สื่อเรียกวิญญาณ


สื่อเรียกวิญญาณ

"ลูกแก้ว" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกเมื่อเล่นผีถ้วยแก้ว




ผมกับพี่ๆ และเพื่อนๆ มักจะถูกผู้ใหญ่บ่นอยู่เสมอ

ว่าซุกซนผิดผู้ผิดคนพวกผมก็พยายามเพลาๆ ลงหน่อย

แต่บางทีก็อดไม่ได้ ที่จริงผมรู้ว่าผู้ใหญ่...หมายถึงคุณย่าคุณยายและป้าๆ ทั้งหลายแกล้งบ่นไปยังงั้นเอง ท่านเอ็นดูพวกผมออกจะตาย



สิ่งที่ผมเล่นซนกันก็เป็นเรื่องแสวงหาความรู้ทั้งนั้น


อย่างการทดลองว่าผีมีจริงหรือเปล่า? เอง...อันนี้ก็น่าโดนดุอยู่หรอก เพราะมันทำท่าจะได้ผลแฮะ!

บ้านผมกว้างขวาง อยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ เพื่อนๆ ชอบมาเที่ยวหลังโรงเรียนเลิกตอนเย็นๆ สักชั่วโมงสองชั่วโมงก็กลับกันหมด



คุณยายจะทำกับข้าวอร่อยๆ ไว้เลี้ยงเป็นอาหารว่าง


บางทีก็ใส่ถุงกลับไปบ้านด้วย ดังนั้น บ้านเราจึงเป็นที่รู้จักและไว้ใจของบรรดาคุณแม่ทั้งหลายของเพื่อนผม

ยิ่งวันเสาร์ อาทิตย์นี่ยิ่งครึกครื้นอย่าบอกใคร!

นั่นคือคุณป้าคุณอาจะพาลูกๆ มาเยี่ยมคุณปู่คุณย่ากัน ผมมีพี่สาวน้องสาวเยอะ ทั้งที่ผมเป็นลูกคนเดียวของพ่อกับแม่



แถมเป็นหัวแก้วหัวแหวนด้วย เพราะคุณป้าคุณอามีแต่ลูกสาวกันหมด



วันที่เกิดเรื่องเป็นวันเสาร์ครับ ราวๆ สามทุ่มเห็นจะได้

พวกลูกพี่ลูกน้องผมมาเยี่ยมคุณย่าคุณยายกันตามปกติ เพื่อนๆ ผมสามคนก็อยู่ด้วย และขออนุญาตแม่ว่ามาค้างบ้านผมกัน

พวกผู้ใหญ่กินข้าวเสร็จก็คุยกันติดลม เราเลยเล่นกันอยู่อีกห้องหนึ่ง...เราเล่นผีถ้วยแก้วกันครับ!



พี่สาวผมที่อยู่ม.5 เป็นคนชำนาญเรื่องนี้ดี เราทำตาราง


เขียนตัวอักษร แล้วเอาแก้วใบเล็กๆ หนาๆ จากในครัวมาคว่ำลง เพื่อนผมจุดธูปเชิญผีมาลงถ้วย

เรากิ๊กกั๊กกันใหญ่ ตื่นเต้นดีออกครับ...ไม่เชื่อหรอก แต่ก็กลัวๆ อยู่เหมือนกัน

มันแปลกดีพิลึก แก้วมันเลื่อนเองได้ เราแค่เอานิ้วแตะมันเบาๆ มันก็เหมือนมีแรงแม่เหล็ก ดึงไปทางโน้นทางนี้



เมื่อเราถามว่าผีที่มาแก้วชื่ออะไร? แก้วก็เลื่อนไปที่


ก.ไก่ สระอีและไม้โท เป็นอันว่าเป็นผีผู้หญิงชื่อ "กี้" เราถามว่าเป็นอะไรตาย เธอตอบว่า "ถู-ก-ฆ่-า"

จากนั้นแก้วก็วิ่งเร็วมาก ไม่ว่าจะถามอะไรก็ไม่ได้คำตอบแล้ว มันวิ่งวนไปรอบๆ กระดาษ แรงขึ้นๆ เพื่อนตกใจ ร้องว่า "เฮ้ย! ใครแกล้งวะ?"



เราร้องด่ากันหลายคำ ตามประสาวัยรุ่นที่ต้องยอมรับว่า ตอนนั้นทั้งกลัวทั้งตกใจ



ในที่สุด แก้วที่คว่ำอยู่ก็หลุดจากขอบโต๊ะ ตกลงกับพื้นพรม!

ทุกคนตกตะลึงกันหมด พี่สาวผมหน้าเสีย พอดีคุณอาผม-แม่ของเธอน่ะครับ เรียกให้ไปลาคุณย่าคุณยายกลับบ้าน มันดึกแล้ว

ผมถามพี่สาวว่า มันจะมีอะไรไหมเนี่ย? เธออ้อมแอ้มตอบว่า...คงไม่มีมั้ง?



