คุณยายของหนู


คุณยายของหนู

"หนูนิด" เล่าประสบการณ์เมื่อเห็นวิญญาณคุณยาย



เมื่อเดือนที่แล้วนี่เอง หนูต้องพบกับความสูญเสียครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิต

เกิดมาหนูไม่เคยเสียใจมากเหมือนครั้งนี้เลย เพราะคุณยายหนูเสียชีวิตค่ะ!

ใครๆ บอกว่าคนเราเกิดมาแล้วก็ต้องตาย จะได้มีที่อยู่และอาหารไว้ให้คนรุ่นหลังๆ ไม่งั้นคนจะล้นโลก



ไม่มีที่อยู่ ไม่มีที่กิน! แต่หนูว่าไม่จริงหรอก



เพราะเคยเห็นที่ว่างๆ ยังมีอีกเยอะแยะ ไม่ว่าในกรุงเทพฯ หรือต่างจังหวัดที่พ่อแม่เคยพาหนูกับพี่ๆ ไปเที่ยว

ที่ว่างๆ ไม่ได้ปลูกบ้านหรือทำนาทำไร่นะคะ มีแต่ป่าละเมาะและดงหญ้าทั้งนั้น ไม่เห็นใครเอาไปทำประโยชน์อะไรเลย



บางคนบอกว่าคุณยายหนูอายุมากแล้ว ตั้ง 70 กว่าๆ



เหมือนผลไม้ที่สุกงอมแค่โดนลมพัดเบาๆ ก็หลุดจากขั้วได้...คือตายไงล่ะคะ

เรื่องนี้หนูก็ไม่อยากเชื่อหรอกค่ะ!

คิดดูซิ! คนแก่แถวสะพานขาวบ้านอยู่ตั้งหลายคน อายุมากกว่าคุณยายอีก มีทั้งผู้หญิงและผู้ชาย



แถมแข็งแรงไปไหนมาไหนได้สบาย พวกคนแก่มากๆ



เหล่านั้นยังมางานศพคุณยายที่วัดตั้งหลายคน ทั้งวันสวดและวันเผา

พูดถึงวันสวดกับวันเผา หนูยังเห็นคุณยายมาในงานด้วยละค่ะ!

รับรองว่าหนูไม่ได้ตาฝาด หรือคิดฝันไปเองเพราะความรักและผูกพันกับคุณยายนะคะ แต่หนูเห็นจริงๆ เห็นเกือบทุกคืนเลยก็ว่าได้



ตอนที่พระสี่รูปท่านนั่งสวดมนต์ พวกญาติๆ



นั่งพนมมือกันเต็มศาลา หนูก็นั่งติดกับพ่อแม่แถวหน้า...คุณยายออกจากรูปถ่ายมายิ้มกับหนู แล้วนั่งพนมมือไหว้พระที่กองดอกไม้หน้าโลงของท่านน่ะเอง!

ถ้าคุณยายตายแล้ว จะมานั่งพนมมือไหว้พระได้ยังไงคะ?

หนูเอียงหน้าเข้าไปกระซิบกับแม่ว่าเห็นคุณยายที่หน้าโลงไหมคะ? ไหนแม่บอกว่าท่านตายแล้วไงล่ะ...



หนูเห็นนะ แต่ไม่กลัวหรอก คณยายอาจจะยังไม่ตายจริงๆ ก็ได้



แหม! แม่ดุหนูเลย แต่ทำไมเสียงสั่นๆ ก็ไม่รู้ บอกว่า...อย่าพูดๆ

ในศาลาที่มีแอร์เย็นๆ ได้กลิ่นดอกไม้อวลกรุ่น ทั้งดอกไม้สดและดอกไม้แห้ง เขาห้ามจุดธูปในศาลาตั้งศพ

แต่ทำไมหนูได้กลิ่นธูปกับกลิ่นแป้งน้ำเย็นๆ ที่คุณยายเคยชอบใช้ทาตัว และทาให้หนูด้วย



อ้อ! มีกลิ่นน้ำอบที่เขารดมือคุณยายวันก่อนด้วยนะคะ



ก่อนที่เขาจะใช้ผ้าขาวห่อร่างท่าน แล้วนำใส่โลงที่คับแคบ น่าอุดอู้จัง...คุณยายจะนอนสบายๆ หรือคะ?

แล้วถ้าต้องการพลิกตัวจะทำยังไง? หนูสงสารคุณยายจังเลย!

เฮ้อ...แต่คุณยายก็ออกจากโลงมานั่งฟังพระสวดมนต์จนได้...โล่งอกไปที



พอพระสวดเสร็จ พ่อแม่และญาติๆ เอาของไปถวายพระ



หนูก็ตามไปคุกเข่าอยู่ใกล้ๆ ด้วย เสร็จแล้วหันไปมองอีกทีแต่ไม่เห็นคุณยายแล้ว หนูเลยเงยหน้าขึ้นไปมองที่รูปถ่ายหน้าโลง...

