วิญญาณถูกสาป

"นางแก้ว" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากเปรตวัดช่องนนทรี

คุณผู้อ่านทุกท่านคงจะเคยได้ยินชื่อภูตผีชนิดหนึ่งที่เรียกว่า "เปรต" หรืออสุรกายชนิดหนึ่งที่มีรูปร่างสูงชะลูดยิ่งกว่าเสาไฟฟ้า มือโตเท่าใบลานแต่ปากเล็กเหมือนรูเข็ม เพราะบาปกรรมสาหัสที่เคยทำไว้เมื่อครั้งเป็นมนุษย์

เปรตที่โด่งดังมากที่สุดคือเปรตวัดสุทัศน์ จะเป็นด้วยสาเหตุใดไม่ทราบแน่ชัด แต่สันนิษฐานกันว่าผู้พบเห็นคงจะนำไปเปรียบเทียบว่าสูงกว่าเสาชิงช้าหน้าวัดก็เป็นได้นะคะ

ดิฉันเคยเห็นเปรตในวัดแถวล่างของกรุงเทพฯ มาแล้วค่ะ ทั้งน่าสงสารและน่ากลัวมากๆ เลย จึงขอนำมาเล่าสู่กันฟังวันนี้

สมัยสาวๆ บ้านดิฉันอยู่ใกล้สำนักงานเขตยานนาวา การเดินทางไปทำงานทั้งขาไปและขา กลับจำเป็นต้องเดินผ่านวัดช่องนนทรีอยู่เป็นประจำ

สมัยนั้นยาเสพติดก็ระบาดหนักพอๆ กับสมัยนี้ มีทั้งผงขาว เฮโรอีนและสารระเหย (ทินเนอร์) ซึ่งอย่างหลังนี้กำลังเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นของชุมชนวัดดังกล่าว เป็นสารเสพติดที่หาซื้อได้ง่ายมาก แถมราคาถูกอีกต่างหาก

ดิฉันจะไปขึ้นรถเมล์แถวหลังวัด โดยบริเวณนี้มีป้ายรถเมล์และร้านขายข้าวแกงอยู่ร้านหนึ่ง เมื่อไม่กี่ปีก่อนก็ยังเห็นขายอยู่หมือนเดิมค่ะ

ที่นั่นดิฉันได้พบเห็นวัยรุ่นชายอายุราว 16-17 ปี สมมติว่าชื่อ "บอย" นะคะ

การแต่งตัวกับรูปร่างหน้าตา ใครเห็นก็รู้ได้ทันทีว่าเด็กคนนี้ติดสารระเหยขนาดหนัก สภาพร่างกายเหมือนเด็กอายุ 13-14 ปี รูปร่างผอมเกร็ง ดวงตาแห้งแล้งดูไร้ชีวิตชีวา ผิวหนังตกสะเก็ด แห้งคล้ายหนังงู ออกสีม่วงๆ หมองคล้ำ ซีดเซียว...ดิฉันเห็นแล้วให้นึกสลดหดหู่และเวทนาเป็นอย่างมาก

แกเคยเดินมายกมือไหว้ขอเงิน ดิฉันถามว่าขอไปทำอะไร? บอยบอกว่าหิวข้าวจะเอาเงินไปซื้อข้าวกิน ดิฉันบอกว่าถ้าหิวข้าวจริงๆ พี่จะพาไปกินข้าวแถวป้ายรถเมล์ บอยก็ต้องยอมมานั่งทานข้าว โดยมีดิฉันนั่งดูแลจนแกอิ่มหนำเรียบร้อย

เหตุการณ์แบบนี้เป็นไปเกือบสองเดือน จนดิฉันย้ายไปทำงานที่โคราช

คืนหนึ่งดิฉันก็ฝันเห็นบอย...เป็นภาพที่วัดช่องนนทรี บริเวณด้านหลังมีต้นโพธิ์ใหญ่ราว 3-4 ต้น นอกนั้นเป็นป่าละเมาะและบ้านช่องที่มาเช่าที่วัดเป็นรายปีอาศัยอยู่...ปัจจุบันนี้อยู่ด้านซ้ายของพระอุโบสถใหม่ของวัดค่ะ

