ใครเฝ้ารั้ว

"หลานเนย" เล่าเรื่องขนหัวลุกจากวิภาวดีฯ ซอย 5

หนูอยู่ที่ถนนวิภาวดี 5 แยกที่ 5 ใกล้ๆ กับจินดา อพาร์ตเมนต์ คุณย่าบอกว่าสมัยก่อนชื่อซอยยาสูบ 1 สร้างมาสี่สิบกว่าปีแล้วค่ะ ตอนนั้นถนนใหญ่ยังชื่อซูเปอร์ไฮเวย์

"เนย" คือชื่อของหนู แต่พ่อแม่กับคนอื่นๆ ในซอยนั้นชอบเรียก "น้องเนย" ฟังดูน่ารักและเป็นกันเองมากค่ะ แต่เวลาแม่โมโหที่หนูขี้เกียจทำการบ้าน จะเรียกชื่อหนูที่ออกไปวิ่งหน้าบ้านกับเพื่อนๆ ว่า "ไอ้เนย" แถมต่อท้ายว่า "มาทำการบ้านเร็ว!"

เพื่อนคนอื่นๆ ไม่ว่าแป้ง ป่าน และโอ๋ ก็ถูกเรียกแบบนี้ทุกคน เล่นเอาจ๋อยไปเลยค่ะ...ขอ ผัดว่าเดี๋ยวก่อนก็ไม่ได้ผล เพราะแม่คว้าไม้เรียวออกมาแล้ว

จำใจต้องไปนั่งทำการบ้านที่โต๊ะข้างบ่อปลาริมรั้ว มีชมนาดกับมะยมดกมากค่ะ เป็นโรงโล่งๆ มุงหลังคากระเบื้อง ยาวมาถึงตัวบ้าน โต๊ะทำงานของคุณย่าซึ่ง ปลดเกษียณแล้วก็อยู่ที่นั่นค่ะ ยกเว้นแต่ฝนตกหรืออากาศร้อน ท่านถึงจะย้ายเข้าไปในห้องชั้นล่าง เปิดแอร์เย็นฉ่ำ

สนามหน้าบ้านเต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ มะม่วง มะเฟือง มะรุม ที่ออกฝักให้เก็บมาแกงส้มใส่กุ้งได้หลายครั้งแล้ว นอกนั้นก็เป็นไม้กระถางของพ่อ เรียกว่านอะไรมั่งหนูจำไม่ได้ แต่ที่ดกมากที่สุดก็คือกล้วยค่ะ

มีทั้งกล้วยน้ำว้า กล้วยเล็บมือนาง และกล้วยไข่ แข่งกันออกดอก เอ๊ย! ออกปลีและผลสวยๆ เครือใหญ่ กินกันไม่ไหว ต้องแจกเพื่อนบ้านไป คุณย่ารู้จักวิธีถนอมอาหารด้วยการเอาใส่ถุงพลาสติกใส่ตู้เย็นไว้ กินได้หลายวันและรสชาติอร่อยขึ้นอีกด้วย

ที่ริมรั้วด้านบนเป็นเหล็กสานโปร่งๆ มีไม้ดอกไม้ใบเยอะแยะเลยค่ะ!

บวบ ถั่วพู ต้นหม่อน กระเจี๊ยบ มะระขี้นกแคระ ลูกขนาดปลายนิ้วชี้ คุณย่าบอกว่าเอามาเผาจิ้มน้ำพริกช่วยแก้โรคเบาหวานดีนัก นอกจากนั้น ยังมีตำลึงและเอาอัญชันเลื้อยเต็มไปหมด ตรงมุมรั้วด้านบนมีกล้วยหอมที่ออกเครือใหญ่มากจนพี่รมย์ ผู้ช่วยแม่บ้านต้องหาไม้มาค้ำยันกันโค่นล้ม

ริมรั้วด้านนอกที่ติดกับถนนก็ทำเป็นรางดินปลูกดอกไม้ อย่าง มะลิ กุหลาบมอญ และมหาหงส์ดอกสีขาว หอมชื่นใจ รูปทรงคล้ายๆ หงส์ด้วยค่ะ

คุณย่าเคยให้พี่รมย์เก็บใบมะรุมมาหั่นฝอยแล้วตากแห้ง เก็บใส่ขวดไว้ชงน้ำดื่ม มีสรรพคุณแก้โรคได้มากมายเหลือเชื่อ หนูยังพูดขำๆ ว่าน่าจะใช้แก้โรคมะเร็งได้ด้วยนะคะ!

