สุดเฮี้ยน! ผีศาลาการเปรียญวัดบ้านแก จ.อ่างทอง ขณะที่ 'พระ-ชาวบ้าน' ไม่กล้าเข้าใกล้ ปล่อยร้าง ด้านเจ้าอาวาสวัดยันมีผีจริง หลังเคยเจอกับตัวมาแล้ว
22 ก.พ.55 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังวัดบ้านแก ต.ศรีพราน อ.แสวงหา จ.อ่างทอง หลังจากทราบข่าวจาก นายเสถียร จันทร อายุ 62 อยู่บ้านเลขที่ 30หมู่ที่ 6 ต.เทวราช อ.ไชโย จ.อ่างทอง เจ้าของสถานีวิทยุชมชนเกษไชโยว่าที่ศาลาการเปรียญวัดบ้านแกผีเฮี้ยนจนชาวบ้านไม่เข้าวัดแล้วนอกจากมีงานจึงจะมาที่วัดกันเท่านั้น หลังจากรับแจ้งจึงเดินทางไปยังวัดบ้านแกเพื่อตรวจสอบความจริงก็พบพระครูสุตานุยุต เจ้าอาวาสวัดบ้านแก กำลังทำงานในวัดอยู่จึงเข้าสอบถาม
พระครูสุตานุยุต ได้เล่าความเป็นมาของศาลาการเปรียญที่เฮี้ยนว่าเป็นเรื่องจริงโดยชาวบ้านในละแวกวัดต่างเห็นกันมาแล้วจนปัจจุบันชาวบ้านจะไม่มาที่ศาลาการเปรียญแล้ว นอกจากมีงานจึงจะมากันหลังจากนั้นก็ได้ให้พระลูกวัดและชาวบ้านพาไปดูที่ศาลาการเปรียญก็ พบว่าบนศาลาการเปรียญเมรุเผาศพต่อติดกันที่ด้านหลังและพื้นศาลาการเปรียญสกปรกมีทั้งขี้นกขี้หมาและขยะเต็มไปหมด ส่วนด้านล่างมีจอมปลวกขนาดใหญ่เหมือนโกศใส่กระดูกและยังมีศาลเพียงตาที่ประกอบพิธีกรรมอยู่ด้วยหลังจากนั้นได้สอบถามชาวบ้านในละแวกนั้นเพื่อค้นหาความจริงจากศาลาการเปรียญ
นางรุ่งทิพย์ อินน้อย อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/1 ม. 4ต.หนองแม่ไก่ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง ที่เคยเจอมากับตัวเอง กล่าวว่าวัดบ้านแกอยู่ตำบลศรีพรานก็จริงแต่ติดกับตำบลหนองแม่ไก่ส่วนใหญ่ชาวบ้านหนองแม่ไก่จะจัดงานก็ใช้วัดบ้านแกดำเนินการซึ่งตนได้ประสพเจอมาแล้วในงานศพกำนันเฉลียว บุญสัมฤิทธิ์ สามีเมื่อปี45 ในขณะที่ตนมาวัดแต่เช้าเพื่อจะทำอาหารเช้าถวายพระเมื่อเข้าครัวน้ำปลาหมดจึงโทรศัพท์สั่งลูกให้ซื้อน้ำปลามาให้ หลังจากนั้นพอสักพักก็มีรถจักยานยนต์วิ่งเข้ามาตนอยู่บนศาลาจึงลงมาเพื่อจะมารับน้ำปลาไปประกอบอาหารแต่รถจักยานยนต์ไม่จอดที่บันไดกับวิ่งไปใต้ถุนศาลาแล้วก็หายไปตนวิ่งตามไปกลับไม่เจอ แต่เจอคนที่กำลังเดินมาจึงสอบถามปรากฎว่าไม่มีใครเห็นรถจักยานยนต์คันดังกล่าวเลยหลังจากนั้นตนก็ไม่เคยมาวัดเลย
ด้านพระสัมฤิทธิ์(ก้อย)จิตติสาโร พระลูกวัดบ้านแก เล่าว่าตนเกิดอยู่ที่นี่รู้ความเป็นมาศาลาการเปรียญดี โดยได้สร้างเมื่อปี 2512 เพราะเมื่อก่อนนั้นจะเผาศพที่กองฟางจนมาสร้างเมรุเมื่อปี 2528 ติดกับศาลาการเปรียญ จึงนำศพไปเผาบนศาลาการเปรียญที่ต่อด้านหลังเป็นเมรุทั้งชาวบ้านและพระก็เจอความเฮี้ยนกันทั้งนั้นจนปัจจุบันไม่มีใครมาวัดตามลำพังคนเดียวส่วนใหญ่มากันเป็นกลุ่มหลายๆคนเพราะกลัวกัน
