สัมผัสมิติแห่งจิตวิญญาณ ( ตอนจบ )

การมาปรากฏของ "กายทิพย์" หรือวิญญาณของผู้ที่ตายจากไป

อาจเกิดจากความผูกพันที่มีต่อคนรัก หรือคนในครอบครัว

การที่ยังยึดติดอยู่กับโลกมนุษย์ทำให้หลังจากสิ้นอายุขัยไปแล้ว

วิญญาณดวงนั้นยังไม่สามารถไปเกิดได้ต้องพยายามหาทางติดต่อกับคนที่เคยผูกพันไม่ว่าจะในวิธีใดวิธีหนึ่ง

อาจจะโดยการเข้าฝัน การดลจิตดลใจ การมาสื่อด้วยสัญลักษณ์

เช่น กลิ่นธูป กลิ่นศพ กลิ่นหอมของดอกไม้ หรือกระทั่งการสิงสู่ร่าง ซึ่งทุกประการที่กล่าวมา เป็นเรื่องที่คุณนิตยา ประเศรษฐสุต เคยมีประสบการณ์มาแล้วทั้งสิ้น

"คือพี่จะฝันอยู่เป็นประจำ ฝันแล้วโดยมากมันจะเป็นจริงโดยเฉพาะเมื่อปลายปี 2538 สามีพี่ก็มาเข้าฝันเขาบอกว่าจะมาอยู่ด้วยนะไม่ให้แต่งงานใหม่

ให้อยู่ในศีลธรรมจะได้ช่วยคน พอฝันเสร็จแล้วประมาณตี 2 - 3

สามีก็มาเข้าตัวพี่ มาสวมเลยครึ่งนึงเป็นตัวแก แล้วมาระยะหลังๆ เหมือนมีอาการแบบถ้าเป็นคนบ้านนอก ก็เรียกว่าผีเข้าน่ะคุณ

มันใจลอยทานข้าวไม่ได้ ชา ปากหนาหมด ก็ไปหาหมอฟัน เขาก็บอกพี่เป็นฟันคุด ให้ถอน เอ้าถอนก็ถอน พอถอนเสร็จกลับมาพี่บวมหมดทั้งตัว

และก็แปลกที่จู่ๆ ก็นึกอยากดูดวงให้คน ทั้งๆ ที่ไม่ได้เรียน

ก็เลยเดินออกไปหน้าบ้าน บ้านพี่จะติดกับมหาวิทยาลัย จะมีหอพักนักศึกษาเยอะ ก็เดินไปหา แม่บ้านหอพัก ถามว่าคุณ พี่ดูดวงให้เอามั้ย

เขาก็พาคนมา พี่ถามวันเดือนปีเกิดเขา และดูไพ่ยิปซี พอเห็นหน้าไพ่พี่ก็รู้ว่า ตัวนี้จะเป็นอะไรๆ ทั้งที่ไม่ได้เรียนอะไร

จึงทำให้พี่คิดว่าที่พี่ช็อกพอฟื้นจิตพี่ก็เลยเป็นอีกคนนึง

พี่ก็ไม่เข้าใจตัวพี่เอง ถึงจะเป็นคนเดิม แต่มันก็มีอะไรแปลกๆ มาพาเราพูด มาพาเราทำ และทำให้เชื่อว่าสิ่งที่มาดลจิตดลใจก็คือสามีพี่"

"ต่อมาก็มีเรื่องแปลกอีก คือช่วงกลางวันพี่นอนอยู่ คล้ายๆ กับไม่ได้ฝันนะมันมองเห็นเลย เห็นคนแก่มานอนเก้าอี้นอน

ตัวที่แฟนพี่เคยนอนป่วย แล้วตาแกก็มองพี่ พี่ก็เอาน้ำให้แกดื่ม

แกก็ไม่ดื่ม ยังมองพี่อยู่ มองไป มองมา พี่ก็เห็นสามีเดินเข้ามา แล้วกระซิบบอกว่า แกตาบอดนะ อุ้มแกสิ เสร็จแล้วให้แกกินน้ำยังไม่ทันหมดแก้ว