ถึงไม่ค่อยเชื่อเรื่องผีแต่ผมก็ไม่ประมาทนะครับ กลัวน่าดูเลยล่ะ!


บรรยากาศของบ้านมันไม่เหมือนเดิมเลยจริงๆ บ้านที่อบอุ่นของผมกลายเป็นแดนสนธยาในความรู้สึกของผมเอง

เพราะไม่รู้ว่านับตั้งแต่นี้ไปจะมีอะไรมาแอบแฝงสิงสู่อยู่กับเรามั่ง?

เพื่อนๆ ผมมันก็แหยงๆ วิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา ว่ามันน่าจะเป็นอาถรรพณ์อาเพศอะไรสักอย่าง



เพราะการเล่นผีถ้วยแก้วของเราจบลงอย่างกะทันหัน


ไม่มีการส่งวิญญาณ ไม่มีการยุติ!

คืนนั้นแหละครับ คุณยายผมทักว่าในห้องที่ผมเล่นกันมันมีกลิ่นอะไรเน่าๆ เหมือนปลาเค็มค้างปี ใครเอาอะไรมากินแล้วซุกไว้ที่ไหนหรือเปล่า?

พวกสาวใช้มาหาตามใต้โต๊ะใต้ตู้ว่ามีหนูหรือตัวอะไรมาตายหรือไม่ ก็ไม่มี



วันต่อๆ มาทั้งสัปดาห์ ผมรู้สึกอยู่ตลอดว่ามีใครบางคนที่ไม่มีตัวตน


จ้องมองผมและเดินตามไปทั่วบ้าน ถ้าออกจากบ้านไปโรงเรียนผมจะไม่รู้สึกหวาดระแวงแบบนี้ แต่พอกลับเข้าบ้านก็กลับรู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ อีก

บางทีขนลุกซ่าไปทั้งตัว เหมือนมีกระแสไฟฟ้าผ่านเข้ามา แบบเราเอามือไปจ่อทีวีตอนจะปิดจะเปิดมันน่ะครับ ผมชอบเล่น มันจะดังเผียะๆ เบาๆ และจั๊กจี้นิดๆ



ชักแน่ใจแล้วซิว่าผียัยกี้ยังสิงสถิตอยู่ในบ้านนี้ไม่ยอมไปไหน!



เธอเป็นวิญญาณผีตายโหงเสียด้วย ผมอดนึกถึงหนังเรื่อง "จูออน" ไม่ได้...ขนลุกอีกแล้วไง!

ผีแบบนี้ดุจะตาย มันอาฆาตด้วย...ตายละ! ถ้ามันมาทำอะไรผม หรือคุณย่าคุณยาย หรือพ่อแม่ จะทำยังไงล่ะ?



ผมไม่กล้าบอกใคร จนกระทั่งจ่อย-สาวใช้ของคุณยายร้องกรี๊ดๆ


ทำจานชามหลุดมือแตกโพล้งเพล้ง เมื่อเธอเห็นผีผู้หญิงยืนเน่าเฟะอยู่ในครัว...ผีหิวได้เหรอครับ!

เป็นอันว่าผมต้องสารภาพว่าพวกผมทำอะไรลงไป

คุณย่าคุณยายถอนใจเฮือกใหญ่ รุ่งขึ้นท่านทั้งสองต้องถ่อ...เอ๊ย! ให้นายจวบคนขับรถพาท่านไปถึงอยุธยา



ไปกราบขอคำปรึกษากับพระรูปหนึ่ง ที่ท่านเคารพและรู้จักกันมานาน ก่อนผมเกิดด้วยซ้ำ



พอกลับถึงบ้าน ท่านก็ถามว่าแก้วกับกระดาษเขียนอักษรพวกนั้นยังอยู่ไหม? ผมไปหยิบมาให้ท่าน...

ก็ซุกไว้ในลิ้นชักห้องนั้นล่ะครับ ท่านให้ผมเอาแก้วกับกระดาษไปทิ้งซะ เพราะมันเป็นสื่อเรียกวิญญาณ



ท่านให้ผมจุดธูป 1 ดอกปักลงในดินกลางสนามหญ้า


และสัญญาว่าจะบวชเณรพร้อมเพื่อนสามคนตอนปิดเทอมกลางนี้ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ "คุณกี้" เธอ

เรื่องนี้ผมไม่ยักถูกดุมากมายอะไร คุณย่าบอกว่าแค่นี้ผมก็แย่แล้ว ท่านหวังว่าผมคงเข็ด ดีเหมือนกันที่ต้องบวชเณรจะได้หายซนซะบ้าง

และผมกับเพื่อนๆ ก็สรุปว่าการทดลองเล่นผีถ้วยแก้วนี้ได้ผล...คือเราได้คำตอบว่าผีมีจริงไงครับ!




แหล่งที่มา:


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์