พระครูสุตานุยุต เจ้าอาวาสวัดบ้านแก กล่าวว่า เรื่องศาลาการเปรียญที่มีคนเจอผีกันนั้นอาตมาว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่มีตัวตนขึ้นอยู่กับจิตที่อ่อนไหวมากกว่าแต่มันก็แปลกเพราะศาลาการเปรียญสร้างเมื่อปี2512จนปัจจุบันยังสร้างไม่เสร็จเปลี่ยนผู้รับเหมาแล้วกว่า100 ราย เพราะเมื่อทำแล้วก็ต้องทิ้งหนีไปหมด โดยบางรายได้นอนเล่นอยู่ใต้ถุนศาลาแต่ก็มีคนไปปลุกบอกเจ้าอาวาสเรียกและก็มาหาตน ซึ่งตนก็ไม่ได้ให้ใครไปตามเลยมันก็แปลกจริงๆในส่วนศาลาการเปรียญที่สกปรกนั้นเมื่อมีงานถึงจะทำความสะอาดเพราะถ้าทำความสะอาดจะมีคนตายอยู่เป็นประจำเลยซึ่งก็เป็นเรื่องที่แปลก
ทั้งนี้ พระครูสุตานุยุต กล่าวอีกว่าในส่วนเรื่องศาลาการเปรียญที่เฮี้ยนอาตมาก็ไม่เคยเจอเป็นตัวตนแต่ก็ได้แต่เจอเรื่องแปลกเมื่อหลังจากจัดงานเสร็จแล้วอาตมาก็ได้ยกคัทเอาท์ลงแต่ปรากฎว่าไฟไม่ดับจึงลองยกคัทเอาท์หลายครั้งก็ไม่ดับจึงเดินกลับไปสักพักหนึ่งจึงเดินมายกคัทเอาท์อีกครั้งมันก็ดับปกติ ซึ่งอาตมาจึงรู้ว่ามันน่าจะผีมีจริงๆ
22 ก.พ.55 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังวัดบ้านแก ต.ศรีพราน อ.แสวงหา จ.อ่างทอง หลังจากทราบข่าวจาก นายเสถียร จันทร อายุ 62 อยู่บ้านเลขที่ 30หมู่ที่ 6 ต.เทวราช อ.ไชโย จ.อ่างทอง เจ้าของสถานีวิทยุชมชนเกษไชโยว่าที่ศาลาการเปรียญวัดบ้านแกผีเฮี้ยนจนชาวบ้านไม่เข้าวัดแล้วนอกจากมีงานจึงจะมาที่วัดกันเท่านั้น หลังจากรับแจ้งจึงเดินทางไปยังวัดบ้านแกเพื่อตรวจสอบความจริงก็พบพระครูสุตานุยุต เจ้าอาวาสวัดบ้านแก กำลังทำงานในวัดอยู่จึงเข้าสอบถาม
พระครูสุตานุยุต ได้เล่าความเป็นมาของศาลาการเปรียญที่เฮี้ยนว่าเป็นเรื่องจริงโดยชาวบ้านในละแวกวัดต่างเห็นกันมาแล้วจนปัจจุบันชาวบ้านจะไม่มาที่ศาลาการเปรียญแล้ว นอกจากมีงานจึงจะมากันหลังจากนั้นก็ได้ให้พระลูกวัดและชาวบ้านพาไปดูที่ศาลาการเปรียญก็ พบว่าบนศาลาการเปรียญเมรุเผาศพต่อติดกันที่ด้านหลังและพื้นศาลาการเปรียญสกปรกมีทั้งขี้นกขี้หมาและขยะเต็มไปหมด ส่วนด้านล่างมีจอมปลวกขนาดใหญ่เหมือนโกศใส่กระดูกและยังมีศาลเพียงตาที่ประกอบพิธีกรรมอยู่ด้วยหลังจากนั้นได้สอบถามชาวบ้านในละแวกนั้นเพื่อค้นหาความจริงจากศาลาการเปรียญ
