วิญญาณในศาลเจ้า

"สุพินดา" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกเมื่อเข้าศาลเจ้า ครั้งแรก

เมื่อราว 4-5 ปีก่อนดิฉันกำลังมีความทุกข์หนัก ซึ่งเกิดจากความสูญเสียบุคคลที่รักไปตลอดกาล แม้ว่าจะพยายามห้ามใจจนบางครั้งสร่างโศกไปได้ แต่บางคราวก็ไม่สำเร็จค่ะนึกถึงภาพเก่าๆ แล้วถึงกับนอนร้องไห้ บางทีน้ำตาไหลเงียบๆ คนเดียว

วันหนึ่งมีญาติสนิทที่รักและปรารถนาดีแนะนำให้ไปทำบุญกับมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งย่านวัดพลับพลาชัย ดิฉันก็ทำตามค่ะ หวังจะให้ผู้เป็นที่รักได้รับกุศล ตัวเองก็คงสบายใจขึ้น

"มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ศาลเจ้าไต้ฮงกง อำเภอป้อมปราบ จังหวัดพระนคร"

ซื้อธูปเทียนชุดละ 20 บาท ใกล้ๆ กับประตูทางเข้า เดินผ่านลานกว้างเข้าไปในศาล เห็นพระพรหมตั้งเด่น ทางซ้ายมีคนกำลังจุดเทียน ดิฉันก็แกะเทียนสีแดงป้อมๆ สองคู่ออกมาปักที่กระถางทราย แล้วแกะห่อธูปออกมาจุดเปลวเทียนทั้งกำ นำไปปักที่กระถางทั้งด้านหน้าท่านท้าวมหาพรหมและด้านหน้าเทพเจ้า

กำลังนึกอยู่ว่าจะทำบุญได้ที่ไหน ก็พอดีเหลือบไปทางขวามือ เห็นคนเข้าแถวราว 3-4 แถว มีทั้งหญิงและชาย หนุ่มสาวและคนชรา จึงเดินเข้าไปดูด้วยความสนใจ

มีป้ายบอกการทำบุญและจำนวนเงิน ที่สะดุดตาก็คือโลงศพ 600 บาท ผ้าห่อศพ 50 บาท ทั้งชุด 650 บาท

ดิฉันเข้าไปต่อแถวด้วยจิตมุ่งจะทำกุศลดังกล่าว..เมื่อจ่ายเงินแล้วได้รับคำแนะนำอย่างอ่อนโยนจากสุภาพสตรี ผู้เป็นเจ้าหน้าที่รับเงิน

"คุณเข้าไปอุทิศส่วนกุศลให้ใครก็ระบุชื่อด้วยนะคะ ต้องการอะไรก็ขอเจ้าท่าน ส่วนใบเสร็จคุณจะนำกลับบ้านก็ได้ หรือจะเผาอุทิศให้ใครก็ได้ แล้วแต่คุณค่ะ"

ดิฉันมีเชื้อสายจีนบ้างก็จริง แต่ยังไม่เคยเข้าศาลเจ้ามาก่อนเลย เห็นเขาคุกเข่าต่อหน้าเทพเจ้า ชูใบเสร็จทำปากขมุบขมิบ ดิฉันก็ทำตาม โดยบอกกล่าวว่าขออุทิศให้นาย..และเด็กหญิง..ด้วยเถิด

นั่นคือสามีและลูกสาวที่จากดิฉันไปด้วยอุบัติเหตุร้ายกาจในเวลาเดียวกันค่ะ!

จากนั้นก็ไปไหว้เทพเจ้าที่โดดเด่นเบื้องหน้า เห็นเขาเสี่ยงเซียมซีกันก็ลองเสี่ยงดูบ้าง อยากทราบโชคชะตาในอนาคตเหมือนเพื่อนมนุษย์ส่วนมาก ก้มหน้าอธิษฐานแล้วเขย่าติ้วด้วยใจเต้นระทึก

ผลคือได้เลข 26 ค่ะ!

