ผีถ้วยแก้ว


ผีถ้วยแก้ว

เรื่องผีถ้วยแก้วนั้น ครั้งข้าพเจ้าก็ไม่ได้เกิดความสนใจอะไรเพราะไม่เคยทราบมาก่อน

แต่คืนวันหนึ่งโดยในขณะนั้นข้าพเจ้ามีอายุ 18-19 ปี ยังอาศัยอยู่กับเจ้าคณะรักษ์สงฆ์รูปหนึ่ง ที่วัดเบญจมบพิตร และกำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยมที่ 8 โรงเรียนวัดเทพศิรินทร์ และมีเพื่อนฝูงหลายคนที่อาศัยวัดเดียวกันแต่เรียนอยู่คนละโรงเรียน ปกติทุกคืนเพื่อนของข้าพเจ้าคนหนึ่งซึ่งเรียนชั้นมัธยมปีที่ 8 อยู่ที่โรงเรียนวัดเบญจมบพิตรนั่นเอง ก็จะมาคุยกับข้าพเจ้าเสมอโดยยืนเกาะลูกกรงหน้าต่างอยู่ข้างนอก เรื่องที่คุยกันมักเป็นเรื่องวิชาความรู้ที่เรียนในขณะนั้น แต่มักจะคุยกันค่ำๆ

ในคืนหนึ่งเพื่อนข้าพเจ้าคนนี้ก็โผล่มาคุยกับข้าพเจ้าราวๆ สามทุ่ม

ในลักษณะยืนเกาะลูกกรงเช่นเดิม ข้าพเจ้าเห็นเขามาผิดเวลาก็ถามว่าไปไหนมา เขาตอบว่ามัวแต่ไปเล่นผีถ้วยแก้วมา ข้าพเจ้าได้ฟังก็ผลันเกิดความสงสัยจึงได้ซักถามต่อไปว่า เล่นผีถ้วยแก้วอย่างไร เขาเล่าให้ฟังว่าเอาถ้วยมาวางกลางโต๊ะ แล้วตัดกระดาษแข็งเขียนตัวอักษรวางบนโต๊ะนั้น แล้วเชิญวิญญาณของผู้ตายให้มาเข้า แล้วผู้เล่นหลายๆคนก็เอานิ้วกดลงไปเบาๆ ที่ก้นถ้วยแก้วซึ่งคว่ำอยู่ ถ้าวิญญาณมาเข้าแล้ว ถ้วยแก้วก็จะวิ่งวนไปที่กระดาษตัวอักษรผสมอ่านได้ข้อความตามที่ถามจากผีถ้วยแก้วนั้น

เพื่อนของข้าพเจ้าเล่าให้ฟังต่อไปอีกว่า

เมื่อเล่นในคืนนั้นได้อันเชิญพระวิญญาณพระพุทธเจ้าหลวง พอข้าพเจ้าได้ยินดังนั้นก็หูผึ่งและสนใจอย่างยิ่ง จึงถามต่อโดยเร็วว่าแล้วท่านได้เข้าไหม เขาตอบว่าเข้า แต่พระองค์พาถ้วยแก้ววิ่งไปตามตัวอักษร และผสมกันอ่านได้ความว่า "คนอย่างพวกเอ็ง ไม่สมควรมาเล่นกับคนอย่างข้า" แล้วแก้วก็หยุดหมุนซึ่งหมายความว่าเสด็จออกไปแล้ว พวกที่เล่นอยู่ จึงได้อันเชิญพระวิญญาณทรงล้นเกล้าฯรัชกาลที่ 6 ดูบ้างแต่รัชกาลที่ 6 พระทัยดีหน่อย พาถ้วยแก้วหมุนไปตามอักษรผสมกันได้ความว่า "บ้า บ้า บ้า" แล้วเสด็จออกไป

