ผีเฝ้าถนน

"สุวรรณา" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกบนทางหลวง

เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อห้าปีก่อน แต่ความน่ากลัวคงจะฝังใจไปตลอดชีวิตแน่นอน!

ตอนนั้นดิฉันเพิ่งแต่งงานได้ไม่นาน เราทั้งคู่ยังอยู่ในวัยใกล้สามสิบ ทำธุรกิจส่วนตัวคือเปิดสวนอาหารแถวบางแค ชีวิตสนุกมาก มีเพื่อนเยอะแยะ นอนดึกตื่นสายประจำ

คืนหนึ่งเกือบสองยามแล้ว เพื่อนของสามีอาชีพเกี่ยวกับการโฆษณา มานั่งกินตั้งแต่หัวค่ำยันดึก เกิดอารมณ์คึกชวนว่าไปชะอำกันเถอะ! ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นกันดีกว่า เรื่องที่พักไม่ต้องห่วงเพราะเขามีคอนโดฯ

ฟังปุ๊บ พวกเราก็นึกสนุกกันทันที สามีกับเพื่อนหนุ่มๆ สาวๆ ของเราอีกสองคู่รีบพยักพเยิดกลัวเจ้าภาพจะเปลี่ยนใจ จะมีก็แต่ดิฉันที่มีสติกว่าใครเพราะไม่ได้ดื่มเหล้า ได้แต่มองหน้าคนนั้นทีคนนี้ทีอย่างตื่นตะลึง แทบไม่อยากเชื่อหูตาตัวเอง

ดูซีคะ! ทุกคนเมาเพียบกันทั้งนั้น หน้าแดง ตาปรือ เฮฮาสุดๆ โดยเฉพาะ "คุณเปี๊ยก" ที่เป็นคนชวนน่ะ เมาละเอียดกว่าใครเพื่อน!

"อย่าไปเลยน่า นี่ก็ดึกแล้วนะ เอาไว้เสาร์อาทิตย์เราค่อยไปกันสบายๆ วันนี้น่ากลัวออก" ดิฉันเตือน แต่ยิ่งว่าเหมือนยิ่งยุ คุณเปี๊ยกคว้ากุญแจรถขึ้นยืนพรวด ส่วนพวกเราทุกคนรวมทั้งสามีดิฉันก็ลุกตาม ใจคอจะไปกันเดี๋ยวนั้น

"เสื้อผ้าไม่ต้องห่วง" ใครคนหนึ่งหัวเราะร่วน "ชุดกินชุดนอนชุดเที่ยวชุดเดียวกันน่า"

ดิฉันชักอารมณ์ไม่ดีเพราะกลัวน่ะค่ะ สามีจับแขนดึง..เขาเองก็เมาไม่น้อย

"เถอะน่า เราไปแค่วันเดียว พรุ่งนี้เย็นก็กลับ เผลอๆ ไปหาเสื้อผ้าเอาที่โน่นก็ได้ แล้วจะซื้อให้ใหม่ไงล่ะ ไม่ดีเหรอ?"

เชื่อมั้ยคะ..ดิฉันไม่อยากได้ชุดใหม่เลย แต่ยอมให้สามีจูงไปขึ้นรถโฟร์วีลของคุณเปี๊ยก ไปมันคันเดียวนี่แหละ อัดกันไปได้ตั้ง 6-7 คน ดิฉันโพล่งว่าอีกตั้ง 3-4 ชั่วโมงกว่าจะถึงชะอำ คุณเปี๊ยกบอกว่าแค่สองชั่วโมงเท่านั้น..แปลว่าเขาจะซิ่งเย้ยมฤตยูน่ะซีคะ!

เมาแล้วขับรถ..โอ๊ยตายละ! งานนี้จะรอดมั้ยเนี่ย?

จากบางแคแค่สองยามกว่า ถนนโล่งน่าดูแต่ก็วังเวงพิลึก สามีนั่งคู่กับคนขับ ดิฉันนั่งเบียดกับเพื่อนๆ อีกสองคู่ ตามองผ่านกระจกหน้าออกไป ใจคิดถึงคุณพระคุณเจ้า สวดคาถาชินบัญชร..แต่อีกใจก็คิดว่าพระท่านจะช่วยละหรือ?

