คุณยายมาหา

'แป้ง' เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากวิญญาณที่ผูกพัน

เรื่องราวลี้ลับเหนือธรรมชาติไม่อาจจะพิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์ยังมีอยู่มากมายไม่ว่าชาติใด ภาษาไหน แม้ว่าหลายๆ คนนอกจากจะไม่เชื่อถือแล้วยังหัวเราะเยาะ กล่าวหาว่าเป็นเรื่องของความเชื่อเหลวไหล งมงาย จนถึงบ้าบอคอแตกได้ง่ายๆ

หนักกว่านั้นก็คือเหมารวมว่าคนที่เชื่อเรื่องราวแบบนี้ โดยเฉพาะเรื่องผีๆ สางๆ ล้วนแต่เป็นพวกไร้การศึกษาทั้งนั้น!

ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริงเลยค่ะ...คนที่มีการศึกษาสูงๆ ระดับด๊อกเตอร์ ที่เชื่อมั่นว่าเรื่องราวลี้ลับมีอยู่จริงๆ แม้ว่าจะพิสูจน์ไม่ได้ก็ตาม แต่ท่านๆ เหล่านั้นยืนยันหนักแน่นว่าเคยได้ประสบเหตุการณ์อันน่าอัศจรรย์ใจต่างๆ นานามาแล้วด้วยตัวของท่านเอง ไม่ใช่เชื่อถือเพราะเพียงแต่ได้ยินได้ฟังคำบอกเล่าจากผู้อื่นเลย

ดิฉันเองแม้จะจบการศึกษาเพียงระดับปริญญาตรี แต่ก็เชื่อมั่นว่าในโลกเรายังมีเรื่องเร้นลับที่ยากต่อการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์อีกมากมาย

เรื่องราวที่จะเล่าสู่กันฟังต่อไปนี้ขอให้ท่านผู้อ่านใช้วิจารณญาณเอาเองนะคะ ว่าเรื่องผีๆ สางๆ ที่มีคนส่วนหนึ่งกล่าวหาว่าเป็นเรื่องเหลวไหลไร้สตินั้นจะมีจริงหรือไม่? น่าเชื่อถือปานใด? ดังเรื่องจากประสบการณ์ตรงของดิฉันเองค่ะ!

เมื่อราว 4-5 ปีก่อนดิฉันมีเพื่อนบ้านที่สนิทกันมากอยู่ที่บางบัวใกล้ๆ กับมหาวิทยาลัยเกษตรฯ ชื่อป้าสำอาง เคยเป็นเพื่อนสนิทกับแม่ดิฉันมาก่อน

เมื่อแม่สิ้นบุญเราก็ยังสนิทสนม ไปมาหาสู่กันเสมอ โดยเฉพาะใบปอ-ลูกสาวคนเดียวของดิฉันเป็นที่รักใคร่โปรดปรานของคุณป้ามากๆ มีขนมนมเนยมาฝาก มา กอดจูบราวกับเป็นหลานแท้ๆ ใบปอก็รักใคร่ป้าสำอางเหมือนเป็นคุณยายของแก

อ้อ! ป้าสำอางไม่มีหลานค่ะ ลูกชายจะเป็นหมัน ส่วนลูกสาวคนเดียวก็ยังไม่ได้แต่งงาน

ตอนที่ใบปออายุราวสองขวบ ป้าสำอางก็เริ่มป่วยตามประสาคนชราอายุ 70 เศษ เวลาดิฉันไปเยี่ยมก็จะถามถึงใบปอเสมอ บางครั้งก็ต้องพาลูกไปเยี่ยม ป้าสำอางก็ดีอกดีใจ ท่าทางเหมือนจะหายเจ็บไข้ได้ป่วยจริงๆ

ถ้าอาการดีขึ้นก็จะให้ลูกสาวขับรถพามาหาใบปอเลยค่ะ!