นางรุ่งทิพย์ อินน้อย อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/1 ม. 4ต.หนองแม่ไก่ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง ที่เคยเจอมากับตัวเอง กล่าวว่าวัดบ้านแกอยู่ตำบลศรีพรานก็จริงแต่ติดกับตำบลหนองแม่ไก่ส่วนใหญ่ชาวบ้านหนองแม่ไก่จะจัดงานก็ใช้วัดบ้านแกดำเนินการซึ่งตนได้ประสพเจอมาแล้วในงานศพกำนันเฉลียว บุญสัมฤิทธิ์ สามีเมื่อปี45 ในขณะที่ตนมาวัดแต่เช้าเพื่อจะทำอาหารเช้าถวายพระเมื่อเข้าครัวน้ำปลาหมดจึงโทรศัพท์สั่งลูกให้ซื้อน้ำปลามาให้ หลังจากนั้นพอสักพักก็มีรถจักยานยนต์วิ่งเข้ามาตนอยู่บนศาลาจึงลงมาเพื่อจะมารับน้ำปลาไปประกอบอาหารแต่รถจักยานยนต์ไม่จอดที่บันไดกับวิ่งไปใต้ถุนศาลาแล้วก็หายไปตนวิ่งตามไปกลับไม่เจอ แต่เจอคนที่กำลังเดินมาจึงสอบถามปรากฎว่าไม่มีใครเห็นรถจักยานยนต์คันดังกล่าวเลยหลังจากนั้นตนก็ไม่เคยมาวัดเลย
ด้านพระสัมฤิทธิ์(ก้อย)จิตติสาโร พระลูกวัดบ้านแก เล่าว่าตนเกิดอยู่ที่นี่รู้ความเป็นมาศาลาการเปรียญดี โดยได้สร้างเมื่อปี 2512 เพราะเมื่อก่อนนั้นจะเผาศพที่กองฟางจนมาสร้างเมรุเมื่อปี 2528 ติดกับศาลาการเปรียญ จึงนำศพไปเผาบนศาลาการเปรียญที่ต่อด้านหลังเป็นเมรุทั้งชาวบ้านและพระก็เจอความเฮี้ยนกันทั้งนั้นจนปัจจุบันไม่มีใครมาวัดตามลำพังคนเดียวส่วนใหญ่มากันเป็นกลุ่มหลายๆคนเพราะกลัวกัน
พระครูสุตานุยุต เจ้าอาวาสวัดบ้านแก กล่าวว่า เรื่องศาลาการเปรียญที่มีคนเจอผีกันนั้นอาตมาว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่มีตัวตนขึ้นอยู่กับจิตที่อ่อนไหวมากกว่าแต่มันก็แปลกเพราะศาลาการเปรียญสร้างเมื่อปี2512จนปัจจุบันยังสร้างไม่เสร็จเปลี่ยนผู้รับเหมาแล้วกว่า100 ราย เพราะเมื่อทำแล้วก็ต้องทิ้งหนีไปหมด โดยบางรายได้นอนเล่นอยู่ใต้ถุนศาลาแต่ก็มีคนไปปลุกบอกเจ้าอาวาสเรียกและก็มาหาตน ซึ่งตนก็ไม่ได้ให้ใครไปตามเลยมันก็แปลกจริงๆในส่วนศาลาการเปรียญที่สกปรกนั้นเมื่อมีงานถึงจะทำความสะอาดเพราะถ้าทำความสะอาดจะมีคนตายอยู่เป็นประจำเลยซึ่งก็เป็นเรื่องที่แปลก
ทั้งนี้ พระครูสุตานุยุต กล่าวอีกว่าในส่วนเรื่องศาลาการเปรียญที่เฮี้ยนอาตมาก็ไม่เคยเจอเป็นตัวตนแต่ก็ได้แต่เจอเรื่องแปลกเมื่อหลังจากจัดงานเสร็จแล้วอาตมาก็ได้ยกคัทเอาท์ลงแต่ปรากฎว่าไฟไม่ดับจึงลองยกคัทเอาท์หลายครั้งก็ไม่ดับจึงเดินกลับไปสักพักหนึ่งจึงเดินมายกคัทเอาท์อีกครั้งมันก็ดับปกติ ซึ่งอาตมาจึงรู้ว่ามันน่าจะผีมีจริงๆ
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
