พวกหมากับแมวถือว่าเป็นสัตว์ประจำบ้าน ผมเริ่มเลี้ยงผีเสื้อตั้งแต่ยังเป็นไข่ จับมาจากต้นยี่โถหน้าบ้าน เปลี่ยนเป็นเส้นเล็กๆ เท่าเส้นด้าย เติบโตเป็นตัวหนอน มันกินใบยี่โถจุมากๆ ก่อนเป็นดักแด้ ชักใยออกมาเป็นผีเสื้อ
พอมันกลายเป็นผีเสื้อสวยๆ มักจะเกาะตามบ่าและแขนผมเป็นประจำ ราว 2-3 วันถึงจะโบยบินออกไปหากินตามธรรมชาติ แม่บอกว่ามันรู้ตัวว่าผมเป็นคนดูแลมันตั้งแต่ยังเป็นไข่แน่ะ!
จะจริงหรือเปล่าไม่รู้ซีครับ แต่ตอนไปเที่ยวน้ำตกละอูที่หัวหินกับพ่อแม่น่ะ มีผีเสื้อฝูงใหญ่นับร้อยตัวพันตัวบินว่อนลานตา...มันชอบมาบินเกาะผมเพียบเลย
พ่อแซวว่าชาติก่อนผมคงเคยเป็นผีเสื้อละมั้ง?
แต่ไม่ใช่หรอก เพราะต่อมาผมก็เลี้ยงงู เลี้ยงหนู เลี้ยงด้วงตัวกว่าง ตั้งแต่มันยังเป็นหนอนยึกยืดอยู่แน่ะ ส่วนมากไปซื้อร้านอาหนูที่สวนจตุจักร หรือไม่ก็ตลาดนัดซันเดย์วันเสาร์อาทิตย์ ทั้งซื้อสัตว์และอาหารสัตว์จนกลายเป็นขาประจำ
งูเขียวปากจิ้งจก งูสายม่าน พวกนี้น่ารักครับ ลำบากตรงที่ต้องหาจิ้งจกให้มันกิน ต้องเป็นๆ ด้วยนะ! หนูแฮมสเตอร์ซื้อมาเลี้ยงคู่เดียว เดือนกว่าๆ มันก็ออกลูกมา 3-4 ตัว เผลอหน่อยมันออกมาอีกโขยงแล้ว ต้องแจกเพื่อนฝูงไป...เลี้ยงไม่ไหวน่ะซีครับ
ป้าและน้าผมเห็นหนอนยั้วเยี้ยในลังก็ร้องลั่นแล้ว ไม่ต้องพูดถึงงูหรอกครับ
เมื่อ 3 ปีก่อนผมก็เลี้ยงอีกัวน่ากับเต่าดาวอินเดีย!
อีกิวน่าเห็นบ่อยเลยไม่น่าตื่นเต้นอย่างมังกรโคโม แต่ผมไม่ชอบสัตว์ใหญ่ บ้านที่ถนนระนองก็ไม่ใช่กว้างขวางนัก ผมเลยซื้อเต่าดาวอินเดียมาเลี้ยง Star of India แปลตรงตัวเลย ซื้อมาตัวละ 1,500 บาทแน่ะ อย่านึกว่าตัวใหญ่โตนะครับ ยาวแค่ 4-5 ซ.ม.เอง คนใจเดียวกันน่ะรู้แน่ แต่หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมแพงจัง?
เต่าตัวน้อยๆ นี่มาจากอินเดีย แม้เป็นสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก แต่พวกดาวอินเดียชอบอยู่ในป่าดง ไม่ชอบน้ำ กระดองนูนหนากว่าเต่าทั่วไปราว 2 เท่า มีสีเหลืองโดดเด่นถึงได้ชื่อดาวอินเดีย ตัวไหนกระดองเหลืองมากยิ่งแพงมาก ถ้าตัวโตราว 5-6 นิ้วจะเป็นหมื่นขึ้นไป
น่าแปลกอย่างตรงที่...ถ้ากระดองขาวผ่องราคายิ่งสูงอีกเท่าตัว!
