วิญญานในบ้าน

ผู้เขียนขอเขียนเรื่องนี้ไว้เพื่อเป็นธรรมทาน เกี่ยวกับข้อพิสูจน์เรื่องจิต

วิญญานและความกตัญญูต่อสิ่งที่มองไม่เห็นที่อยู่ใกล้ตัวเรา ซึ่งคนไทยสมัยนี้คิดว่าเป็นเรื่องเหลวไหล หาได้เชื่อคำสอนของพระพุทธเจ้าไม่ ทั้งๆที่ส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ หากเลอะเลือน หลงลืมไปบ้างก็ด้วยเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นนานมากแล้วกว่า 20 กว่าปี ก็ต้องขออภัยด้วย บุญที่ได้จากข้อเขียนนี้ ขอจงมีแด่ทุกดวงจิตที่บ้านของผู้เขียนเถิด

ครอบครัวของผู้เขียนนั้น ย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านหลังนี้เมื่อปี 2529 ตอนนั้นผมยังเรียนอยู่ชั้นประถม 1 บ้านหลังนี้เป็นทาวเฮ้าส์สองชั้น ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ อยู่ใจกลางถนนลาดพร้าว สมัยนั้น ย่านลาดพร้าวยังไม่เจริญมากนัก สามารถพบเห็นทุ่งร้างว่างเปล่า ได้ไม่ยากนัก ไม่เหมือนสมัยนี้ที่ตึกรามบ้านช่องผุดขึ้นมากมายจนอึดอัด เมื่อแรกเริ่มเข้ามาอยู่ ครอบครัวของผมก็ต้องปรับตัวบ้างเล็กน้อยกับชีวิตในเมือง แต่ยังดีที่มีร้านค้าโชวห่วย ไม่ใกล้จากบ้านนัก เนื่องจากสมัยนั้นยังไม่มี 7-eleven หลังจากย้ายมาไม่นาน เรื่องแปลกๆก็เริ่มเกิดขึ้น

คืนหนึ่ง ในขณะที่แม่ของผู้เขียน นอนอยู่บนชั้นสอง แม่ได้ยินเสียงฝีเท้าหนักๆ เดินขึ้นมาจากชั้นล่าง แม่เหมือนถูกสะกดไม่สามารถที่จะกระดิกตัวได้ คล้ายอาการที่เรียกว่าผีอำ แต่ประสาทรับรู้ต่างกลับชัดเจน เสียงฝีเท้าค่อยๆก้าวขึ้นมาทีละขั้น ตุบ ตุบ แม่เล่าว่า ฟังเสียงแล้วก็รู้ได้เลยว่า เจ้าของเสียงนั้นรูปร่างใหญ่โต ได้ยินเสียงเดินขึ้นมาจนสุดทาง เมื่อมาถึงหน้าประตูห้องนอน

ก็ปรากฏว่าเห็นเป็นเงาทะลุเข้ามาในห้อง ยืนอยู่ที่ปลายเตียงแม่ เงานั้นหันหน้ามามองอยู่ครู่หนึ่งแล้วค่อยๆหายไป ต่อมาแม่เล่าว่า ความรู้สึกตอนนั้น เหมือนสื่อกันได้ทางจิตโดยที่ไม่ต้องมีคำพูด แต่สามารถรับรู้ได้ว่า ผู้ที่มานั้นเป็นใครและต้องการอะไร แม่แน่ใจว่า เงานั้นคือเจ้าที่เจ้าทางของบ้าน มาเพื่อเตือนให้ครอบครัวของผู้เขียนรับรู้ไว้ว่า ที่แห่งนี้มีเจ้าของ แม้จะตายไปแล้วดวงจิตยังคงมีหน้าที่เฝ้าและรักษาสถานที่ ตามกฏแห่งกรรม ผู้ที่มาอยู่ใหม่ก็ควรที่จะบอกกล่าวและนับถือกันด้วย ซึ่งหลังจากนั้นคนที่บ้านก็จะเห็นเงาของผู้ชายร่างใหญ่อีกหลายครั้ง

ครอบครับของผู้เขียน ได้เคยถามคนเก่าแก่ที่อยู่บริเวณนั้น ก็ได้ความว่า สมัยก่อนนั้น ที่ดินแถวบ้านผู้เขียน เคยเป็นที่อยู่ชายชาวมุสลิม
 
ทำอาชีพเลี้ยงไก่มาก่อน ซึ่งก็สอดคล้องกับสิ่งที่ครอบครัวของผู้เขียนได้ประสพมา ทางบ้านจึงตัดสินใจบอกกล่าวและหาคนมาตั้งศาล เมื่อตั้งนั้น ได้ตั้งศาลพระภูมิหนึ่งหลังและศาลเจ้าที่หนึ่งหลัง สำหรับศาลเจ้าที่นั้น มีเรื่องแปลกอีกอย่างคือ วันที่ตั้งศาลนั้น ลุงคนตั้งศาลได้เล่าว่า ท่านเจ้าที่ได้ไปดลใจเขาให้เลือกศาลแบบที่ชอบเลยทีเดียว เป็นศาลหลังเล็กทำด้วยไม้เป็นรูปแบบทรงไทย และยังสั่งให้บรรจุตุ๊กตารูปคนแก่ผู้ชายด้วย



                                                 พลังจิตดอทคอม


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์