อีกไม่กี่เดือนต่อมา ป้าสำอางก็ถึงแก่กรรมที่โรงพยาบาลภูมิพล พวกลูกๆ ก็ตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่วัดพระศรีมหาธาตุซึ่งใกล้บ้านมากที่สุด มีกำหนดสวดศพ 3 คืนแล้วเผา...ดิฉันก็เล่าให้ลูกสาวฟังว่าคุณยายน้องปอจากไปแล้ว

เด็กวัยสามขวบทำหน้าตาสงสัย เอียงคอมอง แล้วถามว่าคุณยายจากไปไหนคะ? ดิฉันก็ตอบว่าไปสวรรค์จ้ะ...ลูกสาวพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจ

ดิฉันไปฟังสวดอภิธรรมทั้งสามคืน ตอนที่จุดธูปกราบศพแล้วเงยหน้ามองภาพถ่ายของป้าสำอาง รู้สึกเย็นหลังยังไงชอบกล เพราะภาพถ่ายนั้นจ้องมองสบตา ฉายแววห่วงใย คล้ายจะฝากให้ดิฉันดูแลน้องปอด้วยตามประสาคนที่รักใคร่ผูกพันกัน

นึกตอบอยู่ว่า...ไม่ต้องห่วงค่ะคุณป้า แป้งจะเลี้ยงดูน้องปอให้ดีที่สุดค่ะ

ตอนกลางคืนมีเสียงสุนัขเห่าหอนผิดปกติไปทั้งหัวซอยถึงท้ายซอย ประหนึ่งพวกมันเห็นอะไรบางอย่างที่น่าสะพรึงกลัวอย่างเหลือประมาณ แม้ว่าจะไม่คิดอะไรมาก ดิฉันก็อดปากคอแห้งผากไม่ได้ ต้องกอดลูกสาวไว้แนบอกแทบตลอดทั้งคืน!

เมื่อถึงวันเผาศพดิฉันก็ไปพร้อมกับสามี ส่วนน้องปออยู่บ้านกับป้าช้อย-คนเก่าแก่ของแม่ตั้งแต่ดิฉันยังเป็นวัยรุ่น เรื่องความรอบคอบระมัดระวังนั้นหายห่วงได้เลยค่ะ

หลังจากเผาจริงเรียบร้อย ดิฉันกับสามีก็ล่ำลาเจ้าภาพกลับบ้าน ในใจยังนึกถึงป้าสำอางไม่หาย...ขอให้คุณป้าไปสู่สุคติเถอะนะคะ...

แต่เมื่อถึงบ้านดิฉันก็อดประหลาดใจไม่ได้ ที่เห็นลูกสาวตัวน้อยมายืนอยู่ที่ทางเข้ากับป้าช้อย คล้ายจะรอคอยพ่อแม่ แต่สังเกตว่าป้าช้อยยืนอยู่ด้านหลัง หน้าตาซีดเซียว แทบจะวิ่งผวาเข้ามาหา พอดีเสียงแจ้วๆ ของน้องปอดังขึ้นก่อน

'ไหนแม่บอกว่าคุณยายไปสวรรค์แล้วนี่คะ ไม่เห็นจริงเลย คุณยายยังไม่ได้ไปไหน'

'อะไรกัน?' ดิฉันกับสามีเพิ่งลงจากรถถึงกับชะงัก 'ปอว่าไงนะลูก?'

'ก็คุณยายมาหาปอที่นี่ยังไงคะ' แกเอื้อมมือข้างหนึ่งไปเขย่ากับความว่างเปล่า หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสก่อนจะเงยหน้าขึ้นมอง 'พ่อแม่กลับแล้ว คุณยายเข้าบ้านเถอะค่ะ เดี๋ยวค่อยกลับนะคะ'

ดิฉันยืนตะลึงพรึงเพริด ขนลุกซ่าไปทั้งตัว หันไปมองสามีก็พบว่ากำลังอ้าปากค้าง รีบถลาไปคว้าลูกสาวขึ้นมาอุ้มเข้าบ้าน น้องปอยังหันไปโบกมือให้ใครที่เรามองไม่เห็น...อย่างนี้จะไม่ให้ดิฉันเชื่อว่าผีมีจริงได้ยังไงคะ?!

คุณยายมาหา

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์