ในความฝันยามดึกสงัดนั้น ดิฉันได้สัมผัสจิตโดยการได้ยินเสียงหวีดแหลม เล็กยาว...โหยหวน คล้ายเสียงนกหวีด แต่แฝงความน่ากลัว น่าสยด สยองปะปนอยู่ในเสียงนั้นด้วย

เสียงหวีดแหลมนี้เข้าไปในโสตประสาทสัมผัสที่ 5 คือมีอาการขนหัวลุก...ขนลุกซ่าไปทั้งตัว น้ำเสียงแสบหวีดเข้าไปในรูหูของดิฉัน!

ความสงสัยใคร่รู้ จึงมองหาที่มาของเสียงแปลกประหลาด ดิฉันมองขึ้นไปเหนือยอดทิวมะพร้าวก็ได้เห็นอสุรกาย หรือเปรตตนหนึ่งสูงลิบลิ่วราวตึก 6-7 ชั้น ร่างกายล่อนจ้อนเปล่าเปลือยน่าสังเวชที่สุด

อยากรู้ว่าเปรตตนนี้คือใคร ดิฉันจึงตั้งจิตอธิษ ฐานสำรวมกายใจ ไม่ช้าก็เห็นแจ้งว่าเปรตตนนั้นคือเด็กชายที่ติดสารระเหยนั่นเอง...ดวงตาแห้งแล้ง ว่างเปล่า แขนขายาวเก้งก้างมีแต่หนังหุ้มกระดูก ผิวดำเกรียม แห้งกรัง ปากเล็กมากอย่างที่เราเข้าใจกันจริงๆ ค่ะ

ในช่วงที่มองเห็นเปรตบอยอย่างชัดเจนนั้น เหมือนดิฉันมีดวงตาวิเศษจนมองเห็นหน้าตานั้นได้ชัดเจน ทั้งที่ดิฉันสายตาสั้นประมาณ 500-600 แถมยังเอียงซ้ายอีกด้วย

ดิฉันตั้งจิตอธิษฐานว่า จะทำบุญกรวดน้ำ อุทิศส่วนกุศลไปให้ ภาพอสุรกายตนนั้นจึงค่อยๆ เลือนหายไป

ดิฉันตกใจตื่นดูนาฬิกาเป็นเวลา 05.00 น.เศษ ซึ่งได้ฝันแปลกประหลาดเป็นครั้งแรกในชีวิต จนกระทั่งทุกวันนี้ก็ไม่เคยฝันเช่นนั้นอีกเลย

เมื่อเล่าเรื่องนี้ให้คุณแม่ฟัง ท่านบอกว่า "บอย" เมื่อยังมีชีวิตอยู่มิได้ประพฤติตนอยู่ในศีลในธรรม หรือสร้างกุศลผลบุญแต่อย่างใดเลย เมื่อตายไปจึงได้รับผลกรรม ต้องเกิดในอบายภูมิ คือ "นรกชั้นอเวจี" ต่ำสุดของนรกทุกขุม ยกเว้น "มหาอเวจีนรก" เท่านั้น

บอยไม่มีใครทำบุญกรวดน้ำไปให้ จึงต้องมาปรากฏกายให้ดิฉันเห็น จะได้มีจิตเมตตา ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ ที่สำคัญดิฉันสวดมนต์ก่อนนอนทุกๆ คืนค่ะ พร้อมกับแผ่เมตตาให้สรรพสัตว์ต่างๆ เป็นประจำทุกคืน

คุณลุงดิฉันผู้เช่าที่วัดช่องนนทรีรายปี โดยปลูกบ้านอยู่ตรงข้ามประตูวัด (ประตูใหม่) เคยเล่าว่า...ประวัติวัดช่องนนทรีนี้ขึ้นชื่อลือชาว่าผีดุมากๆ รองจากวัดดอนยานนาวาเท่านั้นค่ะ!



วิญญาณถูกสาป

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์