ตำนานเร้นลับแห่ง "ถ้ำจอมพล"


ตำนานเร้นลับแห่ง \"ถ้ำจอมพล\"

อีกหนึ่งตำนานความเชื่อที่เกี่ยวโยงกับความเร้นลับของสถานที่หนึ่ง



ในอำเภอจอมบึง จ.ราชบุรี ที่นั่นมีเรื่องราว

เล่าขานเกี่ยวกับอาถรรพณ์ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในถ้ำแห่งหนึ่ง ถ้ำแห่งนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์

เพราะในอดีตได้มีพระมหากษัตริย์ไทยถึง 3 พระองค์

รวมทั้งเชื้อพระวงศ์เคยเสด็จประพาส

ถ้ำจอมพล มีตำนานความเร้นลับและอาถรรพณ์เกิดขึ้นมากมาย ที่มาของชื่อถ้ำจอมพลได้รับการพระราชทานนามจาก



พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5


เมื่อคราวที่พระองค์ท่านได้เสด็จฯพร้อมด้วยสมเด็จพระศรีพัชรินทรา บรมราชินีนาถ มาเยือนที่ถ้ำแห่งนี้ เมื่อปีพุทธศักราช 2438

ทรงทอดพระเนตรความงดงามตามธรรมชาติภายในถ้ำ ซึ่งมีหินงอกหินย้อยที่วิจิตรพิสดาร จึงทรงจินตนาการไปว่าสวยงามราวกับริ้วไหมอินทรธนู

บนบ่าของท่านจอมพลสมัยก่อน

พระองค์ยังทรงสลักพระปรมาภิไธย จปร.114 ไว้ตรงปากทางเข้าถ้ำก่อนเสด็จกลับ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่า ครั้งหนึ่งพระองค์เคยเสด็จฯมาเยือน

นอกจากรัชกาลที่ 5 แล้ว มาถึงสมัยรัชกาลที่ 6 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ก็เคยเสด็จประพาสที่ถ้ำจอมพลถึง 2 ครั้งเช่นกัน



โดยครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2457


พระองค์ได้นำพลเสือป่ามาซ้อมรบ ณ บริเวณนี้ และครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ.2457

ในคราวเสด็จฯวางศิลาฤกษ์โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ได้ทรงหยุดประทับเพื่อเสวยพระกระยาหารกลางวันที่สวนรุกขชาติหน้าถ้ำจอมพล

ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9

ก็เคยเสด็จฯพร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ และสมเด็จพระราชชนนีศรีสังวาลย์ มาประพาสที่ถ้ำจอมพลพร้อมทั้งได้ทรงปลูกต้นสัก กัลปพฤกษ์

และต้นนนทรีไว้เป็นที่ระลึก พระองค์ยังทรงสลักสัญลักษณ์พระปรมาภิไธย ภปร.99 ไว้บนหินผาบริเวณปากทางเข้าถ้ำ เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2499



ถ้ำจอมพลนี้ ข้างในถ้ำยังมีพระนอนอันศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนนิยมมาสักการะ


ถ้ำนี้มีขนาดกว้าง 30 เมตร ยาว 240 เมตร สูง 25 เมตร มีบันไดทางขึ้นสู่ถ้ำ 57 ขั้น ภายในมีหินงอกหินย้อยสวยงาม

และมีชื่อเรียกอย่างไพเราะ เช่น ผาวิจิตร แส้จามรี ธาตุเนรมิต บรมอาสน์ มัสยาสถิตย์ เกศาสยาม สร้อยระย้า และประสิทธิ์เทวา

ซึ่งนอกจากความสวยงามของถ้ำแล้ว

ภายในถ้ำจอมพลยังมีเรื่องเล่าถึงอาถรรพณ์มากมาย โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับ หินฤาษี และ รูปปั้นฤาษี

หินฤาษี นี้เป็นก้อนหินที่มีรูปร่างประหลาด คล้ายฤาษีกำลังนั่ง แล้วยิ่งมีผู้เอาผ้าลายหนังเสือไปห่มคลุม ก็เลยยิ่งดูขลังไปกันใหญ่



ชาวบ้านแถบนี้เรียกหินฤาษีว่า พ่อปู่ฤาษี


ทุกคนเชื่อว่าท่านมีความศักดิ์สิทธิ์ บันดาล โชคลาภ และความสุขความเจริญมาให้ เล่ากันว่าพวกนายหน้าค้าที่ดินชอบมาบนบานและมักประสบความสำเร็จ

โดยเฉพาะเรื่องเลขหวยนั้น เขาบอกว่าท่านมักให้อย่างแม่นยำโดยเฉพาะคนต่างถิ่น ทุกๆงวดจะเห็นมีคนเอาของมาแก้บน เป็นผลไม้ หมากพลู และผ้าลายหนังเสือ