เมื่อข้าพเจ้าได้ฟังดังนั้น พร้อมกับนิ่งคิดไปพลางก็นึกเชื่อทันที

เพราะคำพูดที่ว่า "คนอย่างพวกเอ็งไม่สมควรมาเล่นกับคนอย่างข้า" ของรัชกาลที่ 5 กับคำว่า "บ้า บ้า บ้า" ของรัชกาลที่ 6 นั้นเป็นถ้อยคำที่มีเหตุผลน่าเชื่อ คือ ฟังดูแล้วช่างเหมาะกับนิสัยของพระเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์จริงๆ คือ รัชกาลที่ 5 นั้นทรงมีพระนิสัยดุ เจ้าระเบียบและเฉียบขาด ข้างพระนิสัยรัชกาลที่ 6 นั้น ทรงครื้นเครงและมีพระนิสัยดี ช่างถูกตรงกับที่ได้แสดงออกมาเป็นตัวหนังสือ ตามที่เพื่อนข้าพเจ้าเล่าให้ฟัง ข้าพเจ้าจึงสนใจเรื่องผีถ้วยแก้วขึ้นมาทันที บอกกับเพื่อนว่าอยากเล่นไปด้วย

ครั้งคืนต่อมาราวทุ่มเศษเพื่อนคนนั้นก็มาเรียกข้าพเจ้าไปที่กุฎิหนึ่ง

เมื่อไปถึงเห็นพวกนักเรียนที่เป็นลูกศิษย์พระอยู่กันหลายคน และเตรียมการก็คือใช้โต๊ะตัวหนึ่ง ซึ่งจะต้องมีพื้นราบ และเรียบด้วยแล้ว จะได้วิ่งสะดวกไม่กระโดกกระเดก มีกระดาษแข็งตัดเป็นชิ้นสำหรับเขียนตัวอักษร สระวรรณยุกต์ พยัญชนะ แผ่นละหนึ่งตัวอักษรและต้องเขียนหลายชุดเพื่อการผสมคำจะได้ครบครันและเพียงพอเช่น หากถ้วยแก้วจะผสมคำว่า "กรรมการ" ก็ต้องวิ่งไปที่ตัว ก. แล้ววิ่งไปที่ตัว ร. แล้วก็ต่อไป ร. อีกตัวหนึ่งจากนั้นก็วิ่งไปที่ตัว ม. ตัว ก. ตัว า และตัว ร. แต่ก่อนที่จะแตะก้นแก้วนั้นต้องมีการเชิญวิญญาณเสียก่อน จะเชิญใครก็ได้ที่ตายไปแล้ว และต้องเชิญเพียงวิญญาณเดียว

คืนนั้นเพื่อนฝูงให้ข้าพเจ้าเป็นคนเชิญวิญญาณ

จึงคิดว่าน่าจะเชิญวิญญาณของผีเฮี้ยนๆดีกว่า ข้าพเจ้านึกถึงเรื่องที่แม่เคยเล่าให้ฟังว่า เมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้วมีไอ้เชยนักโทษถูกประหารชีวิตคดีปล้นฆ่า นิสัยดุร้ายมาก ครั้งถูกประหารชีวิตแล้ว ก็ยังเที่ยวหลอกหลอนชาวบ้านแถวนั้น ข้าพเจ้าทำปากมุบมิบๆ บอกกล่าวไอ้ผีร้ายตนนี้ และขอเชิญมาเข้าถ้วยแก้ว ครั้นเชิญแล้วเราก็ไปล้อมวงกันอยู่ที่โต๊ะ พากันเอาปลายนิ้วแตะไว้ที่ก้นถ้วยแก้ว สักประเดี๋ยวแก้วก็วิ่งไปพวกเราถามประโยคแรกว่า "ใครมาเข้าถ้วยแก้วนี้" ถ้วยแก้ววิ่งไปตามตัวอักษรทีละตัวเมื่อผสมกันแล้วอ่านได้ว่า "เชย" ตอนนี้พวกเพื่อนๆ มองข้าพเจ้าข้าพเจ้าถามต่อว่า "ตายเพราะอะไร"ถ้วยแก้ววิ่งอ่านได้ความว่า "ตายเพราะถูกประหารชีวิตที่สุพรรณบุรี" ข้าพเจ้าขนลุก เพื่อนๆ ถามว่าถูกไหม ข้าพเจ้าบอกว่าถูก