ก็มีผู้ชายคนนึง วิ่งมาบอกว่า ลุงคนนี้ดูดวงแม่นพี่ก็เลยถามว่าลุงดูหมอเป็นหรือถ้าเป็นดูให้หนูหน่อย พี่ก็ยื่นมือให้แกจับ แกก็จับมือพี่แน่น

และแกก็บอกว่าจับมือก็แม่นแล้วแหล่ะ พี่ก็สะดุ้งตื่น

พอตกเย็นลูกกลับจากโรงเรียนพี่ก็จับมือเขาบอกว่าแม่ฝันอย่างนี้ แม่จะทดลองดูซิ พอจับมือพี่ก็พูดๆ ไป เขาก็บอกว่าแม่นจริงๆ

แล้วคนแก่คนนั้นเป็นใคร พี่ก็ไม่ทราบจนบัดนี้ แต่ก็น่าจะเป็นครูบาอาจารย์ในการดูดวง เพราะตั้งแต่นั้นมาพี่ก็ดูลายมือเป็น

แล้วที่สำคัญคือเวลาที่ไหว้ครูก็จะมีแสงผ่านหัวพี่

ปรากฏอยู่ในรูปที่ถ่ายออกมาทุกครั้ง"

สายใยความผูกพันระหว่างวิญญาณกับผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่บนโลกมนุษย์ทำให้คุณนิตยาต้องพบเห็นและสัมผัสกับจิตวิญญาณของสามีอยู่เป็นประจำ

เพราะจิตสุดท้ายก่อนสิ้นลม ผู้ตายยังคงมีห่วงกังวลอยู่มาก แม้จะละจากร่างคือ "กายเนื้อ" เหลือเพียง "วิญญาณ"

แต่วิญญาณก็ยังมีร่างคือ "กายทิพย์" ที่ยังมีความรู้สึกนึกคิด

จึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะติดต่อกับคนบนโลกนี้ให้ได้ ยังมีอรกเหตุการณ์หนึ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นกับคุณนิตยาโดยตรง

แต่เป็นการที่วิญญาณได้มาสัมผัสกับผู้ที่มาดูดวงคนหนึ่ง เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2539

"มันไม่น่าเชื่อนะ อันนี้เป็นเรื่องแปลก คือมีอยู่คนหนึ่ง เขามาดูดวงที่บ้านพี่แกไม่รู้จักพี่หรอกค่ะ แต่ได้ยินชื่อเสียงแกก็เลยมา

แต่พอดูดวงเสร็จแล้วแกลุกไม่ขึ้นค่ะ เหมือนมีอะไรมาทับให้ลุกไม่ได้

แกถามพี่ว่าบ้านพี่มีอะไร พี่ก็บอกว่าคงมีแต่วิญญาณแฟนพี่นะ แล้วซักฟักจู่ๆ เขาก็ร้องไห้ สะอึกสะอื้น แต่เขาบอกเขาไม่ได้ร้องไห้นะแฟนพี่ร้อง

พี่ก็ให้เขาไปจุดธูป แฟนก็มาลงเขาเต็มตัวเลย แกบอกว่า เป็นห่วงลูก แล้วแกทำบุญมาน้อย ให้เสริมบุญให้แก เรื่อยๆ

โดยการทำบุญไปให้ อันนี้เป็นเรื่องจริง ที่ไม่คิดว่าจะเกิดเหมือนกัน"

กับเรื่องเร้นลับที่ค่อนข้างประหลาดมักเกิดขึ้นกับ คุณนิตยา อยู่เสมอหลังจากที่สามีได้จากไป และไม่ใช่ว่าสัมผัสกับวิญญาณของสามีเพียงเท่านั้น

ยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกหลายๆ องค์มาปรากฏหรือมาให้เห็นในนิมิตทางความฝันอีก

"พี่เคยฝันเห็นพญานาค ที่เห็นในฝันสูงกว่าต้นตาลอีก แผ่เศียรเหมือนพระนาคปรก เป็น 7 เศียร ท่านไม่พูดอะไร

ในฝันท่านนำสิ่งมีค่าคล้ายโลหะกลมๆ มาให้ 2 เม็ดที่หน้าบ้าน

และเป็นเรื่องแปลกที่พอพี่มาไหว้พระอยู่ที่ห้องพระก็มีลูกกลมๆ นี่อยู่ 2 เม็ดจริงๆ พี่ก็เลยบอกว่าถ้าท่านมีจริงก็ขออีกเม็ดนึงสิ เสร็จแล้ว 2 เม็ด

นั่นพี่ก็เอาไว้ที่หิ้งพระในบ้าน แล้วก็เข้ามาทำธุระในกรุงเทพฯ ปรากฏว่าพอเปิดกระเป๋าถือก็มีลูกกลมๆ ร่วงออกมาอีกเม็ดนึง พี่ก็เอาไปเทียบดูว่า

เป็นเม็ดที่ 3 มั๊ย ก็เป็นจริงๆ สีเดียวกันด้วย สิ่งนี้พี่ก็ไม่เข้าใจว่าเป็นอะไร

แต่เวลาพี่ไหว้พระพี่จะนึกถึงพญานาค บอกไม่ถูก เวลาพี่ไปโบสถ์ พี่ชอบลูบจับรูปปั้นพญานาค รู้สึกผูกพันขึ้นมาเฉยๆ พี่คิดว่าเป็นนิมิตที่ดีนะ

เพราะฉะนั้นพอพี่ไหว้พระสวดมนต์ พี่ก็จะนึกถึงตลอดและตั้งแต่ได้มาชีวิตพี่ก็เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ก็มีบางคนอยากได้บ้าง

แต่หลวงพ่อที่พี่นับถือ ท่านบอกว่า มันได้เฉพาะบุคคล ไม่ใช่ได้ทุกคน"

การเกิดเป็นมนุษย์หรือสุขอยู่ที่ใจ เป็นสำคัญ คุณนิตยาเข้าใจความเป็นไปของการใช้ชีวิตอยู่บนโลกได้ดี แม้ว่าครั้งหนึ่งจะเคยทุกข์มหันต์

ถึงขนาดคิดสั้นฆ่าตัวตาย แต่ความตายด้วยวิธีนี้ ในคำสอนของพุทธศาสนา ถือว่าเป็นบาปหนัก และเมื่อเกิดใหม่ในชาติต่อๆ

ไปกรรมที่ฆ่าตัวเองก่อนสิ้นอายุขัยก็จะเวียนมาให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกเรื่อยไป

ไม่รู้จบ คุณนิตยาจึงได้ให้ข้อคิดเตือนใจ สำหรับผู้ที่กำลังประสบปัญหาหนักในชีวิตไว้ว่า

"การเกิดเป็นมนุษย์ถ้าถามว่าทุกข์มั๊ย มันก็มีทั้งทุกข์และสุข พี่ไม่เคยตั้งความหวังในชีวิตไว้สูง ขอแค่ว่าให้ลูกเป็นคนดี เพราะลูก 4 คน

เป็นกำลังใจให้พี่ตลอดมา ในส่วนของการได้ช่วยคนก็ดีใจ

เพราะช่วยโดยไม่ได้เรียกร้องอะไรมากมาย และก็อยากให้ทุกคนอยู่ในศีลธรรม ถ้าคนเรามีศีลธรรมประจำใจทุกอย่างมันจะดีเอง

และถ้าใครมีความทุกข์ พี่อาจให้คำแนะนำได้"

หมายเหตุ เรื่องนี้เป็นความเชื่อเฉพาะบุคคลโปปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน