ผัดไทยเซ่นผี


ผัดไทยเซ่นผี

"มดแดง" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากงานวัด




สมัยวัยรุ่นผมอยู่นางเลิ้ง หรือจะให้แคบลงหน่อยก็คือ เด็กวัดแค...เชื่อว่าใครๆ คงจะรู้จัก

อย่างน้อยก็ได้ยินชื่อนี้มาแล้ว แหม! ก็เป็นวัดที่บำเพ็ญกุศลศพยอดพระเอกชื่อดังของเมืองไทย มิตร ชัยบัญชา ไงครับ



ถึงจะผ่านมาตั้ง 37 ปีแล้ว


ผมยังตัวกะเปี๊ยกแต่ก็ยังจำได้ดีว่ามีผู้คนไปรอรับศพดาราในดวงใจ หลามไหลชนิดมืดฟ้ามัวดินแค่ไหน

สุดยอดดาราจริงๆ ครับ เพราะจนถึงทุกวันนี้แฟนๆ ก็ยังไม่ลืมมิตร ชัยบัญชา พระเอกผู้ครองความยิ่งใหญ่ เป็นดาราในดวงใจของแฟนพันธุ์แท้ตลอดกาล!



พองานศพเสร็จสิ้น วัดแคก็ตกอยู่ในความสงบเงียบ


ค่อนข้างเหงาต่อไปตามเดิม...ยิ่งถนนด้านหลังวัดที่เชื่อมระหว่างถนนหลานหลวงกับนครสวรรค์

มีแต่ตึกแถวกับห้องแถวเก่าแก่อายุเกือบร้อยปี คิดดูละกันว่าจะเก่าแก่และทรุดโทรมน่าใจหายแค่ไหน?



ตามตรอกซอยแถวนั้นก็มีบ้านช่องเรียบราย


ตอนกลางวันยังมีร้านค้า รถเข็นและแผงลอยขายอาหาร มีชุมทางคอกาแฟบนฟุตปาธ ผู้คนเดินผ่านไปมาพอสมควร

แต่ตกกลางค่ำกลางคืน บรรยากาศมันช่างเปล่าเปลี่ยว เงียบเหงาและวังเวงอย่าบอกใครเชียว



ผีดุน่ะสิครับ! ไม่ใช่เสียงลือเท่านั้น


เพราะยืนยันมั่นคงกันมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายายแล้วว่าผีวัดแคดุสาหัสนักหนา พวกที่อยู่วัดใกล้ๆ กันย่านนั้น

อย่างวัดสระเกศ วัดโสมล้วนแต่เถียงคอเป็นเอ็นว่าผีวัดไหนก็ดุสู้ผีวัดตัวเองไม่ได้

พวกตรอกขี้เถ้า สะพานดำ ไปยันแม้นศรี ล้วนแต่สบถสาบานว่าวัดสระเกศผีดุที่สุด


เพราะมีการเผาผีคนที่ตายด้วยโรคห่า


หรืออหิวาตกโรคน่ะมีหลายร้อยที่กองสุมๆ ไว้หน้าวัดจนเผาไม่ทัน ขนาดอีแร้งบินว่อนลงมาเกาะยอดไม้รอกินซากศพก็แล้วกัน

ไหนจะเรื่องเปรตที่โด่งดังพอๆ กับวัดสุทัศน์อีกล่ะ!

มีคนเคยได้ยินเสียงร้องกรี๊ดๆ กลางดึก พวกที่บังเอิญกลับจากบ่อนถั่วบ่อนโปเงยหน้าขึ้นไปมอง


โอโห! เห็นตัวสูงปรี๊ดขนาดต้นตาลกำลังก้าวโย่งเย่งมาจากหลังป่าช้า


...เล่นเอาวิ่งหนีกันกระเจิดกระเจิงปานผึ้งแตกรัง

ทีนี้พวกที่อยู่แถววัดโสมฯ ก็หัวเราะเยาะ บอกว่าโธ่เอ๊ย! แค่นั้นน่ะเรื่องเด็กๆ เพราะที่วัดโสมฯ

น่ะมายืนเทียบกับต้นตาลหน้าวัดให้เห็นจะจะไปเลย ลมดึกพัดใบตาลแก่ๆ ให้แกว่งไกว กระทบกันแกรกๆ ผสมกับเสียงวี้ดๆ กรี๊ดๆ อะไรนี่แหละ



พอแหงนหน้าขึ้นไปมองก็เจอเปรตยืนอยู่ข้างต้นตาล


สูงลิบลิ่วน่าสยอง ใบหน้าดำเมี่ยม แต่นัยน์ตาแดงจ้าปานเปลวไฟ เห็นปากเล็กจู๋เพราะบาปกรรมที่เคยด่าพระสงฆ์องค์เจ้า แถมยังด่าพ่อแม่ผู้มีพระคุณอีกล่ะ

อย่าว่าแต่เปรตเลยที่มีกรรมน่ะ แม้แต่คนเห็นเปรตเองก็กรรมหนักเช่นกัน เพราะล้มโครมหลังตีดิน ร้องจ้าๆ แต่ลุกไม่ขึ้น ได้แต่ก้มหน้าร้องไห้โฮอยู่กับที่



ด้วยเหตุนี้แหละ ชาวบ้านวัดโสมฯ ถึงได้ประกาศว่าผีวัดโสมฯ ดุร้ายที่สุด!



