เกลืออาบศพ
"หนุ่มนาเกลือ" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากแม่กลอง
สมัยเด็กๆ ผมอยู่สมุทรสงคราม หรือเรียกง่ายๆ ว่า "แม่กลอง" จังหวัดเล็กที่สุด
แต่อุดมสมบูรณ์ที่สุด เป็นเมืองที่มีการทำอุตสาหกรรมอาหารทะเลใหญ่ที่สุดในประเทศไทยก็ว่าได้
เคยพูดกันขันๆ ว่าจังหวัดเราน่าจะเรียกว่า "จังหวัด 3 อย่าง" ซะด้วยซ้ำไป!
ทำไมหรือครับ?
มีจังหวัดไหนมั่งล่ะที่มี 3 อย่างแปลกๆ เช่น มี 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง, อำเภออัมพวา, อำเภอบางคนที มีนา 3 อย่างคือ
นาข้าว, นากุ้ง และนาเกลือ มีน้ำ 3 น้ำ คือ น้ำจืด, น้ำเค็ม, น้ำกร่อย สวน 3 สวนที่ดังๆ คือ สวนส้มโอ, สวนลิ้นจี่, สวนมะม่วง
คิดดูแล้วกันว่าแปลกดีไหมล่ะ?
อ้อ! สวนลิ้นจี่น่ะเคยมีคนเข้าใจผิด คิดว่าแม่กลองเอาอย่างเชียงใหม่ เห็นเขาปลูกลิ้นจี่งามก็ลองปลูกมั่ง! ผิดนะครับ
เพราะบ้านผมน่ะปลูกลิ้นจี่มาเป็นร้อยๆ ปีแล้ว ตั้งแต่สมัยอยุธยาโน่นแน่ะ แถมหวานหอม เนื้อแน่น แห้ง ปอกเปลือกแล้วไม่แฉะน้ำ กินอร่อยอย่าบอกใครเชียว
อย่าว่ายังโง้นยังงี้เลยครับ ขอโฆษณากันหน่อยว่าเดือนหน้า
(เมษายน) ลิ้นจี่ก็สุกสะพรั่งเต็มเมืองแล้วครับ ขอเชิญท่านผู้อ่านไปชิมลิ้นจี่กันเยอะๆ นะครับ
ปีนี้ดกมากเหลือเกิน นึกว่าเห็นใจพี่น้องชาวสวนลิ้นจี่แม่กลองมั่งละกัน
ของอะไรมีมาก ราคาก็ย่อมตกเป็นธรรมดา...รับประกันว่าอร่อยติดใจจริงๆ ครับ สาบานให้ไปชิมลิ้นจี่แม่กลองได้เลย
วันนี้จะเล่าเรื่องขนหัวลุกของผีนาเกลือครับ!
แหม! ไม่ต้องโฆษณาขายเกลือก็ยังได้ เพราะยังไงๆ เกลือแม่กลองก็คุณภาพดีเหลือหลายอยู่แล้ว
ไม่ว่าเกลือเค็ม เกลือจืด ที่เอามาทำเครื่องสำอางพอกหน้าคุณผู้หญิงขจัดสิวฝ้า หน้าตกกระได้ชะงัดนักหนา
ขอแนะนำนิดเดียว สำหรับท่านที่ขับรถผ่าน
ไปมาระหว่างกรุงเทพฯ ราชบุรี เพชรบุรี หัวหิน...คือถ้าจะซื้อเกลือติดไม้ติดมือ
กลับบ้านก็จะเลือกเกลือเก่านะครับ เพราะคุณภาพจะดีกว่าเกลือใหม่...ไม่ว่าจะนำไปปรุงอาหารหรือดองผักดองปลา อย่าใช้เกลือใหม่เชียว!
วิธีสังเกตคือดูก้นถุงว่าเปียกแฉะหรือเปล่า? ถ้าใช่ก็เป็นเกลือใหม่ อีกวิธีก็คือลองเอามือกำดู
ถ้าไม่ติดมือก็คือเกลือเก่า...เพราะถ้าเอาเกลือใหม่
ไปดองผักดองปลาก็จะทำให้สีสันดำคล้ำ แถมออกรสขมอีกต่างหาก
อ๋อ...ชาวนาเกลือบางคนก็เดือดร้อน รีบเอาเกลือใหม่มาขายน่ะซีครับ
บ้านผมทำนาเกลือมาตั้งแต่ครั้งปู่ย่าตายายแล้วละคุณ คิดถึงเพลงหนุ่มนาข้าวสาวนาเกลือแล้วอดขำไม่ได้...นาข้าวน่ะชอบฝน!