หลังจากนั้นเพื่อนๆ ก็ถามคำถามอื่นอีก แต่ข้าพเจ้าจำไม่ได้เสียแล้ว

ตอนกลับจากเล่นผีถ้วยแก้วคืนนั้น เพื่อนคนที่พาข้าพเจ้าไปเล่นได้บอกกับข้าพเจ้า "เขาว่าผีถ้วยแก้วที่มันวิ่งได้นั้นเพราะกระแสไฟฟ้าในตัวคน มันไปผสมกันเลยบังคับให้แก้ววิ่งได้" ต่อมาไม่ช้าข้าพเจ้าไปที่จังหวัดสุพรรณบุรี ข้าพเจ้าได้เล่าเรื่องนี้ให้พ่อฟัง และชวนเล่นดูก็เลยเล่นกันตอนกลางคืน ตอนนั้นไม่ได้เจาะจงเชิญวิญญาณใคร ได้แต่บอกว่าใครก็ได้ที่วิญญาณอยู่ใกล้แถวนั้นแล้วก็เชิญเล่น ปรากฏว่าถ้วยแก้ววิ่งไปมาได้ แสดงว่ามีวิญญาณมาเข้าแล้ว ข้าพเจ้าจึงได้ถามออกไปว่า "วิญญาณใครมาเข้าถ้วยนี้" ถ้วยแก้ววิ่งไปตามตัวอักษรได้คำว่า "นางไก" เมื่อถามว่าตายเพราะอะไร ก็ผสมคำออกมาได้ความว่า "ผัวตีตาย" ถามต่อไปว่าที่ไหนก็ผสมคำออกมาว่า "บ้านม้า" ถามว่าศพอยู่ที่ไหนก็ตอบว่า "ยังอยู่กลางทุ่ง" เมื่อถามว่าอดอยากไหม ก็ได้คำตอบว่า "อดอยากมากเหลือเกิน" แม่ของข้าพเจ้าถึงกับอุทานด้วยความสงสาร และรับปากว่าจะทำบุญกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลไปให้ จากนั้นก็ได้ถามอะไรๆ อีกหลายประโยค

คืนต่อมาก็เล่นกันอีก จากการผสมอักษร

ปรากฎว่าเป็นวิญญาณของ "นพศักดิ์" อยู่อำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี ซึ่งเป็นไข้ตาย ข้าพเจ้าได้ถามถึงผลการสอบไล่ของข้าพเจ้ากับน้อง นพศักดิ์ตอบว่าข้าพเจ้ากับน้องสุดท้องจะสอบได้ คนกลางจะสอบตก ครั้นต่อมาภายหลังเมื่อถึงกำหนดประกาศผลสอบ ปรากฎว่าข้าพเจ้าสอบได้คนเดียว น้องสองคนสอบตก ส่วนคำทำนายอื่นๆ ก็ผิดหมด ทำให้ข้าพเจ้าหมดความเชื่อถือในผีถ้วยแก้ว ก็คงต้องหลอกคนบ้างตามธรรมเนียมผี

เรื่อง "ผีถ้วยแก้ว" นี้มีข้อน่าแปลกใจก็คือ

เรื่องถ้วยแก้ววิ่งได้ บางคนบอกว่าวิ่งเพราะแรงคนแตะวิ่งไป แต่ไม่น่าจะจริง เพราะผู้เล่นไม่รู้ว่าถ้วยแก้วจะวิ่งไปที่อักษรใด จึงวิ่งไปตามแรงแตะคนใดคนหนึ่งไม้ได้ เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นคงต้องขืนมือกันตายเลย ท่านผู้อ่านจะลองชวนพรรคพวกเล่นดูก็ได้ แต่คำบอกเล่าทำนายของผีถ้วยแก้วนั้น ท่านจะเชื่อหรือไม่ก็ตามแล้วแต่ความรู้สึกของตัวท่านเอง



ขอขอบคุณเรื่องเล่าดี ๆ จาก
http://www.shockfmonline.com/board/index.html


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์