพวกมึงไปด้วย"
แล้วพี่คนที่รู้อาคม แกก็เลยให้เข้าไปจับไว้
แล้วก็ไปขอขันกับน้ำที่ร้านเซเว่นเอามาทำน้ำมนต์
แล้วใช้ใบมะยมพรมไปที่ตัวของน้องคนนั้น ส่วนพวกเราก็สวดมนต์
แล้วก็ขอร้องให้ออกไปจากร่างของน้องเถอะเราไม่ได้คิดจะลบหลู่เลย
และก็บอกว่าจะไม่เอาแมวไปแล้ว

พวกเขานั่งทำอย่างนี้กันเป็นเวลาหลายชั่วโมงมาก
จนกระทั่งผียอมออกไป ในขณะนั้นก็มีแมวตัวเดิมกับหมาอีกตัววิ่งผ่านวงล้อมของพวกเราไป
แล้วไปนั่งที่หน้าต่างแล้วทำท่า เหมือนกับเล่นอยู่กับเจ้าของ
พวกเราแปลกใจมาก แล้วพี่เขาก็เลยบอกว่าให้พวกเราไปเก็บของภายใน10 นาที
แล้วรีบออกจากบ้านนี้โดยเร็วที่สุด เมื่อพวกเขาเก็บของเสร็จก็กำลังจะออกรถไป
พอดี แจ็ค ก็หันกลับไปมองแมวกับหมาอีกว่าจะอยู่หรือเปล่า
แต่เขาก็กลับเห็นผู้หญิงใส่ชุดสีขาวนั่งเล่นก้บหมาแมวอยู่ เขาตกใจมาก
แต่ก็ยังไม่บอกใคร จนพวกเขาถ่ายทำละครเสร็จก็เดินทางกลับกรุงเทพฯ
แล้วเจ็คก็โทรมาถามเรื่องนี้กับเด็กที่ร้าน เซเว่น ว่าบ้านหลังนั้นมีอะไรหรือเปล่า
เขาก็บอกว่าเจ้าของบ้านเก่าเขาเป็นอิสลามแล้วตาย เขาก็รักแมวตัวนี้มาก
ซึ่งก็พอสรุปได้ว่าพวกเขาดันจะไปเอาแมวสุดที่รักของเขาไป
และก็ไปซื้อหมูสะเต๊ะเข้ามานั่งกินในบ้านอีกถือเป็นการลบหลู่
จึงได้โดนเล่นงานอย่างนี้



แหล่งข้อมูล : บอร์ดรวมเรื่องสยองขวัญ


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์