คนสู้วิญญาณ

'เต็มดวง' เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกเคล้าน้ำตา

มนุษย์ทุกคนย่อมจะไม่มีใครหนีพ้นการเกิด แก่ เจ็บ ตาย ไปได้เด็ดขาด แต่ที่น่าสยดสยองก็คือความตาย-เวลาอันสุดโหดของมนุษย์เราทุกคน 'โชคดีที่ตายก่อน' คือสัจธรรมค่ะ

เมื่อถึงวาระสุดท้ายของชีวิต ต้องตายแน่ๆ แล้ว ใครตายเร็วก็ทรมานน้อย แต่ถ้าใครต้องรอแล้วรออีก กระสับกระส่าย ดิ้นรน ครวญคราง...หรือแม้ว่าจะพูดได้ แต่อาการสั่นกระตุกเกร็ง นัยน์ตาเหลือกลาน ก่อนจะว่างวาย มีประกายชีวิตเหลืออยู่น้อยนิดเต็มทีแล้ว

กว่าชีวิตจะปลิดปลิวออกจากร่างกายที่พยายามต่อสู้ เหนี่ยวรั้งลมหายใจด้วยอาการทุรนทุราย ประดักประเดิดน่าขนหัวลุก...ในที่สุดชีวิตก็ละทิ้งเพื่อนเก่าแก่ไปจนได้ และดูเหมือนจะไม่อาลัยไยดีด้วยซ้ำไป ถ้าภูตผีมีจริง การต่อสู้กับความตายของคนเราก็น่ากลัวยิ่งกว่าถูกผีหลอกอีกค่ะ

ขอยืนยันว่าคนเราก่อนตายนั้น น่าสยดสยองยิ่งกว่าตายแล้วด้วยซ้ำไป

บ้านเดิมดิฉันอยู่ชนบท เป็นเมืองที่ได้ชื่อว่าคนดุ ดงนักเลง มีการตีรันฟันแทงกันเป็นประจำ มือปืนขวักไขว่ ฆ่าแกงกันไป-มา ล้างแค้นกันจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน

คนที่โดนยิงโดนแทงตายคาที่ หรือไปตายโรงพยาบาลมีหลายราย แต่คนที่เพิ่งโดนอาวุธเจ็บสาหัสใกล้ตาย แต่กระเสือกกระสนดิ้นรนอยู่ท่ามกลางชาวบ้านและญาติมิตรที่ตระหนกตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ดิฉันคิดว่าโดนผีหลอกคงไม่น่ากลัวขนาดนี้หรอกค่ะ

ในชีวิตเคยเห็นคนดิ้นรนก่อนตายไปต่อหน้าถึงสามรายแล้ว!

น้าช้วนโดนคู่อริแทงลิ้นปี่ร้านชำข้างบ้าน มือมีดขึ้นรถหนีไปแล้ว พวกเราได้ยินเสียงเอะอะโวยวายก็วิ่งมาดู ตกตะลึงพรึงเพริดไปตามๆ กันจนทำอะไรไม่ถูกแม้แต่คนเดียว

คนเจ็บนอนดิ้นรนอยู่บนพื้นซีเมนต์หน้าร้าน เลือดเปรอะเต็มอก นัยย์ตาลอยคว้างคล้ายจะไม่รู้ตัว กล้ามเนื้อกระตุกทำให้เกิดอาการดิ้นรนก่อนตาย...ประกายตาดับวูบ แววตาหมองลงทันทีทันใด

เมื่อญาติๆ น้าช้วนมาถึง จะช่วยกันอุ้มส่งโรงพยาบาล ท่ามกลางเสียงร้องไห้คร่ำครวญ ดวงตาของแกก็เลื่อนลอยขุ่นมัวราวมีเมฆหมอกสีเทามาปกคลุม น้าช้วนหยุดดิ้น ...วิญญาณล่องลอยไปแล้ว

มีเสียงร่ำลือว่าผีน้าช้วนดุนัก แต่ดิฉันไม่เคยเห็นเลยสักครั้ง!