เลยมหาชัยไปแล้ว สองข้างทางมืดมาก กระนั้นดิฉันก็ยังเห็นร่างขาวๆ ที่ยืนอยู่ริมถนน..แต่ละกิโลเมตรจะมีร่างมนุษย์ยืนตรงๆ ราว 2-3 คน เล่นเอางงมาก

ใครกันนะคนพวกนี้? จะว่าพวกเขามายืนรอรถก็ไม่น่าจะใช่ มันน่ากลัวจริงๆ ค่ะ แต่เพื่อนๆ ดูท่าจะไม่เห็นร่างเหล่านั้นเลย จนกระทั่งอุ๊เพื่อนสาวสะกิดแขนถามว่าเห็นอะไรมั้ย?

อุ๊ดื่มเข้าไปไม่น้อย แต่ตอนนี้ดูเธอตกใจกลัวแทบหายเมา ดิฉันมองตามมือที่เธอชี้ ก็เห็นร่างที่ยืนอยู่ในระยะราวร้อยเมตรข้างหน้า มันต้องมีอะไรผิดปกติแน่ๆ แต่ยังนึกไม่ออกเท่านั้น พอดีอุ๊อุทานเบาๆ พลางบีบแขนดิฉันแน่น

เหวอ..ร่างนั้นบิดเบี้ยว ท่อนล่างตั้งแต่สะเอวหันไปด้านหลัง ตรงข้ามกับร่างท่อนบน..ผีแน่ๆ แล้ว! แม้รถจะผ่านไปเร็วแต่ก็เห็นได้ชัด

ใกล้ถึงวังมะนาว ดิฉันเห็นคนยืนเป็นกลุ่ม แต่ละคนดูไม่เหมือนมนุษย์ที่ยังมีชีวิตอยู่เลย ในใจดิฉันรู้แน่ชัดว่าพวกเขาคือผีเฝ้าถนน! บรรดาคนที่มาประสบอุบัติเหตุล้มตายตรงนี้! แล้วพวกเขามายืนกันทำไมล่ะคะ..ถ้าไม่ใช่มาคอยรับวิญญาณของพวกเรา?

ดิฉันเกือบแน่ใจแล้วว่า นี่คือวันสุดท้าย..นาทีสุดท้ายของชีวิต และดิฉันกำลังจะไปกับพวกเขาเดี๋ยวนี้!

จริงดังคาด..รถวูบเสียหลัก โลกพลิกกลับและถล่มทลาย เสียงโลหะบดถนน เสียงเหล็กถูกขยี้ กลบเสียงหวีดร้องของพวกเรา ที่กำลังถูกเหวี่ยงไปลงนรกอเวจี..

เมื่อฟื้นสติอีกครั้ง ดิฉันนอนอยู่ในโรงพยาบาล ขาหักแขนหัก สามีดิฉันเจ็บน้อยกว่าค่ะ แค่หัวแตก ไหล่หลุด..เขานั่งข้างหน้าแท้ๆ น่าจะเจ็บมากกว่านี้ พวกเราทุกคนรอดชีวิตมาได้แต่หัวร้างข้างแตก หยอดข้าวต้มกันเป็นเดือน คนที่เจ็บหนักกว่าเพื่อนก็คุณเปี๊ยกเองค่ะ

ขาขวาขาดตั้งแต่ใต้หัวเข่า สมองกระทบกระเทือนมาก ฟื้นจากโคม่าก็มีอาการเลื่อนลอย ละเมอไล่ผีถนน..เขาพูดคำนี้ออกมาเลยนะคะ น่าขนลุกจริงๆ

"พวกผีถนน! ออกไปนะ! ฉันไม่ไปกับแก.."

ทุกวันนี้เขากลายเป็นคนพิการ สติป้ำๆ เป๋อๆ แม่ต้องมาลำบากดูแลเหมือนเขากลับเป็นทารกอีกครั้ง เสียอนาคต และน่าเสียดายความรู้ความสามารถจริงๆ เลย

นี่แหละค่ะ ผลของการ "เมาแล้วขับ" ตัวเองสูญเสีย คนอื่นๆ ก็พลอยเดือดร้อน...หวังว่าคงจะช่วยเตือนใจเพื่อนๆ ผู้ใช้รถใช้ถนน อย่าทำแบบพวกดิฉันนะคะ ถ้าเราประมาทน่ะต่อให้พระอินทร์บินมาเขียวๆ ก็ช่วยอะไรพวกเราไม่ได้หรอกค่ะ!

ผีเฝ้าถนน

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์