เปิดตำนาน ถ้ำนาคา วิจิตรหินพญานาค เมืองลับแล แห่งบึงโขงหลง

ภายในถ้ำมีหินรูปร่างคล้ายลำตัวของพญานาค ด้วยลวดลายที่คล้ายเกล็ดและดูเหมือนพญานาคขดตัว อีกทั้งยังมีหินรูปร่างคล้ายส่วนหัวพญานาคที่ถูกค้นพบอยู่บริเวณไม่ไกลจากถ้ำนาคาเท่าไรนัก รวมไปถึง ป่าบังบด ที่ดูลึกลับใกล้ๆ บริเวณนั้นอีกด้วย

หินส่วนลำตัว
สำหรับลักษณะของหินส่วนหัวพญานาคนั้น จะเรียวมนคล้ายหัวงูขนาดใหญ่นอนพาดกับพื้น มีลวดลายเกล็ดคล้ายกับส่วนลำตัว เมื่อลองนึกภาพหากนำส่วนหัวและส่วนลำตัวมาต่อกันแล้วจะคล้ายกับพญานาคที่กำลังเลื้อยออกจากถ้ำ ซึ่งหลายคนที่พบเห็นหินเหล่านี้ต่างก็จินตนาการกันว่าดูคล้ายงูยักษ์ที่กลายเป็นหิน

หินส่วนหัว
นอกจากนี้ ถ้ำนาคายังมีความเชื่อโบราณที่ผูกโยงกับสถานที่แห่งนี้ โดยมีตำนานเล่าขานต่อกันมาว่า หินงูเหล่านี้ อาจเป็นงูยักษ์ที่ตายเมื่อหลายร้อยล้านปีก่อนแล้วกลายเป็นหิน จากการที่งูที่ตายแล้วไม่ย่อยสลาย โดนทับถมด้วยดินหินนับล้านปี เมื่อแร่ธาตุเกาะในตัวงูจึงกลายเป็นหิน

บ้างก็ว่าสถานที่แห่งนี้มี ปู่อือลือ ราชาที่ถูกสาปให้เป็นพญานาค อาศัยอยู่ ทำให้เมืองล่มสลายกลายเป็นบึงโขงหลง ปู่อือลือจะพ้นคำสาปก็ต่อเมื่อที่แห่งนี้เกิดเป็นเมืองใหม่ขึ้น ซึ่งในอดีตพื้นที่นี้ขึ้นตรงกับจังหวัดหนองคาย แต่ปัจจุบันอยู่ในเขตพื้นที่ของบึงกาฬ จังหวัดที่เกิดขึ้นใหม่

อีกตำนานหนึ่งเล่าว่า ปู่อือลือถูกสาปให้เป็นพญานาคมาปกครองเมืองบาดาลที่ว่ากันว่าคือบึงโขงหลงในปัจจุบัน ซึ่งมีพญานาคและมนุษย์อยู่รวมกัน นานวันเข้าก็เกิดการร่วมรักกันระหว่างพญานาคกับมนุษย์ ปู่อือลือเห็นว่าผิดจารีตจึงลงโทษ สาปให้เป็นหินอยู่ในถ้ำนาคา

ป่าบังบด
อีกทั้ง ป่าบังบด ยังเป็นสถานที่ที่ชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็นประตูมิติสู่โลกคู่ขนาน และเชื่อว่าถ้ำนาคาและป่าแห่งนี้คือเมืองลับแล ที่เล่ากันว่าเคยมีคนหายตัวไปในนั้น แล้วกลับออกมา บ้างก็เล่าว่าเป็นเมืองลับแลที่มีแต่ผู้หญิงอาศัยอยู่