นอกจากนี้ใกล้ๆหินพ่อปู่ฤาษีก็ยังมีหินที่มีรูปร่างลักษณะคล้ายคน 2 คน

กำลังยืนกอดกัน ซึ่งชาวบ้านเล่าให้ฟังว่า ก้อนหินทั้งสองนี้เป็นแม่ลูกกัน แล้วยังมีหินอีกก้อนที่มีลักษณะเหมือนคน ซึ่งเขาบอกว่าเป็นพ่อ

และมีตำนานเล่าว่า พ่อ แม่ ลูก ครอบครัวนี้ถูกพ่อปู่ฤาษีสาปให้กลายเป็นหิน จึงได้กลายเป็นอาถรรพณ์ชวนขนหัวลุกว่า



ในวันดีคืนดีในยามค่ำคืน ชาวบ้านแถบถ้ำจอมพล



จะได้ยินเสียงคนคุยกัน บางครั้งก็จะมีเสียงเด็กร้องลั่นถ้ำ และบางคืนก็จะได้ยินเสียงกรีดร้อง

โหยหวน ดังออกมาจากถ้ำ จึงสันนิษฐานกันว่าน่าจะมาจากหินทั้ง 3 ก้อนนี้

เรื่องราวอาถรรพณ์ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายใน

ถ้ำจอมพลยังไม่หมดเพียงแค่นี้ เพราะยังมีเรื่องเล่าของใครอีกหลายๆคน เล่ากันว่านอกจากในถ้ำจะมีหินฤาษีที่มีความอัศจรรย์อยู่แล้ว

ก็ยังมีรูปปั้นของฤาษีอีกฅนหนึ่ง ที่มีความมหัศจรรย์ไม่แพ้กัน เรื่องนี้ได้รับการยืนยันจากพระภิกษุรูปหนึ่งที่เฝ้าถ้ำว่าเป็นความจริง



รูปปั้นฤาษีตนนี้อยู่ด้านในสุดของตัวถ้ำ ชาวบ้านเรียกว่า ฤาษีพ่อแก่


ที่น่าประหลาดคือที่หน้ารูปปั้นของฤาษีพ่อแก่จะมีป้ายเขียนไว้ว่าห้ามถ่ายรูป ซึ่งเมื่อสอบถามจากหลวงพ่อในถ้ำก็ได้ความว่า

ฤาษีตนนี้ไม่ชอบให้ใครมาถ่ายรูปท่าน หลายคนไม่เชื่อคำเตือน ชอบลองของท้าทายท่าน ถ่ายรูปท่านไปไม่นานก็ต้องรีบเอารูปที่ถ่ายไปมาคืน

มีเรื่องเล่าว่ามีชายคนหนึ่งอยู่จังหวัดสุพรรณบุรี

พาครอบครัวมาเที่ยวถ้ำจอมพล แล้วถ่ายรูปฤาษีพ่อแก่ไป 3 ใบ พอถึงบ้านตกกลางคืนขณะกำลังหลับเขาก็ฝันเห็นฤาษีตนหนึ่ง

ที่แต่งตัวเหมือนฤาษีในถ้ำจอมพล เหาะลงมาจากฟ้าตรงมาที่ตัวเขาแล้วใช้เท้าเหยียบที่หน้าอกพร้อมชี้หน้าว่า เอ็งนี่ดื้อรั้นนัก



ข้าบอกแล้วว่าห้ามถ่ายรูปข้าอย่างเด็ดขาด ในเมื่อเอ็งไม่เชื่อข้าก็ต้องสั่งสอน


เอ็งต้องเอารูปไปคืนที่ถ้ำ ถ้าไม่เชื่อเอ็งจะได้เห็นดี เมื่อฤาษีตนนั้นจากไป เขาก็สะดุ้งตื่นขึ้นมา แล้วยังรู้สึกเจ็บหน้าอกเหมือนถูกเหยียบจริงๆ ดังนั้น

พอรุ่งเช้าเขาจึงรีบเดินทางมายังถ้ำ เพื่อเอารูปถ่ายมาคืนทันที เพราะเกรงว่าถ้ายังขืนไม่เชื่ออีก ก็ไม่รู้ว่าจะโดนอาถรรพณ์อะไรอีกบ้าง

ผู้เขียนเองก็ไม่กล้าลบหลู่ ลองดีกับ ฤาษีพ่อแก่ เช่นกัน

เพราะฉะนั้นก็เลยไม่มีรูปของท่านมาให้ดู แต่อยากจะให้คนอ่านที่ชื่นชอบเรื่องราวเร้นลับเหล่านี้ลองมาเยี่ยมเยือนที่ถ้ำจอมพล อ.จอมบึง นี้ดู

ระยะทางจากตัวเมืองราชบุรีไปยังถ้ำจอมพลประมาณ 30 กิโลเมตรเท่านั้น แล้วที่นั่นใกล้ๆกันยังมีสวนรุกขชาติและมีพันธุ์ไม้แปลกๆสวยงามหายากอีกมากมาย ซึ่งดูแล้วสบายตาสบายใจ




แหล่งที่มา:


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์