พวกผมไม่อยากโต้เถียงกับใครหรอกครับ แต่ของเล่นเหตุการณ์น่าขนหัวลุกที่ประสบมาให้คุณผู้อ่านตัดสินแล้วกัน ว่าผีวัดไหนจะเฮี้ยนมากกว่ากัน?

ย่านนางเลิ้งมีนักเลงใหญ่ชื่อ "เติม" พวกผมเรียกน้าเติม ร่างสูงใหญ่กำยำยำล่ำสัน จมูกหักเพราะเคยโดนหวดด้วยไม้คมแฝก



บางคนลือว่าแกเป็นพวก "เก้ายอด" ก๊กนักเลงชื่อดังที่มี "พี่เหงี่ยม" เป็นหัวหน้าใหญ่



น้าเติมทำตัวสมเป็นนักเลงใหญ่ ไม่รังแกคนถิ่นเดียวกัน แถมยังช่วยคุ้มครองอีกต่างหาก

ถ้าใครแหลมเข้ามา หรือเป็นพวกเสือข้ามห้วย น้าเติมกับลูกน้องเป็นจัดการจนเผ่นกระเจิงไปตามๆ กัน



คืนหนึ่งก็เกิดเหตุสยองขวัญขึ้นมา!



คืนนั้น วัดแคมีงานประจำปี มหรสพเพียบ ทั้งหนัง ลิเก ลำตัด เพลงฉ่อย หมอลำ เพลงลูกทุ่งมีทั้งนั้น ไหนจะการออกร้านรวงให้สะพรั่ง

แผงลอยขายอาหารการกินหลายสิบเจ้า ลูกโป่งสวรรรค์ลอยฟ่อง ผู้คนเดินเที่ยวเตร่กันคึกคัก กลิ่นแก๊สจากตะเกียงฟู่อบอวลตามแบบของงานวัดทั่วๆ ไป



พวกผู้ใหญ่อุ้มลูกจูงหลานมาเที่ยวงาน หนุ่มๆ สาวๆ


เดินคลอคู่กันหัวเราะต่อกระซิก บ้างก็กำลังขายขนมจีบกันไฟแลบ...เราเดินเที่ยวงาน ดูทั้งการละเล่นและผู้คนจนหิวขึ้นมา

แหม...เราตัดสินใจแวะกินก๋วยเตี๋ยวผัดไทยกัน

ขณะกำลังรอผัดไทยรสโอชา เจ้ามดกับเจ้าตี๋ก็ชะโงกหน้ามาบอกผมว่า...น้าเติมมาโว้ย กำลังกินผัดไทยคนเดียว!



เมื่อหันขวับไปมองก็เห็นนักเลงใหญ่แต่งชุดดำ


กำลังพุ้ยก๋วยเตี๋ยวใส่ปากตุ้ยๆ น่าเอร็ดอร่อย แถมคว้าหัวปลีที่ฝานตามยาวใส่ปากเคี้ยวกร้วมๆ

เรายกมือไหว้น้าเติมแต่แกไม่แยแส ไม่พยักหน้ารับหรือแม้แต่ทักทายด้วยซ้ำ...คงหิวมากน่ะครับ



น่าแปลกอย่างที่น้าเติมบินเดี่ยว ทั้งๆ ที่เคยเห็นมีลูกน้องตามเป็นพรวน...


อย่างน้อยก็ 2-3 คนล่ะ แต่อย่างว่า ถิ่นเราซะอย่างใครมันจะกล้าแหย็ม

ผัดไทยของพวกเรามาถึง ผมเหลือบดูน้าเติมบ่อยๆ นึกสังหรณ์ใจยังไงบอกไม่ถูก จนแกอิ่มหนำสำราญแล้วก็ลุกขึ้นเดินเทิ่งๆ

ไปทางท้ายวัด เรื่องไม่จ่ายเงินน่ะธรรมดามาก ไม่มีใครคิดเงินจากน้าเติมอยู่แล้ว...แต่เสียงหมาฝูงใหญ่หอนโจ๋ว



แทบจะกลบเสียงมหรสพต่างๆ นี่สิ ทำให้ผมเย็นหลังบอกไม่ถูก



ผีสาง! ร่างน้าเติมคล้ายจะหายไปดื้อๆ ท่ามกลางผู้คน ผมบอกกับเพื่อนๆ แต่เจ้าตี๋หาว่าผมตาฝาด ส่วนเจ้ามดบอกว่ามันเห็นน้าเติมไม่มีเงาแต่ไม่กล้าพูด

คราวนี้เราเหลียวซ้ายแลขวาลอกแลก ใจคอไม่ค่อยดี หมดอยากเที่ยวงานวัดแล้วเลยแยกย้ายกันกลับบ้าน...



รุ่งขึ้นถึงได้ข่าวว่าน้าเติมโดนรุมแทงตาย



ที่วรจักรตั้งแต่ตอนหัวค่ำ เพราะข้ามถิ่นไปหาสาวเลยโดนคิดบัญชี...แต่วิญญาณโลดลิ่วมากินผัดไทยของโปรด

ถึงวัดแคให้พวกผมเห็น เล่นเอาขนหัวลุกไปตามๆ กัน!




แหล่งที่มา:


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์