ผีบ้านผีเรือน

"ผีบ้านผีเรือนคือบรรดาญาติที่เสียชีวิตไปแล้ว"

คุณตามักจะเล่าเรื่องผีให้ฟังบ่อย ๆ โดยเฉพาะผีบ้านผีเรือน ซึ่งท่านเล่าว่าก็คือบรรดาญาติของเราที่ท่านได้เสียชีวิตไปแล้วนั่นแหละ วิญญาณยังคงวนเวียนคุ้มครองดูแลชีวิตความเป็นอยู่ให้พวกเรา แม้กระทั่งเวลาจะทำกับข้าวกับปลา กินก็ต้องให้เหลือไว้บ้าง เผื่อไว้ให้ผีบ้านผีเรือนได้ไว้กินด้วย นั่นคือสิ่งที่ผมได้รับการอบรมเลี้ยงดูมา ตามประสาเด็กชนบทในบ้านนอก บางทีก็อดนึกสงสัยไม่ได้เหมือนกันว่าจะจริงหรือเปล่าที่เวลากลางคืน จะมีผีบ้านผีเรือนออกมากินข้าวกัน

เคยได้ยินเสียงก็อกแก๊ะ ๆๆๆ เวลากลางคืนเหมือนกันแต่ก็ไม่กล้าลุกขึ้นไปดู กลัวตามประสาเด็กครับ กลัวว่าจะไปดูแล้วเห็นผีกำลังนั่งล้อมวงกินข้าวกัน เป็นได้บ้านแตกแน่ กลัวผีครับ ถ้าเจอเป็นส่งเสียงให้คนช่วยด้วยไว้ก่อน ผีจะตกใจหนีไปหมด สงสัยจะกลัวผมมากกว่าใคร เพราะถ้าผมเจออะไรผิดสังเกต เป็นเหตุให้ชวนสงสัย อันดับหนึ่งใจต้องบึ่งไป ใช่เลยก็เรื่องราวความน่ากลัวของบรรดาผีชนิดต่าง ๆ ที่พรั่งพรูออกมา ว่าชนิดโน้นบ้าง ชนิดนี้บ้าง พูดถึงผีใครไม่กลัวไม่เชื่อหลอก เห็นมาเยอะแล้ว โกยหน้าตั้งทุกที ผีบ้านผีเรือนนี่ก็พี่ชายผม และก็หลาย ๆ คนเล่าให้ฟังเยอะแยะไปหมดจับต้นชนปลายไม่ถูก บางทีฟังแล้ว เป็นไม่อยากกลับไปนอนบ้านเลย ไปอาศัยบ้านคนอื่นนอนดีกว่ามานึกได้ทีหลังว่า ก็ถ้าบ้านเรามี ที่บ้านอื่นก็คงจะมีเหมือนกัน เฮ้อหนีผีไม่พ้นจริง ๆ นะนี่ผีมีเกลื่อนบ้านเกลื่อนเมือง แต่ไม่ยักกะเห็นตัวแฮะ ผีนี่จะว่าไปก็เหมือนนักเล่นกลเหมือนกัน

ผีบ้านผีเรือน

"นั่งล้อมวงกินข้าวกันอยู่"





วันหนึ่งขณะพี่ชายกำลังเคลิบเคลิ้มกับความอิ่มหนำสำราญใจ จะคล้อยหลับไม่หลับแหล่ ยามบ่าย ๆ คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการนอนตีพุงเล่นสบายอารมย์ คนเราก็เท่านี้เองกินแล้วก็นอน หลับก็ฝัน ฝันไปเรื่อย มั่วไปเลยก็มี ฝันเห็นเลขก็เอาไปแทงหวยฝันว่าจะรวยก็แทงมากหน่อย บางทีฝันมาก ๆ เลขพลอยมากไปอีก เลยต้องเสียมากไปโดยปริยายมาว่ากันต่อดีกว่า ขณะกำลังจะหลับอยู่นั่น แกก็ได้ยินเสียงคล้ายคนเดินไปเดินมาแว่วมาในหู ใครมาเดินเล่นบนบ้านว่ะ ชำเลืองมองซ้ายทีขวาทีก็ไม่มีอะไร หูแว่วมากกว่า นอนต่อดีกว่า เป็นอยู่อย่างนี้ถึงหลายครั้งหลายครา บ๊ะไม่ได้การแล้วอย่างนี้ นอนไม่ได้แล้ว จำแกเลยก็ต้องออกกำลังกาย




ยืดแข้งยืดขาไปดูสะหน่อยว่า ท่านผู้ใดมากเดินเล่นในบ้านเป็นที่สนุกสนานกันเสียเหลือเกิน จะว่าไปบ้านของผมนั้นมีโกฏิใส่กระดูกของบรรพบุรุษอยู่หลายอัน ผมเคยเอามาเปิดดูปรากฏว่าภายในบรรจุกระดูกอยู่จำนวนมาก ด้วยความกลัวจึงนำกับไปวางไว้ดั่งเดิม แต่ความเคลือบแคลงสงสัยก็ยังคงมีอยู่ ทำไมพ่อแม่จึงเอาของน่ากลัวมาเก็บไว้ที่บ้านด้วยนะ นั่นคือความรู้สึกกลัวในวัยเด็กของผม