บรรยากาศที่ดูศักดิ์สิทธิ์ มีแต่กลิ่นธูปควันเทียน เสียงพูดคุยกันเบาๆ ทำให้จิตใจแช่มชื่น สงบสุขกว่าเดิม อย่างที่เขาว่าคนมีทุกข์มักจะเข้าวัดเข้าวาไหว้พระไหว้เจ้าเพื่อเยียวยาจิตใจบอบช้ำของตนเอง..เชื่อว่าเป็นความจริงอย่างแน่นอน

เมื่อลาเจ้าแล้วก็เหลือการไปหาใบเซียมซี กับเตาเผาใบเสร็จรับเงินให้เสร็จสิ้นไป

ก่อนออกจากศาลเจ้าก็เห็นเซียมซีอยู่ด้านขวา มีช่องเล็กๆ มากมายติดป้าย 1-2-3 เรียงรายกันลงมาหลายชั้น ดิฉันมองดูจนแน่ใจก็หยิบกระดาษทำนายโชคชะตาจากช่อง 26 พอก้มลงมองก็นิ่งอึ้งไปเลย

ข้อความ 5-6 แถวนั้นเป็นภาษาจีนล้วนๆ ดิฉันอ่าน ไม่ออกเลยค่ะ

ขณะที่ยืนงุนงงอยู่นั้นก็เห็นสตรีวัยเดียวกัน แต่งชุดสีเทาอ่อนกำลังเอื้อมไปหยิบใบเซียมซีจากช่องมาอ่าน แล้วก็ถอนใจยาว

เธอเป็นคนร่างสันทัด ผิวขาว หน้าตาท่าทางเป็นคน มีสกุลรุนชาติและดูใจดีค่ะทำให้ดิฉันกล้าเอ่ยปากขอ ความกรุณาให้ช่วยแปลข้อความในใบเซียมซีของตัวเอง ให้เข้าใจด้วย

เราสบตากัน เธอมองยิ้มๆ พลางรับไปอ่านเป็นภาษาจีนเบาๆ ก่อนจะถามว่า คุณขออะไรเจ้าท่านล่ะ? ดิฉันก็อ้อมแอ้มว่าสุขภาพไม่ค่อยดีค่ะ

"โรคของคุณรักษาที่ไหนก็ไม่หาย ต้องขอให้เจ้าช่วยรักษาเท่านั้น"

เธอตอบชัดเจน..ดูเหมือนเราจะหัวอกอันเดียวกัน มีทุกข์ในใจคล้ายๆ กัน เพราะมาทำบุญเพียงลำพัง คิดๆ แล้วน่าใจหายนะคะ

ดิฉันขอบคุณเธอสำหรับคำตอบ นึกเกรงใจเจ้าท่านเพราะเพิ่งรบกวนไปหยกๆ คิดว่าจะมาใหม่อีกครั้ง..เห็นร่างในชุดสีเทาเดินออกจากศาลก็ตามไป ปรากฏว่าเธอกำลังจ่อใบเสร็จกับเปลวไฟจนลุกไหม้วู่วาม ครู่หนึ่งก็หย่อนใส่ช่องของเตาเหล็กที่อยู่สูงระดับศีรษะพอดี..ดิฉัน ก็ทำตามนั้นแล้วหันไปมองเธออีกครั้ง

แทบไม่เชื่อสายตา จนต้องจ้องมองให้แน่ใจว่าภาพนั้นเป็นความจริง!

ร่างในชุดสีเทาอ่อนเดินช้าๆ ไปยังทางออกเล็กๆ ด้านซ้ายมือ..มีเด็กชายวัยสิบขวบผู้หนึ่งเดินเกาะมือเธอ ด้วยสีหน้าและท่าทางร่าเริง..ทั้งๆ ที่ดิฉันแน่ใจว่าเธอมา คนเดียว

ขนลุกซ่าไปทั้งตัว..สามีกับลูกสาวที่รักจะกำลังยืนอยู่ข้างๆ ดิฉันตอนนี้หรือเปล่าหนอ..แม้จะสะท้านใจล้ำลึก แต่ก็อดขนหัวลุกไม่ได้หรอกค่ะ!


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์