ต่อมา ลุงโหมดโดนยิงมาจากดงตาล แกกระเซอะกระเซิงมาจนถึงบ้าน เห็นหน้าขาวซีด หอบฮั่กๆ พี่กิ่งแก้วเป็นพยาบาลสถานีอนามัยออกเวรมาพอดี บอกว่าเสียเลือดมาจากความดันตก หัวใจเต้นเร็วขึ้นเพื่อชดเชยเลือดที่ลดตัวในการบีบของหัวใจแต่ละครั้ง

ในที่สุดร่างกายก็ปรับตัวไม่ได้ ลุงโหมดหายใจหอบๆแผ่วลงทุกที แต่แล้วกลับดิ้นรนเหมือนชักกระตุก พี่กิ่งแก้วบอกว่าหัวใจไม่มีเลือดไปหล่อเลี้ยงแล้ว...สิ้นเสียง ลุงโหมดก็สิ้นลมหายใจ

รายสุดท้ายคือพี่เดือน-ลูกผู้พี่ของดิฉันเอง!

พี่เดือนรับราชการอยู่ในกรุงเทพฯ เป็นที่พึ่งของน้องๆที่มาเรียนหนังสือ เธอครองโสดจน 47 ปีก็เป็นมะเร็งตับ รักษาตัวได้ไม่กี่เดือนก็รู้ว่าใกล้จะถึงวาระสุดท้ายแล้ว

ดิฉันแอบร้องไห้นับครั้งไม่ถ้วน พี่เดือนมีบุญคุณเหมือนแม่คนที่สอง ถ้าไม่ใช่เพราะความเมตตาของเธอทั้งที่ให้ที่อยู่ ทั้งช่วยเหลือเรื่องเงินเมื่อทางบ้านส่งมาไม่ทัน รวมทั้งการแนะนำสั่งสอนต่างๆ ดิฉันคงไม่ได้มาเรียนหนังสือในกรุงเทพฯ จนจบมหาวิทยาลัยแน่นอน

ประมาณสองอาทิตย์สุดท้าย ดิฉันลางานไปเฝ้าพี่เดือนทั้งวันทั้งคืนเพื่อทดแทนบุญคุณของเธอ แม้ว่าเราจะได้ปริปากเรื่องนี้ต่อกันเลย แววตาพี่เดือนที่มองมาก็บอกว่าเธอรู้ดี และขอบอกขอบใจอย่างลึกซึ้ง

'อย่าคิดมากไปเลย...ความตายคือการเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง คือเริ่มไปเกิดใหม่ แต่เกิดเป็นอะไรยังไม่รู้นะ'

คืนนั้นดึกแล้ว พี่เดือนอ่อนแรงลงทุกที นอนหลับๆ ตื่นๆ และมักร้องครางด้วยความเจ็บปวด ดิฉันรู้ดีว่าเธอทำใจได้แล้ว ยินดีต้อนรับความตายอย่างน่าชื่น แต่ร่างกายของเธอล่ะ มันจะยินยอมพร้อมใจด้วยหรือเปล่าหนอ?


แว่วเสียงครางดิฉันรีบลุกไปยืนข้างเตียงคนไข้ทันที เปิดไฟสว่างขึ้น ร้องเรียกชื่อเธอตกใจจนทำอะไรไม่ถูกเมื่อเห็นพี่เดือนกระสับกระส่ายดิ้นรน ...แม้จิตใจจะยินยอม แต่ร่างกายยังต่อสู้กับความตายตามสัญชาตญาณของสิ่งมีชีวิต หวงแหนลมหายใจของตนจนถึงวาระสุดท้าย

ดิฉันกดกริ่งเรียกพยาบาลร้องร่ำเรียกชื่อพี่เดือนซ้ำๆ กัน เห็นหน้าเธอขาวซีดเหมือนสีผึ้ง หอบหายใจลึกๆ สั้นๆก่อนจะหยุดนิ่ง เช่นเดียวกับอาการกระตุกที่ไหล่ทั้งสอง ขณะที่พยาบาลสองคนผลุนผลันเข้ามา


น้ำตาไหลพรากอาบแก้ว มองเห็นใบหน้าซีดขาวของพี่เดือน ดวงตาที่ลืมค้างยุบแฟบลงจนเห็นได้ชัด ร่างบอบบางที่ดูคล้ายซากที่ปราศจากเลือดเนื้อโดยสิ้นเชิง


ภาพต่างๆยังติดตาฝังใจมาถึงทุกวันนี้ ทำไมดิฉันจะต้องกลัวผีอีกล่ะค่ะ?

คนสู้วิญญาณ

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์