พี่ชายผมเดินมองหาเจ้าของฝีเท้าจนทั่วบ้านก็ไม่พบ เอ มันก็ไม่มีอะไรนี่หว่าแล้ว เสียงมันมาจากไหนกันละนี่ จะว่าหูฝาดก็ไม่น่าจะใช่ ก็ได้ยินตั้งหลายครั้ง ขณะที่กำลังงุนงงสงสัยอยู่นั่นเอง ฉับพลันสายตาของพี่ชายผม ก็ต้องสะดุดอยู่กับเจ้าสิ่งหนึ่ง พี่ชายผมขยี้ตาดูอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจ แน่แล้วครับ ภาพเลือนลางนั้น ไม่ผิดแน่ บรรดาแขกไม่ได้รับเชิญกำลังนั่งล้อมวงกินข้าวกันที่ห้องครัวเฉยเลย เฮ้ยเป็นไปได้อย่างไงกันนี่ ผีแน่นอนชัวร์ พี่ชายผมทำใจดีสู้เสือ โดยแกล้งทำเป็นไม่กระโตกกระตาก ให้เสียฟอร์ม เชิญกินกันให้ตามสบายบรรดาผีบ้านผีเรือน ตัวข้านี้จำเป็นต้องจรลีหนีไกล ไปสงบสติอารมย์สักครู่ใหญ่ ๆ ก่อนภาพพี่ชายผมค่อยเดินอย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัว ลงบันไดบ้าน พอขาก้าวลงพื้นดินเท่านั้นแหละ พี่ชายที่แสนดีของผม ก็โกยอ้าวหน้าตั้งไปบ้านป้าไม้ ซึ่งเป็นญาติบ้านใกล้เรือนเคียงกันนั่นเอง






"เห็นขบวนคนแต่งชุดโบราณ"





ไม่เอาอีกแล้ว ผีบ้านผีเรือน จะกินก็กินกันไปซี ทำไมต้องมากินให้เห็นด้วย ผมรู้สึกแปลกใจเหมือนกัน ว่าทำไมระยะหลัง พี่ชายผมถึงได้เป็นโรคเบื่ออาหารอย่างกระทันหัน เวลากินข้าวมักจะแหงะหน้า แหงะหลังไปด้วย สงสัยจะกลัวมีคนมาร่วมวงด้วย แต่สำหรับผมยังเด็กอยู่ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรนักหรอก กินมันดะไป ผีเผลอไม่สนใจ แต่อย่าไม่เล่าให้ฟังก็แล้วกัน แต่อยู่ได้ไม่นาน ตาพี่ชายจอมโกย ก็เล่าให้ผมฟังจนได้ นั่นแหละ โรคเบื่ออาหารที่บ้านก็พานติดมาถึงผมด้วย เห็นไหมเล่าครับ ขึ้นชื่อว่าผี จะผีบ้านหรือผีเรือน มันก็น่ากลัวด้วยกันทั้งนั้น




มาว่ากันเรื่องผีบ้านผีเรือนกันอีกหน่อย บ้านลุงเจียนกับป้าหงวน ก็มีข่าวผีลักษณะเช่นนี้เหมือนกัน คุณพ่อเล่าให้ฟังว่า บางคืนดึก ๆ จะเห็นขบวนคนแต่งชุดโบราณเดินกันเป็นขบวนเลย ขึ้นบ้านของลุงเจียน ผมนึกสงสัยเหมือนกัน อ้าวถ้าขึ้นไปแล้ว แล้วหายไปอยู่ไหนกันหมด ไม่เห็นมีเลย ก็ผีนะซีจะไปเห็นได้อย่างไร ที่บ้านของลุงเจียนมีรังผึ้งขนาด ใหญ่อยู่ที่ใต้เตียงด้วย แต่ไม่ทำอันตรายใคร เป็นรังใหญ่มาก ๆ ผมเคยขึ้นไปดู ร้องโอ้โฮเลย มหัศจรรย์จริง ๆ ผึ้งอะไรมาอยู่ร่วมเตียงนอนกับคน แปลกแท้ ๆ




มีอยู่อีกครั้งหนึ่ง ป้าหงวนแกโดนผีเข้า น่ากลัวจริง ๆ น้ำเสียงพูดไม่เหมือนกับ เสียงเดิมของป้าหงวนเลย แกจะพูดลักษณะห้วน ๆ ฟังแล้วชวนขนลุกขนชัน ได้ความว่าแกไปบนบานศาลเกล่ากับเจ้าพ่อไว้แล้วไม่ไปแก้บน เขาเลยตามมาทวง ให้ไปแก้บน อย่างงี้ก็มีถามไปถามมาก็เป็นจริงอย่างที่พูดออกมา เพราะป้าหงวนกับลุงเจียนแกไปบนกับเจ้าพ่อไว้ที่จังหวัดลพบุรี แต่ก็หลงลืมไปแก้บนจนได้ จนแล้วจนรอด เจ้าพ่อเลยตามมาทวง เห็นไหมครับ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เรามองกันไม่เห็นตัวนี่ ความจริงเขาก็มีของเขาอยู่เหมือนกัน จะมาเอาวิทยาศาสตร์อย่างเดียวไม่ได้หรอก ของอย่างงี้มันต้องเจอกับตัว ใครเจอก็เผ่นกันได้ตาม อัธยาศัยครับ




สำหรับผม โกยมามากแล้ว จะเล่าต่อกลัวจะยาวอีก เอาแค่นี้ก่อนครับ ยังคงยืนยันอยู่เช่นเดิมว่า ผีมีจริง ๆ นะจะบอกให้ ถ้าใครไม่เชื่อหรือไม่กลัว เจอกับตัวแล้วอย่าโกยหน้าตั้งก็แล้วกัน ฮะ ๆๆๆๆๆ






เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์