แต่นาเกลือเห็นฝนตั้งเค้ามาแต่ไกลก็กลุ้มอกกลุ้มใจไปตามๆ กัน
เพราะถ้าพระพิรุณเกิดซัดซู่ซ่าลงมา มีหวังขาดทุนย่อยยับไปตามๆ กัน เลยต้องทำนาเกลือฤดูร้อนไงครับ
ปู่ผมเล่าว่าสมัยก่อน เมื่อน้ำทะเลท่วมท้นขึ้นมาหลายๆ วัน จะเหลือตะกอนขาวๆ หรือผลึกเกลือนั่นละครับ
พอจับพวกปลากระบอกมาได้เหลือกินก็เอาเกลือคลุกไว้
ทำให้ปลาอยู่ได้นานวันไม่เน่าไม่เสีย...ถือว่าเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านละกัน
จากน้ำลึกก็มาถึงน้ำตื้น...แค่ 4-5 วันก็ได้ผลึกเกลือแล้ว จึงได้ริอ่านทำนาเกลือขึ้นมา...ก่อนจะถึงฤดูใหม่ นาเกลือก็จะมีแผ่นดำๆ
เกลื่อนกลาด ชาวบ้านเรียกว่า "ดินหนังหมา" ต้องโกยทิ้งไปก่อน ไม่งั้นจะได้ผลไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย แถมเกลือคุณภาพต่ำอีกต่างหาก
พวกผมจะรู้จัก "เกลือตัวผู้" กับ "เกลือตัวเมีย" ตั้งแต่เด็กๆ
เพราะพ่อแม่สอนว่าเกลือตัวผู้จะเม็ดเล็กๆ ยาวคล้ายข้าวสาร แต่เกลือตัวเมียจะออกป้อม สั้น
เกลือตัวผู้ใช้ทำยาฝนกันโกร่งหรือฝาละมีก็ได้...แก้เด็กเป็นซางมาตั้งแต่ครั้งปู่ยาตายายโน่นแน่ะครับ
เรื่องผีๆ สางๆ ก็มีเกลือตัวผู้เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยนะครับ!
เชื่อถือกันมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้วว่า ถ้ามีใครตายก็จะเอาเกลือตัวผู้โรยสะดือศพไว้เป็นเคล็ด
เชื่อว่าจะทำให้ศพนั้นไม่เน่า หรือส่งกลิ่นน่ารังเกียจ ก่อนจะถึงวันเผาราว 3 วัน 7 วัน...จนกระทั่งเกิดเรื่องขนหัวลุกขึ้นมา!
ตากลึงอายุ 70 เศษล้มตายอย่างน่าอิจฉาที่สุด คือแกนอนหลับไปดีๆ
ก็เลยหลับตลอดกาล ไม่ต้องเจ็บป่วยทนทุกข์ทรมาน หรือทำให้ลูกหลานเดือดร้อน
แต่ก็ทำให้ตกอกตกใจเอาการ เพราะไม่นึกว่าคนแก่ที่ยังแข็งแรงอย่างตากลึงจะจากไปอย่างกะทันหัน
วันสวดศพที่วัด เพื่อนบ้านก็ช่วยงานศพกันพร้อมหน้าพร้อมตา
ผมกับพ่อไปฟังสวดทุกคืนเพราะตากลึงมีศักดิ์เป็นน้องของปู่ผม แต่เราเรียกตากลึงว่าตาเหมือนคนอื่นๆ ในละแวกนั้น
จนกระทั่งสวดศพถึงวันที่สามก่อนจะเผาวันรุ่งขึ้น พระสวดเสร็จก็เหลือพวกคอเหล้ากับคอหมากรุก ล้อมวงโจ้กันเป็นเพื่อนศพ...จู่ๆ
ก็มีเสียงกุกกักดังมาจากโลงผีเล่นเหลียวขวับไปมองเป็นตาเดียวกัน...
หรือตากลึงจะฟื้นขึ้นมา?
ท่ามกลางความเปล่าเปลี่ยวและเยือกเย็น หมาหอนโจ๋วบาดหัวใจ ผมเบียดพ่อแจขณะที่เสียงกุกกักเงียบไป
ทันใดนั้นเอง เกิดเสียงเอี๊ยดอ๊าดน่าขนหัวลุก นรกเถอะ! โลงแตกผาง ศพตากลึงหล่นโครมครามน่าสยดสยอง
กลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้งไปทั้งศาลา
ทุกคนเผ่นพรึ่บขึ้นพร้อมๆ กันด้วยความตระหนกใจสุดขีด
กว่าจะจัดการให้หายอุจาดได้ก็ปั่นป่วนกันไปหมด...ชาวบ้านพูดกันว่าพวกลูกหลานแกคงจะลืมโรยเกลือตัวผู้ใส่สะดือศพ
ผีตากลึงถึงได้เหม็นเน่า พองอึ้ดทึ่ดจนโลงแตกอย่างน่าสยอง...น่าขนหัวลุกไหมล่ะครับ?
แหล่งที่มา:
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!