ตอนหลังคุณย่าใช้ใบหม่อนตากแห้งชงดื่มแทน น้ำชา ให้ความรู้ว่าเขาเลี้ยงไว้เป็นอาหารตัวไหมที่ นำใยมาทอผ้าสวยๆ แพงๆ ไงคะ กับแนะนำให้หนูกินลูกหม่อนเล็กๆ สีแดงน่ารัก รสหวานอมเปรี้ยวชุ่มคอ ดีค่ะ

ฟ้าทลายโจร หางจระเข้ พริก กะเพรา แมงลัก โหระพา ขิง ข่า ตะไคร้ บ้านเรามีทั้งนั้น คุณย่าบอกว่าเป็นพืชสมุนไพร หรือพูดง่ายๆ ก็คือกินอาหารให้เป็นยานั่นเอง

จนกระทั่งถึงวันขนหัวลุก!

ป่าน แป้ง และโอ๋ เพื่อนหนูมากันครบเซ็ต กลับจากโรงเรียน หาอะไรกินแล้วไปเล่นกันก่อน ถ้าขืนทำการบ้านก็มีหวังใกล้ค่ำพอดี อดเล่นแน่ๆ ตอนแรกก็ช่วยกันหามะระขี้นกลูกนิดๆ ใครเห็นก่อนชนะ หนูเป็นเจ้าของบ้านนี่คะเลยรู้ดีกว่าใครๆ ว่ามันชอบซ่อนอยู่หลังใบ คนอื่นๆ หาแทบตายก็ไม่เจอ

เกมต่อไปคือข้ามไปนับดอกลั่นทมแบบช่อใหญ่สีขาวราว 3-4 ช่อ ที่หน้าสำนักงานร้าง บ้าน หนูไม่ปลูกลั่นทมหรอกค่ะ คุณย่าคงจะไม่ชอบชื่อที่ฟังคล้ายๆ ระทมก็ได้แม้จะเปลี่ยนเป็นลีลา วดีแล้วก็เถอะ

ไม่รู้จะเล่นอะไรกันแล้ว เวลาก็จวนจะต้องไปทำการบ้านเสียที หนูเลยท้าให้เพื่อนไปแข่งกันเก็บลูกหม่อนที่ดกเป็นกระจุกอยู่ตรงปลาย

กิ่งหม่อนยาวเร็วค่ะ แถมเนื้อเหนียวมาก หักเท่าไหร่ก็ไม่ขาด ต้องให้พี่รมย์ช่วยเอามีดมาตัด แต่ตอนนั้นมันก็ยาวมากพอที่เราจะเล่นกันตามประสาเด็ก ได้แล้ว

หนูเข้าบ้านเพื่อดันโคนหม่อนสองกิ่งใหญ่ให้โน้มไปนอกรั้วจนเพื่อนๆ กระโดดคว้าถึง เสียงหัวเราะกับเสียงวี้ดว้ายตอนกระโดดของแม่พวกสาวน้อย ทำให้คนที่ผ่านไปมาอดหัวเราะไม่ได้

ฉันได้แล้ว! ฉันก็ได้แล้ว! ดังเซ็งแซ่เข้ามา สลับกับเสียงกระโดดตุ๊บตั๊บ ก่อนจะกลายเป็นเสียงกรีดร้องดังกรี๊ดๆ ประสานกันดังลั่นจนหนูตกใจ ต้องวิ่งออกไปดูแต่ก็ไม่ทันพวกเพื่อนๆ ที่เผ่นอ้าวไปทางสี่แยกตลาดนัด ผู้คนหันมองพลางส่ายหน้า คงจะระอาไปตามๆ กัน

หนูเดินไปจนถึงบ้านป่าน เห็นเธอกำลังร้องไห้สะอึกสะอื้น เอ๊ะ! เมื่อกี้ยังหัวเราะคิกคักอยู่ดีๆ นี่นา...ก่อนจะได้รับคำตอบที่ทำให้หนูเย็นวาบไปทั้งตัว

ต้นหม่อนที่หนูช่วยโน้มยอดลงไปให้น่ะซีคะ ลูกแดงๆ ของมันกลายเป็นนัยน์ตาแดงจ้าอยู่ในใบหน้าปีศาจน่ากลัวที่สุด ไม่มีใครตาฝาดเพราะเห็นตรงกันทุกคน...ขนหัวลุกค่ะ!



ใครเฝ้ารั้ว

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์