ผีหัวหลุดสุดเฮี้ยน ณ โรงแรม

แวะพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ในต่างจังหวัด

เป็นเรื่องเล่าจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นจิงๆ จากญาติของดาราท่านนึง เล่าว่า
ญาติของเค้าได้ไปเที่ยวฉลองกันที่ต่างจังหวัดในภาคกลาง
ซึ่งบ้านของเค้าเองอยู่ในจังหวัดหนึ่งของภาคเหนือตอนล่าง
จะไปเที่ยวกัน กินเลี้ยง และกะว่าจะค้างที่นั่นซะด้วยเลย

เมื่อไปถึงก้อแวะเที่ยวเล่นตามห้าง แหล่งท่องเที่ยวทั่วไป แวะทานข้าว
ใกล้ค่ำแล้ว ก้อหาที่พักตามแผนที่ตั้งไว้ ก้อได้ไปเจอโรงแรมแห่งนึง
ซึ่งก้อไม่เก่ามาย บอกมาว่าประมาณ 3 ดาวน่าจะได้
โรงแรมประมาณนี้ก้อคิดว่าโอเคนะ ไม่แพงด้วย ห้องก้อไม่เต็ม
ถึงแม้จะห่างตัวเมืองซัก 1-2 กิโล
คิดว่าตื่นเช้ามาก้อจะได้ไปเที่ยวที่อื่นที่ยังไม่ได้ไปต่อ

หมู่คณะที่ไปกันก้อมี 3 คน ชาย 1 หญิง 2 โดยผู้ชายนั้นกะว่าจะขอนอนเดี่ยวอีกห้องนึง อยากพักผ่อนมาก เพราะตนเป็นคนขับรถเอง เหนื่อยมาทั้งวัน

และแล้วสิ่งผิดปกติก็ได้เกิดขึ้น หลังจากเสียง คลิก จากประตูตังขึ้น

เมื่อแกเข้าห้องนอนปุ๊ป ก้อปิดไฟปั๊บ นอนกองอยู่บนเตียง(ไม่คิดจะอาบน้ำเลยเหรอ)ทันที ทีแรกก้อนอนไม่หลับ ไม่รู้มันเพราะอาไร ไม่มีสาเหตุ จึงลุกไปเปิดแอร์ เปิดไฟห้องน้ำทิ้งไว้ เผื่อตื่นขึ้นมาใหม่จะอาบน้ำทันที แล้วจึงนอนเล่นๆ ต่อไป เผลอหลับไปเมื่อไหร่ไม่รู้สึกตัว

ตื่นมากอีกทีก้อตอนได้ยินเสียงประตูดัง "คลิก" เหมือนว่าพึ่งปิดมาใหม่ ลืมตาขึ้นดู แลเห็นว่าพึ่งตี 1 ไม่คิดอะไรมาก ค่อยหลับต่อไปด้วยความงัวเงียเล็กน้อย คงทำให้ได้ยินเสียงผิดแผดไป สักครู่แกก้อได้ยินเสียงน้ำฝักบัวไหล เสียงไม่ค่อยดัง แต่แน่ใจได้ว่าฝักบัวในห้องนี้

จึงลุกขึ้นไปดู ตรวจสอบน้ำรั่ว แต่ก้อน่าประหลาด พื้นแห้งสนิท ผิดคาดไปเลย ทีนี้ชักขนลุกขึ้นมาเล็กน้อย จึงหันไปปิดแอร์ เพราะรู้สึกหนาวเกินไป หันไปเปิดหน้าต่างแทน โดยมีผ้าม่านกั้นอยู่ด้วย มองเห็นลมพัด ผ้าม่านปลิวอยู่เบาๆ ด้วยความที่เหนื่อยมาก จึงผลอยหลับไปอีก