คุณยายกลับเข้าไปอยู่ในรูปตามเดิมแล้วค่ะ แถมยิ้มให้หนูด้วยละ หนูก็ยิ้มให้คุณยายเช่นกัน!



ตอนแรกที่หนูเล่าเรื่องนี้ให้พวกผู้ใหญ่ฟัง



ใครๆ ก็บอกว่าหนูตาฝาดไปเองมั่ง! ช่างคิดช่างฝันมั่ง! แต่หลายคนก็หน้าซีด มองสบตากันลอกแลก

แล้วกลืนน้ำลาย...บางคนหันไปทางโลงศพ แล้วชวนออกจากศาลาลุกลี้ลุกลน อ้างว่าจะรีบออกไปส่งแขกค่ะ



ญาติบางคนพอฟังสวดเสร็จ พระกลับแล้ว ก็ขอตัวกลับบ้านเลย...



หนูถามว่าจะรีบกลับทำไม? น้าแต๋วกับป้าติ่งบอกว่ากลัวค่ะ...ไม่ได้กลัวคุณยายหรอก แต่กลัวสภาพรอบๆ ตัวที่มีแต่ศพและป่าช้าน่ะ!

พอหนูถามว่าคุณน้ากับคุณป้าไม่เห็นคุณยายออกจากรูปถ่ายหน้าโลง มานั่งพนมมือฟังพระสวดจริงๆ หรือคะ?



ทั้งสองคนร้องว้าย...เบาๆ มองหนูเหมือนจะค้อนแล้วรีบจ้ำอ้าวออกไปเลย...



กลัวอะไรนักหนาก็ไม่รู้นะคะ?

หนูเล่าให้พ่อแม่ฟังตอนกลับบ้าน แม่ดุว่าอย่าพูดๆ แต่พ่อบอกว่าหนูอาจจะเห็นจริงๆ ก็ได้

เพราะคุณยายรักหลานคนนี้มาก จิตวิญญาณคงผูกพัน ติดตามมาหาและคุ้มครองหลานรักตลอดไป!



หนูถามพี่ไก่กับพี่หน่อยว่าเห็นคุณยายหรือเปล่าคะ?



แหม! พี่สาวทั้งสองคนหน้าซีดปากสั่นเลย ยิ่งหนูเล่าว่าพอพระสวดเสร็จ คุณยายก็กลับเข้าไปอยู่ในรูปตามเดิมและยิ้มหวานให้หนูด้วย...

พี่ไก่กับพี่หน่อยโผเข้ากอดพ่อแม่ตัวกลม หลับตาปี๋เลยค่ะ

ตอนที่ยังสวดมนต์ 7 วัน พ่อแม่เล่าว่าฝันถึงคุณยายด้วย ท่านมาพูดคุยเป็นปกติเหมือนยังมีชีวิตอยู่ ส่วนหนูไม่ยักฝันถึงท่านเลยสักครั้งเดียว



โธ่! จะต้องฝันให้เสียเวลาทำไมล่ะคะ ในเมื่อคุณยายมานอนกอดหนู



เล่านิทานสนุกๆ ให้หนูฟังจนหลับผล็อยทุกคืน

จนกระทั่งถึงวันเผาคุณยาย!

ผู้คนเยอะแยะถือดอกไม้กระดาษสีเหลืองๆ ขึ้นไปวางใกล้โลงศพคุณยาย...พ่อแม่กับพวกหนูเข้าไปเป็นกลุ่มสุดท้าย



แม่ปิดหน้าร้องไห้ พ่อต้องกอดแม่ไว้ พี่สาวหนูก็กอดแม่



แต่หนูห่วงคุณยายที่ต้องนอนในเตารูปยาวๆ มากกว่า

"ถ้าเขาเผาแล้วคุณยายจะร้อนไหมคะ? อย่าร้อนนะคะคุณยายขา...หนูจะสวดมนต์ให้คุณยายอย่าร้อน แล้วขึ้นสวรรค์เร็วๆ นะคะ ไม่ต้องห่วงหนูหรอกค่ะ"

ไฟลุกโพลงจากด้านใน มีคนมาปิดเตา แม่ดึงหนูถอยห่างออกมา...แม้จะไม่เห็นคุณยายแต่ก็รู้สึกว่าท่านอยู่ใกล้ๆ

หนูนี่เอง...คุณยายคงไม่ร้อนนะคะ! แต่หนูร้อนผ่าวที่นัยน์ตาทั้งสองข้างจนแทบมองอะไรไม่เห็น...ลาก่อนค่ะคุณยายขา...




แหล่งที่มา:


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์