ผีภูโคลน


ผีภูโคลน

"สาวน้อย" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกเมื่อไปเที่ยวภูโคลน แม่ฮ่องสอน



ดิฉันไปเที่ยวแม่ฮ่องสอนกับเพื่อนๆ คือโอ่งกับโอ๋

ด้วยรถของคุณพ่อพวกเธอชื่อลุงวินัย

นอกนั้นก็เป็นแม่และป้าๆ น้าๆ ของเพื่อน ดูเหมือนว่าเราจะเข้าสู่ดินแดนดึกดำบรรพ์ที่มีอายุมากกว่ากำแพงเพชร จังหวัดของพวกเราอีกค่ะ



ไม่ใช่บ้านป่าเมืองเถื่อนที่มีแต่ขุนเขาสูงเสียดฟ้า


การเดินทางทุรกันดารเต็มที (ในสมัยก่อน) แต่เป็นแผ่นดินที่มีประวัติยาวนานเหลือเชื่อนับล้านปีเชียวละ

จากเชียงใหม่เข้าเขตแม่ฮ่องสอนก็พบกับ "ออบหลวง" เป็นแห่งแรก!

มีคำอธิบายที่ปากทางว่า "ออบหลวง" หรือ "อ๊อบหลวง" เป็นภาษาถิ่น "ออบ" แปลว่า เล็ก, คับแคบ "หลวง" แปลว่า กว้าง, ใหญ่ "



ออบหลวงคือทางน้ำคับแคบที่ผ่านชะง่อนหินมหึมาสองข้าง


ประชิดหรือค้ำกันอยู่ข้างบน

ด้านซ้ายมือเป็นสายน้ำเล็กๆ เหมือนลำธารไหลริน ลุงวินัยชี้ให้ดูต้นไม้หนาทึบฝั่งตรงข้าม จะเห็นรอยน้ำท่วมใหญ่เมื่อเดือนกันยายนปีกลายได้อย่างชัดเจน

ถึงจุดชมวิวมองเห็นสะพานข้ามชะง่อนหินมหึมาน่าเสียวไส้ ทางขวามือเป็นทางขึ้นไปสู่ดินแดนมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์



อากาศหนาวมากกับสายลมในเดือนมกราคมที่พัดซู่ซ่า


อยู่เหนือหัวทำให้รู้สึกเหมือนว่ามีสายตาหลายคู่กำลังจ้องมองพวกเราอย่างเร้นลับ น่าสะพรึงกลัว

ดิฉันกับเพื่อนๆ ขนลุกแล้วกลืนน้ำลายไม่อาวดีกว่า...ถอยดีกว่า...

จนกระทั่งไปเจอภาพถ่ายประหลาดจากอุทยานแห่งชาติถ้ำปลา มีใบหน้าของสาวสวยปรากฏเด่นชัดอยู่ท่ามกลางฝูงปลาที่แย่งอาหาร



จากนักท่องเที่ยวชุลมุน...ดูบ่อยๆ ภาพนั้นก็ค่อยๆ จางลงทุกที


แต่คณะของเราก็ได้เห็นกันทุกคนนะคะ

ป้าเนื่องของโอ่งกับโอ๋เห็นเข้าถึงกับจะเป็นลมเป็นแล้งเลยค่ะ!

เราเปิดซีดีเพลงอนุรักษ์ป่าของกลุ่มเยาวชนจากถ้ำปลา ชุด "ฝากป่าสวย น้ำใสให้รักษา" ฟังเพลินๆ ได้แง่คิดดีๆ



ว่าเพราะเราไม่เห็นคุณค่าของป่าจึงต้องเดือดร้อนจากภัยธรรมชาติ


ทั้งน้ำท่วม ฝนแล้ง โลกร้อนวิปริตอย่างเช่นทุกวันนี้

จนกระทั่งไปถึง "ภูโคลน"

ท่านผู้อ่านที่เป็นผู้หญิงส่วนมากคงจะทราบดีนะคะ ว่าเป็นโคลนที่มีแร่ธาตุในการชะลอความชรา ช่วยให้ผิวหนังเต่งตึง ขจัดสิวฝ้า



ทำให้ใบหน้าผ่องใส อ่อนเยาว์ นิยมใช้แพร่หลายจนบรรจุขวดส่งขาย


ทั่วประเทศ นับวันก็ยิ่งแพร่หลายมากขึ้นทุกที

ใช้พอกตัว พอกหน้า ดูดซับผิวพรรณชั้นนอกที่หมดอายุให้เหลือแต่ความสดใส เปล่งปลั่ง ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของสตรีทั้งหลายทั่วโลกแหละค่ะ

โคลนวิเศษที่ว่านี้ ทั้งโลกมีอยู่เพียงสามประเทศเท่านั้นเอง คือโรมาเนีย, อิสราเอล และภูโคลน แม่ฮ่องสอน



ประเทศไทย...มีการพิสูจน์กันจนได้ข้อสรุปว่า


โคลนในประเทศไทยมีคุณภาพดีที่สุดในโลก...น่าภูมิใจไหมล่ะคะ?

