โรงแรมสยอง

"จารวี" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากโรงแรมผีสิงในฮ่องกง

เมื่อสามปีก่อน ดิฉันกับเพื่อนร่วมบริษัท อีก 5 คน ได้รับรางวัลพนักงานดีเด่น ได้ไปทัวร์ฮ่องกง 3 คืน 4 วัน รวมกับแผนกอื่นๆ อีก 35 คน พวกเราตื่นเต้นกันมากเพราะไม่เคยไปเมืองนอกเลย...พอเอาจริงเข้าดิฉันเกิดเมาเครื่องบินค่ะ!

ถ้าทราบแต่แรกคงเตรียมยามากินแล้ว มันทั้งพะอืดพะอมและเวียนหัวไปหมด หน้าเขียวหน้าเหลืองเลยล่ะ! กว่าจะออกจากสนามบินไปโรงแรมได้ก็แทบต้องหามกันแน่ะ...

สรุปว่า คืนนั้นดิฉันต้องนอนแซ่วอยู่ในห้องพักเพียงลำพัง!

แต้วกับอรซึ่งเป็นเพื่อนร่วมห้อง แสดงน้ำใจเป็นห่วงเป็นใยจะอยู่เฝ้าเป็นเพื่อน แต่ดิฉันเกรงใจเลยบอกว่าไม่เป็นไรหรอก นอนพักให้เต็มที่ อาบน้ำอาบท่า ดื่มน้ำเย็นๆ รุ่งขึ้นก็คงไปลุยกับกรุ๊ปทัวร์ได้ตามปกติ

เป็นอันว่าทุกคนให้ดิฉันนอนพักตามสบาย นอนให้อิ่ม...เพื่อนๆ ออกจากห้องไปแล้ว เพิ่งทุ่มกว่าๆ พวกเขาจะไปกินข้าวแล้วท่องราตรี กว่าจะกลับคงดึก

แอร์เย็นฉ่ำ ไฟสีส้มสลัวๆ หน้าต่างกระจกบานใหญ่ มองออกไปเห็นแสงไฟระยิบระยับ สวยเหมือนเมืองสวรรค์ ดิฉันดับไฟซะ จะได้เห็นทิวทัศน์ข้างนอกได้ชัดเจนขึ้น ที่จริงก็ไม่เลวหรอก เลยไม่คิดเสียดายที่คืนนี้ไม่ได้เที่ยว อาการพะอืดพะอมค่อยยังชั่วขึ้นเยอะ แต่ยังไม่อยากกินอะไรนอกจากน้ำเปล่า

ดิฉันเดินไปที่ตู้เย็น หยิบน้ำมารินดื่มโดยไม่ได้เปิดไฟ เพราะแสงจากห้องน้ำก็สว่างมากพอจะเห็นทุกสิ่งทุกอย่างได้สบาย จากนั้นก็ยืนชมวิวอีกพักหนึ่ง คิดถึงพ่อแม่กับน้องๆ ทางบ้านจัง...ป่านนี้ทำอะไรอยู่นะ?

จากเงาสะท้อนในกระจก ดิฉันเห็นคนเดินผ่านด้านหลังไปแว่บหนึ่ง!

ปกติไม่ใช่คนกลัวผีนะคะ เพราะไม่เชื่อเรื่องผีเลย ฉะนั้น สิ่งที่เห็นเพียงแต่ทำให้สงสัยว่าตัวเองตาลายเพราะอาการวิงเวียนและอ่อนเพลียเป็นต้นเหตุ

พอนึกได้อย่างนั้นก็นอนดีกว่า เดี๋ยวอาการจะกำเริบอีก

ดิฉันนอนห่มผ้าแล้วหลับตา มันกลับรู้สึกตื่นตัวเต็มที่ ไม่ง่วงสักนิด แต่...เอ๊ะ! ทำไมแอร์มันหนาวฮวบลงได้ขนาดนี้? หนาวมากค่ะ จับกระดูกเลยล่ะ! ดิฉัน รีบลุกไปดูปุ่มปรับแอร์ที่ฝาผนัง ตำแหน่งที่ตั้งไว้ก็ไม่น่าเย็นยะเยือกถึง ปานนี้เลย

ไม่เป็นไรหรอก ดิฉันชอบอากาศหนาวๆ อยู่แล้ว...กลับมานอนต่อ แต่พอหลับตาก็รู้สึกสว่างโพลงอยู่ข้างใน...จะลุกขึ้นไปเปิดทีวีดีไหมนะ?

ทันใดนั้น เสียงโทรทัศน์ปลายเตียงก็ดังแชะ... ทีวีเปิดเองเสียงดังลั่น!

เอาล่ะซี...ไม่กลัวผีหรอกค่ะแต่มันหลอนน่าดู ดิฉันตัวแข็งอยู่ใต้ผ้าห่ม รายการทีวีที่ปรากฏบนจอเป็นการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวฮ่องกง นี่คงเป็นบริการพิเศษกระมัง? ไม่น่าเป็นไปได้ แต่อยากคิดในแง่ดีไว้ก่อน ใครบางคนอาจตั้งเวลาเปิด-ปิดอัตโนมัติไว้ก็ได้

ไม่ว่าจะเป็นเพราะเหตุใด ดิฉันต้องลุกไปปิดทีวี อากาศหนาวสะท้าน ต้องหมุนปรับอุณหภูมิขึ้น แล้วกลับมาล้มตัวลงนอนเสียที

ทันทีที่หลับตาก็ได้ยินเสียงหัวเราะ คิกๆ อยู่ข้างหู เหมือนใครคนนั้นนอนหมอนเดียวกับดิฉันนี่เอง!

ได้ผลค่ะ ดิฉันเด้งดึ๋งลุกขึ้นนั่ง มองซ้าย มองขวา ขนลุกซ่า แล้วเอื้อมมือไปเปิดไฟ แหม...ไอ้ไฟกลางห้องนี่มันไม่เต็มใจสว่าง เอาซะเลย

จากคนไม่เคยกลัวผี ดิฉันเริ่มระแวง ห้องนี้มีอะไรหรือเปล่า? อย่ากระนั้นเลย เปิดทีวีเอาเสียงเป็นเพื่อนดีกว่า ดูนาฬิกาก็ยังไม่ดึก... เพื่อนๆ กินข้าวเสร็จรึยังก็ไม่รู้ เมื่อไหร่จะกลับกันซะทีนะ?

เปิดไฟ เปิดทีวี แล้วนั่งพิงหมอนที่หัวเตียง ใจเต้นแรงชอบกล ดึงผ้าห่มคลุมขา อากาศในห้องนอนดูอึดอัดบอกไม่ถูก ความหนาวยังกัดกินกระดูก

และแล้ว...ก็มีผู้หญิงคนหนึ่ง อายุราว 17-18 ปี ผมเปียกยาวประบ่า แต่งชุดนอนเป็นกางเกงกับเสื้อผ้าแพรสีชมพูอ่อนๆ เดินออกมาจากห้องน้ำหน้าตาเฉยเลย! ใบหน้าเธอก้มนิดๆ แต่นัยน์ตาชำเลืองดิฉัน...เธอเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่? เข้ามาได้ยังไง?

เด็กสาวเดินจากห้องน้ำผ่านทีวี ผ่านปลายเตียง อ้อมมาข้างเตียงที่ดิฉันนั่ง ตัวแข็งอยู่แล้วก็ก‰มลงเกือบชิดตัว ทำ ตาโต ยื่นหน้าเข้ามาจ้องหน้าดิฉัน ห่างกันแค่คืบเท่านั้นเองค่ะ!

ตาคู่นั้นเหมือนตาของปลาตายไม่มีผิด! ดิฉันร้องกรี๊ดแล้วเผ่นกระเจิงออกจากห้อง วิ่งลงลิฟต์ไปทั้งชุดนอน ร้องไห้ด้วย ผู้คนที่ล็อบบี้ตกใจกันใหญ่ พนักงานที่เคาน์เตอร์เข้ามาปลอบ ดิฉันไม่ยอมขึ้นไปบนห้อง...รอจนเพื่อนๆ กลับมา

จากนั้นก็วุ่นวาย นอนไม่ได้ต้องเปลี่ยนห้อง แต่ดิฉันยังผวา...สามคืนที่นั่นทรมานสิ้นดี เชื่อแล้วค่ะว่าผีมีจริง มันทำให้ฉันหวาดระแวง ประสาทเสียมาจนทุกวันนี้ค่ะ!




โรงแรมสยอง

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์