ใช้ห้องร่วมกัน กับแขกไม่ได้รับเชิญ

แต่สิ่งนึงที่ดังอย่างชัดเจนในเวลาต่อมาคือ ได้ยินเสียงเก้าอี้นั่งของโต๊ะเครื่องแป้งดังขึ้น รู้สึกได้ว่าเป็นเสียงของสิ่งๆหนึ่งวางทับกดลงไป พูดให้ถูกก้อน่าจะเหมือนมีคนนั่งลงไป ซึ่งเก้าอี้จะมีเบาะสีแดงรองรับอยู่ และค่อยๆมีเสียงเหมือนคนกำลังหวีผมอยู่ เสียงมันดังมากเหมือนกับมันเกิดอยู่ข้างๆหูเลย

ตอนนั้นรู้สึกว่าขนได้ลุกขึ้นทั่วร่างแล้ว ขยับร่างกายก้อลำบากขึ้น เหมือนถูกฉีดยาชามาซะงั้น ทำได้แค่กลอกตามองไปมาเท่านั้นเอง แกแลเห็นว่าตี 2 กว่าๆ ลมได้พัดแรงขึ้นกว่าเดิม ผ้าม่านปลิวสบัด เสียงน้ำในชักโคกดังขึ้น แกรู้สึกเหมือนว่ามีใครที่ไม่รู้จักอยู่ในห้องนี้กับแก มากกว่า 3 คน สักพักไฟห้องน้ำที่เปิดไว้ก้อดับทันที ไร้สาเหตุมากๆ

ไม่ใช่เรื่องเล่นๆแล้ว

แกนับในใจได้ซัก 4-5 พร้อมทั้งนึกถึงพระรัตนตรัย เตียงที่แกนอนอยู่ก้อยุบลงไปข้างๆที่ตนนอนราว 5-6 นิ้วได้ แกบอกว่าเหงื่อไหลโชกไปทั่วตัว เพราะแกกว่าขึ้นมาสุดๆ ปากอ้าไม่ได้เลย อยากจะเรียกให้เพื่อนผู้หญิงห้องข้างมาช่วยก้อทำได้ยากมาก ราวกับมาเข็มร้อยด้ายมาเย็บที่ปากเอาไว้ไม่ให้พูด

และแล้วเค้าก็ปรากฏตัว ให้เห็น

และเหตุการณ์ที่จำได้ล่าสุดก้อคือ แสงจันทร์ได้สาดส่องเข้ามาในห้องผ่านหน้าต่างและผ้าม่านที่ปลิวอยู่ แลมองขึ้นไปบนเพดานเห็นเป็นผู้หญิงสวมชุดขาวคลานเอาหัวห้อยลงมา คลานมาจากริมหน้าต่าง คลานมาเรื่อยๆ

ตาจ้องตา ตามหลอน

จนถึงตำแหน่งที่พอดีกับตัวเค้าเอง ปากแสยะยิ้มกว้าง ทันทีทันใดหัวที่ห้อยนั้นก้อหลุดตกลงมากลางท้องของเค้าพอดี ซึ่งตาของเค้ากับตาของเธอจ้องมองกันตลอดเลย......

เพื่อนสาวรีบนำส่งโรงพยาบาล

รู้สึกตัวอีกที ก้ออยู่ที่โรงพยาบาล และเห็นผู้หญิงที่มาด้วยกันนั่งอยู่ข้างๆ ถามเธอได้ความว่า ทั้ง 2 ได้ยินเสียงเรียกให้ช่วยเหลือ(ซึ่งเค้าเองจำได้ว่าพูดไม่ได้เลย) ร้องเรียกอยู่นั่นแหละ เมื่อตอน ตี 2 แปลกใจอยู่นานจึงมาเปิดประตูดู แต่เปิดไม่ออก ต้องเรียกให้พนักงานมาเปิดให้ พอเข้ามาได้ก้อเข้าตนเองนอนชักดิ้นชักงอ ตาเหลือก ตาช้ำ เกรงว่าจะตายจึงรีบส่งโรงพยาบาล

โรงแรมแห่งนั้นยังคงมีความสยองอยู่

และที่ต้องการจะบอกอีกอย่างนึง คือ
โรงแรมแห่งนั้นยังคงมีความสยองอยู่
ยังเปิดบริการให้พักอยู่ และอยู่....
ในภาคกลางนั่นแหละ