แล้วอำพรางศพไว้ในบ้าน ทำให้ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่ว จนเพื่อนบ้านมาทักเพราะคิดว่าอาจจะเป็นแค่หนูตาย แต่เจ้าของบ้านก็ไม่จัดการเรื่องกลิ่น จนเพื่อนบ้านแจ้งความให้ตำรวจเข้าไปดู ก็พบศพผู้ชายนอนอยู่ในห้องน้ำ สภาพศพมีน้ำเหลืองไหลเยิ้ม และหนอนไชตามลำตัว บริเวณศรีษะโดนตีด้วยของแข็งจนกระโหลกยุบ ส่วนคนที่ก่อเหตุ ก็ถูกควบคุมตัวไปดำเนินคดี หลังจากนั้นก็ไม่มีใครมาอยู่บ้านหลังนี้อีกเลย ทิ้งร้างไว้จนถึงปัจจุบัน อย่างที่เห็น
เรื่องราวความหลอนเริ่มต้นขึ้นเมื่อมีกลุ่มวัยรุ่น ๔-๕ คน เข้าไปลองของในบ้าน แล้วเจอทั้งผีผู้ชาย และผีผู้หญิงใส่ชุดไทยโบราณ หลอกหลอนวิ่งหนีกันบ้านแทบแตก หลังจากวันนั้น จากแค่บ้านร้างที่ประวัติฆาตกรรม (ซึ่งปกติก็ไม่ค่อยมีใครอยากผ่านอยู่แล้วถ้าไม่จำเป็น) ได้กลายเป็นบ้านเฮี้ยน ใครที่ผ่านไปผ่านมาหน้าบ้านนั้นโดนหลอกทุกคน บ้างก็ว่าเห็นผีผู้ชายออกมายืนชี้อยู่ที่รั้วหน้าบ้าน บ้างก็ว่าเห็นผู้หญิงชุดไทยออกมาเดินอยู่ตรงระเบียงชั้น ๒ จนไม่มีใครกล้าผ่านไปผ่านมาทางนั้นตอนกลางคืนอีกเลยถ้าไม่จำเป็น
แม้แต่เพื่อนบ้านที่อยู่กำแพงติดกันก็ยังทนไม่ไหว เดือดร้อนต้องไปหาหมอผีมาทำพิธีสะกดวิญญาณในบ้าน เพื่อไม่ให้ผีออกมาหลอกใครได้อีก แต่ถึงจะสะกดวิญญาณไว้แล้ว แต่เพื่อนบ้านและบริเวณใกล้เคียงก็ยังได้ยินเสียงแปลกๆ ดังออกมาจากบ้านหลังนี้เป็นประจำ แต่ด้วยความเคยชินเขาก็ใช้ชีวิตอยู่กันตามปกติ แต่จะไม่เปิดหน้าต่างบ้านที่อยู่ฝั่งเดียวกับบ้านร้างเลย