คนไข้ผู้หญิงคนดังกล่าวดูร่าเริงดี มีอาการเจ็บช่องท้องปวดเป็นพักๆ สรุปคืออาการไม่หนัก มีสามีมาคอยเฝ้าอยู่ข้าง ๆ ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี มาถึงเวลา 5 ทุ่ม ต้องให้ยา เธอก็ยังคงปกติดีอยู่ค่ะ.. จนมาถึงเวลาตี 2 บรรยากาศกำลังเงียบ อยู่ ๆ เสียงออดก็ดังขึ้นมาจากที่เตียง 2 ห้องรวมนั่นเอง เรากับพี่ที่ขึ้นเวรด้วยกันรีบเดินไปดู ปรากฏว่าคนไข้อยู่ในสภาวะช็อค มือเท้าเกร็ง เขียวไปหมดเลยค่ะ เราเลยช่วยกันปั๊ม และให้โอเปอเรเตอร์เรียกรหัส 3 (รหัส 3 คือฉุกเฉิน ทุกคนที่ว่างต้องไปช่วย ณ จุดนั้น) พวกเราปั๊ม วิ่งขึ้นวิ่งลง ICU เพื่อนำเครื่องมือมาช่วยชีวิต แต่สัญญาณชีพไม่ขึ้นเลย สรุปแล้วไปปั๊มต่อที่ ICU อีกพักหนึ่ง แต่ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตเธอไว้ได้ คนไข้เสียชีวิตค่ะ.. พวกเราทุกคนรู้สึกงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาก ๆ คนไข้ดูปกติมาก แล้วจู่ ๆ ทำไมถึงช็อคจนเสียชีวิตไปได้ สรุปแล้วเคสนี้แพทย์หาสาเหตุไม่พบด้วยค่ะ
แต่ความสยองมันอยู่ตรงเรื่องที่สามีคนไข้ได้เล่าให้ฟังค่ะ ก่อนอื่นขออธิบายลักษณะของห้องรวมให้ฟังก่อนนะคะ คือเมื่อเดินเข้าห้องมา มองซ้ายขวาจะมีเตียงข้างละ 2 เตียง ตรงกลางเป็นทางเดิน มองตรงไปสุดห้อง ตรงกลางจะเป็นห้องน้ำ และซ้ายขวาของห้องน้ำ จะมีประตูบานเลื่อนกระจกออกไปที่ระเบียง แยกอิสระจากกัน คือมีห้องน้ำกั้นตรงกลางนั่นเอง.. แล้วทีนี้ช่วงก่อนที่คนไข้จะเสียชีวิตไม่นาน สามีคนไข้เขาได้เดินไปที่ระเบียงห้องรวม เพื่อที่จะไปสูบบุหรี่ แต่ไม่ทันไรเขาก็เดินกลับมาที่ห้องพยาบาลด้วยอาการตัวสั่นหน้าซีด! สิ่งที่ทำให้สามีคนไข้ช็อคก็คือระเบียงนี่ล่ะค่ะ เพราะเขาเล่าว่า.. ‘ช่วงค่ำ ผมเห็นคนไข้ผู้หญิงยืนอยู่กับเสาน้ำเกลือที่ระเบียง เธอหันมามองทางผม แล้วก็เดินลากเสาน้ำเกลือจากระเบียงด้านซ้าย ไปยังด้านขวา.. แต่ตอนนั้นผมก็ไม่ได้สนใจอะไร จนช่วงดึกได้ออกไปยืนสูบบุหรี่ ผมถึงได้รู้ว่าระเบียงซ้ายขวามันเดินถึงกันไม่ได้! มันมีห้องน้ำกั้นอยู่!'
พอพวกเราได้ฟังอย่างนั้น สิ่งที่เรากับพี่พยาบาลถามเขาพร้อมกันก็คือ ‘แล้วผู้หญิงคนนั้น..รูปร่างหน้าตาเป็นยังไงคะ?' และคำตอบก็ทำให้พวกเราแทบช็อคเลยค่ะ เพราะเป็นผู้หญิงคนที่เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อช่วงเย็นนั่นเอง! หลังจากเหตุการณ์นั้น พวกเรานี่หลอนกันไปเป็นเดือน ๆ เลยล่ะค่ะ เข้าใจว่าคงเป็นตัวตายตัวแทนแน่ ๆ
ขอบคุณบทความจาก: thehouse