ดาวอินเดียเป็นเต่ารักสงบ ไม่ชอบน้ำ แถมเป็นมังสวิรัติกินแต่พืชผัก เช่น แครอต แตงกวา ผักกาด... เลี้ยงง่ายและน่ารักด้วย ใส่ลังไว้หลังตู้เย็น ดูแล้วเพลินใจจริงๆ
เรื่องน้ำกินไม่ต้องห่วง เพราะมันได้น้ำจากพืชผักที่กินอยู่แล้ว
พ่อบอกว่าเต่าเป็นสัตว์มงคล สมัยก่อนมียันต์เต่าเรือน เอาไว้คุ้มครองบ้านจากอัคคีภัยและภัยโจร!
เคยเห็นในทีวีว่าเต่าทะเลคลานขึ้นมาวางไข่ น้ำตาไหลพรากน่าสงสาร...มันทั้งเหน็ดเหนื่อยและเจ็บปวดเหมือนคนคลอดลูกนั่นแหละ! เขาว่ามันหลั่งสารเกลือจากนัยน์ตา เพราะกระดองทั้งแข็งและหนาเป็นอุปสรรค บ้างก็ว่ามีน้ำเค็มติดมาจนต้องหลั่งน้ำตาไล่น้ำเค็มที่จะกลายเป็นเกลือปิดนัยน์ตา
"ดาวอินเดีย" ตัวน้อยๆ แสนน่ารักของผม ซื้อมาเลี้ยงให้ชื่นอกชื่นใจได้แค่ 5-6 เดือน ก็มีเด็กซนข้างบ้านดอดมาเล่นตอนผมเผลอ เอาน้ำให้มันกินมั่ง จับหยอดน้ำใส่ปากมั่งด้วยความหวังดี เจ้าเต่าแสนสวยของผมเซื่องซึมอยู่ไม่กี่วันก็ตาย
ไม่ใช่นักสะสมเปลือกหอยหรือกระดองเต่า รวมทั้งซากสัตว์ทั้งหลาย...ผมเลยเอาเจ้าดาวอินเดียที่ไม่มีลมหายใจไปวางไว้โคนต้นโมกออกดอกขาวสะพรั่ง
นัยน์ตาแสบร้อนตอนที่บอกว่า...เฝ้าบ้านอยู่ที่นี่นะเจ้าเต่าน้อย!
เพื่อนนักเรียนเอาปลากัดสวยๆ มาให้หลายตัว บอกว่าตอบแทนที่ผมแบ่งลูกหนูแฮมสเตอร์ไปให้เดือนก่อน ผมก็เอาใส่ขวดเรียงรายไว้ที่ระเบียงใกล้ๆ ต้นโมกนั่นเอง
เรื่องน่าขนหัวลุกเกิดขึ้นเมื่อมีเพื่อนมาซ้อมกีตาร์ มาเล่นวิดีโอเกมที่บ้านแล้วถามว่า...ไหนลื้อบอกเต่าตาย? เมื่อกี้ยังเห็นมันคลานต้วมเตี้ยมอยู่ที่ต้นโมกเลย
ผมหัวเราะไม่สนใจ แต่อาทิตย์ต่อมาป้าฉวี-ครูเก่าในซอยแวะมาฝากมังคุดให้แม่ แกเรียกลูกมังคุดเพราะลูกเล็กๆ แต่หอมหวานแทบไม่มีเม็ด แกบอกว่าเมื่อเดินเข้ามาก็เห็นเต่าตัวใหญ่หลังนูนยาวเท่าแขน...ถามว่า
"วศินเลี้ยงไว้หรือลูก? โอย...ป้าเห็นแล้วกลัวแทบตาย"
ผมออกไปดูก็ไม่เห็นอะไร นอกจากซากเจ้าดาวอินเดียอยู่ที่เดิม!
แม่ถึงกับขนลุกซ่า หันมามองผม...สัตว์ที่ตายแล้ว จะเป็นผีเหมือนคนหรือเปล่าก็ไม่รู้? แต่ถ้ามีขโมยเข้าบ้านอาจจะเผ่นหนีเพราะเห็นเต่ายักษ์ยืนจังก้า ยืดหัวขึ้นอ้าปากคมกริบ น่ากลัวก็เป็นได้...ผมก็ได้แต่นึกหวังไป....