เราไปถึงตอนบ่ายจัด เห็นรถทัวร์หลายสิบคันจอดรับ-ส่งนักท่องเที่ยว คุณป้าคุณน้า โอ่งกับโอ๋และดิฉันลงจากรถตู้ด้วยความตื่นเต้น

เราเดินไปไม่ไกลก็ถึงศาลาเตี้ยๆ โล่งกว้างทั้งสี่ด้าน เปิดบริการหมอนวดแผนไทยสไตล์พื้นเมือง...เอ๊ะ! ยังไง?



เสียงใสๆ จากเทปประกาศไม่ขาดระยะ เชื้อเชิญให้นักท่องเที่ยว


ไปพอกตัวนวดหน้า หรือซื้อผลิตภัณฑ์ของที่นี่ เช่น สบู่เสริมความงามไปใช้...คุณน้าคุณป้าพวกเราบอกว่าที่กำแพงฯ แพงมาก กรุงเทพฯ ก็แพงค่ะ

โอ่งกับโอ๋วิ่งไปทางด้านขวาที่มีสตรีหลายวัยหนาตา แต่ป้าเนื่องบ่นว่านั่งรถมาปวดเมื่อยเนื้อตัวเหลือเกิน ขอเข้าไปนอนให้เขานวดคลายเส้นดีกว่า



ดิฉันก็พลอยรู้สึกปวดหลังชอบกล ขอตามไปนวดด้วยคน


ป้าเนื่องดีใจที่ได้เพื่อน จูงกันเข้าไปแจ้งความประสงค์ขอนวด 1 ชั่วโมง บังเอิญมีหมอสาวใหญ่ 2 คนว่างพอดี

คนอื่นๆ นอนหงายเหยียดยาวบนเสื่อเรียงรายกันไปทั้งสองฟาก โดยหันเท้าเข้าหากัน ฝั่งโน้นมีเก้าอี้สำหรับคนที่ต้องการนั่งให้นวดเท้าอย่างเดียวด้วย



หมอนวดถามว่าชอบหนักหรือเบา ดิฉันบอกว่าเบาๆ ก่อนก็ดีค่ะ...


อยากให้นวดที่หลังมากหน่อย หมอนวดบอกว่าเส้นตึงมาก สงสัยจะไม่ได้นวดมานาน ดิฉันหลับตาอมยิ้ม ไม่ตอบว่า...เกิดมาก็เพิ่งจะนวดครั้งแรกนี่แหละค่ะ!

โอ่งกับโอ๋เข้ามายืนแซวอยู่ข้างๆ ว่า อายุแค่นี้ริอ่านชอบนวดแล้วเหรอ? อีกหน่อยก็ติดหมอนวดเหมือนป้าเนื่องหรอก...ตัวเองโดนนวดไม่ได้ จั๊กจี้ตายเลย



แล้วทั้งสองก็บอกว่าจะไปดูเขาสาธิตการตักโคลนและนวดหน้าด้วย



ลมพัดโชยมาไม่ขาดระยะ เย็นสบายจนดิฉันเคลิ้มๆ ไป...ขณะที่นอนคว่ำให้หมอนวดกดสันมือไปตามแผ่นหลังก็ได้ยินเสียงโอ่งถามว่า...อยากลองมั่งมั้ย?

ลืมตามองก็อดหัวเราะไม่ได้เมื่อเห็นใบหน้าขาวๆ ถูกโคลนพอกไว้ดำปี๋เห็นแต่ตาเท่านั้น



ถามว่าอุตริไปทำแบบนี้ทำไม? โอ่งตอบว่าเห็นเขาทำก็ทำกัน!


ถามว่าทำแล้วได้อะไร? ป้าเนื่องเสริมว่านั่นซี เนื้อหนังก็ยึงตึงเต่งอยู่แท้ๆ โอ่งเอียงคอมอง...ทำแล้วคงสวยขึ้นกว่าเดิมมั้ง?

อีก 15 นาทีก็ล้างออกแล้ว ดูซิว่าจะสวยมั้ย?

บ้า! ดิฉันหลับตาเมื่อโอ่งหันกลับออกไปตามเดิม พอดีหมดเวลา...ป้าเนื่องทิปหมอนวดไปคนละ 20 บาทแล้วออกมาใส่รองเท้า



ดูนาฬิกาก็เห็นว่าได้เวลานัดหมายออกเดินทางต่อ


เลยรีบไปเข้าห้องน้ำด้านซ้ายใกล้ๆ กับรถตู้ คนอื่นๆ มาถึงเรียบร้อย หันไปมองโอ่งกับโอ๋ที่นั่งรอ ถามว่าทำไมล้างโคลนออกจากหน้าเร็วจัง?

"ใครล้างโคลน?" สองพี่น้องถามพร้อมกัน ยืนยันว่าไปเดินดูแค่ผ่านๆ เห็นเขาพอกหน้าเดินกันให้ไขว่ แต่เด็กสาวๆ อย่างเราจะไปพอกหน้าทำไม?



"โอ่ง..เธอพอกหน้าไปหาฉันที่นอนนวด คุณป้าก็เห็น"


ดิฉันร้อง แต่โอ่งกับโอ๋หน้าซีด ยืนยันว่าอยู่ด้วยกันตลอด ไม่มีใครพอกโคลนเลย! แวะกินน้ำเสาวรสคนละขวดแล้วมานั่งรอบนรถตั้ง 15 นาทีแล้ว

ใครล่ะที่มาพูดคุยกับดิฉัน? ไม่มีคำตอบถึงทุกวันนี้ค่ะ!




แหล่งที่มา:


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์