ของเซ่นผี


ของเซ่นผี

"บอย" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากทางสามแพร่ง



ผมเป็นเด็กแถววัดสุคันธาราม หน้า สน.ดุสิตนี่เอง แต่บ้านผมอยู่ค่อนไปทางถนนสวรรคโลก

เพื่อนฝูงเยอะแยะไม่ว่าทางด้านถนนพระราม 5 กับด้านที่ออกไปเจอทางรถไฟ...เขาลือกันว่าแถวนั้นผีดุอย่าบอกใครเชียว!



คือมีทั้งวัดสุคันธาราม ฝั่งตรงข้ามถนนก็วัดอัมพวัน



พอเลี้ยวข้ามสะพานคลองสามเสนก็เจอกับจอมสุดารามเข้าอีก อ้อ...วันนี้ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่าวัดไพรงาม...

คิดดูเถอะครับว่าผีย่อมอยู่ในวัดใช่มั้ย? แหม! วัดตั้งสามวัดอยู่ในย่านเดียวกัน จะไม่ให้ลือกันว่าผีดุยังไงไหว?



เท่านั้นยังไม่พอนะครับ เพราะด้านทางรถไฟก็ผีดุสาหัส



โดยเฉพาะสะพานดำน่ะ...โอ้โห! เป็นชุมทางผีสิงเชียวแหละ พวกผีที่โดนรถไฟชนตาย แขนขาขาดสยอง เลือดสาดกระจายน่าขนหัวลุกซะไม่มี!

ถ้าตายแล้วตายเลยก็ยังดี แต่นี่วิญญาณสิงสู่อยู่ที่รางรถไฟสิครับ สะพานดำนี่ชอบจริงๆ ตกดึกเข้าหน่อยมีคนเห็นกันหลายรายแล้ว



เห็นยังไงล่ะ? อ๋อ...พวกเล่นจับกลุ่มกันที่นั่นน่ะซี



นั่งเล่นชมดาวก็มี ห้อยโหนโจนทะยานก็มี แต่ไม่เหมือนคนทั่วๆ ไป เพราะปรากฏในร่างแขนขาด

ขาขาด คอห้อยร่องแร่ง เลือดโซม ตัวดำเมื่อมแต่ตาแดงก่ำปานเปลวไฟ แถมหัวเราะแหบโหยจนคนที่เห็นร้องจ้าไปตามๆ กัน



วิ่งซีครับ! ที่ขับรถมาก็แทบจะแล่นตกคลองสามเสนแน่ะ



บางคนตกใจสุดขีดถึงกับไปไหนไม่ไหว หมดเรี่ยวหมดแรงนั่งแผละ แทบจะยกมือไหว้ผีไปเลย!

ผมกับเพื่อนๆ ชอบเข้าออกทางด้านถนนสวรรคโลกพอดี เพราะด้านนั้นใกล้บ้านกว่าทางหน้าโรงพักดุสิตนี่ครับ



แปลกมั้ยล่ะ? พวกผมเที่ยวกันจนกลับบ้านดึกๆ ดื่นๆ นับครั้งไม่ถ้วน



ยังไม่เคยเจอผีที่ทางรถไฟหรือสะพานดำสักที แต่มาเจอะเจอเรื่องขนหัวลุกสุดขีด แสนสยองจนหัวใจหวิดล่มสลายเข้าตรงปากทางนั่นเอง!

บางคนบอกตรงนั้นแหละคือ สามแพร่งอาถรรพณ์

ตรงหัวมุมที่จะเลี้ยวซ้ายไปขึ้นสะพานข้ามคลองสามเสนไปทางวัดไพรงาม มีร้านกาแฟเล็กๆ ขายน้ำส้มน้ำหวาน



เหล้าเบียร์และของขบเคี้ยวตามสมควร บางวันเราก็นั่งที่นั่น



แต่บางวันก็ข้ามสะพานไปหาอะไรกินอร่อยๆ ที่ราชวัตร

บางวันก็ข้ามฟากไปหาอะไรกินที่ปากซอยเปลี่ยวใจ อยู่ตรงข้ามวัดไพรงาม ด้านถนนนครไชยศรี...

อย่าเพิ่งสงสัยว่าวัดนี้อยู่ที่ไหนแน่? เพราะเข้าได้สองทางน่ะครับ ไม่ใช่อะไรหรอก



คืนหนึ่งก็เจอดีเข้าเต็มเปา!



ตรงหัวมุมใกล้ๆ กับร้านชำบ้านผมน่ะแหละ มีคนเอากระทงใส่อาหารเซ่นผีมาวางไว้ที่โคนเสาไฟฟ้าเป็นประจำ

บางทีก็กระทงเดียว บางทีก็ 2-3 กระทง เป็นพวกข้าวแกงมั่ง ขนมมั่ง บางวันเห็นขนมผัดไทยก็มี ขนมเข่งเล็กๆ ก็มี จุดธูปไว้ดอกหนึ่งด้วย



อ๋อ! ปักไว้ที่กลางกระทงน่ะซีครับ ถ้าเป็นขนมเข่งก็ปักใส่ขนมเลย...



ว่าแต่เขามาเซ่นผีอะไรก็ไม่รู้ซีเนาะ?

พวกเราไม่ได้สนใจหรอกครับ เลยไม่ได้ถามใคร นอกจากมีคนพูดลอยๆ ว่าเขาเอามาเซ่นผีทางสามแพร่งมั้ง? หรือไม่ก็เซ่นผีไม่มีญาติ...พูดแล้วก็แล้วกัน!

น่าแปลกตรงที่เรายังไม่เคยเห็นใครเอาของกินใส่กระทงมาเซ่นผีสักที พอเห็นเข้าธูปก็ดับแล้วเหลือแต่ก้าน



ผ่านวันไหนก็เจอกระทงใหม่ๆ แทบทุกครั้ง บางทีตอนเย็นๆ



เห็นอาหารแห้งไปหมด...สงสัยว่าหมาแถวนั้นทำไมไม่แตะต้องล่ะ?

วันเกิดเหตุผมกับเพื่อนชื่อไอ้ตั๋นไปติดลมอยู่กับเพื่อนที่หน้าวัดไพรงาม ด้านถนนนครไชยศรี

จนสองยามกว่าก็เดินไปส่งเพื่อนในวัดก่อน หมาเห่าขรมเชียว...แล้วผมกับไอ้ตั๋นก็เลี้ยวซ้ายทะลุออกทางด้านถนนสวรรคโลก



เดินคุยกันเสียงดังหน่อยตามประสาคนเมาว่าทำไมปีนี้มันหนาวนักก็ไม่รู้



แหม! ขนาดเมาๆ ยังหนาวยะเยือกเชียวละครับ!

พอข้ามสะพานก็ขนลุกซ่า คงจะเพราะหนาวน่ะแหละ ลมพัดวูบ หมาเจ้ากรรมหอนโจ๋วมาจากในวัด เออ....เมื่อตะกี้เห่า มาตอนนี้ดันหอนซะแล้ว

จู่ๆ ก็รู้สึกเย็นสันหลังวาบๆ ยังไงพิกลแฮะ...หรือจะโดนผีหลอก? ผมกลืนน้ำลาย ชักจะส่างเมา ไอ้ตั๋นดันโพล่งขึ้นว่า...ไอ้บอย มึงดูอะไรบนทางรถไฟซีวะ!



ผมหันขวับ แต่ไม่เห็นอะไรหรอกครับ เพื่อนหัวเราะก๊าก



ผมด่าขรมเลย...ไอ้ตั๋นยิ่งหัวเราะชอบใจ...ทั้งถนนดูเงียบเหงาเพราะมีเราแค่สองคนเท่านั้น

จนกระทั่งถึงปากทางสามแพร่งที่เราจะเลี้ยวเข้าบ้านในถนนสุคันธารามพอดี

เดินผ่านเสาไฟฟ้ามุมถนนที่มีคนชอบวางกระทงเซ่นผี เห็นขนมเข่งแห้งๆ กับขนมผักกาดอย่างละกระทง



แต่มีธูปปักอยู่ที่ขนมเข่งดอกเดียว เหลือแต่ก้านแดงๆ



แล้ว...เราเดินผ่านไปก็ได้กลิ่นธูปลอยกรุ่นมาเข้าจมูก ไอ้ตั๋นถามว่ากลิ่นธูปมาจากไหนวะ?

ทันใดนั้น เราก็หันขวับไปมองพร้อมๆ กัน

นรกเป็นพยาน! ร่างของชายผู้หนึ่งกำลังนั่งยองๆ กินเครื่องเซ่นอย่างหิวโหย ทั้งๆ ที่ตอนเราเดินผ่านมาไม่มีใครสักคน...



แล้วร่างนั้นก็ชะงักกึก ค่อยๆ หันมามอง เห็นใบหน้าดำเกรียม



ผมกระเซิง ดวงตาแดงก่ำราวแสงไฟจ้องเขม็ง

"ผีหลอกโว้ย" ไอ้ตั๋นตะโกนลั่น ขนาดผมหูอื้อตาลายยังสะดุ้งโหยง โจนพรวดไม่คิดชีวิต ไอ้ตั๋นตะกายมาติดๆ ร้องแต่ว่า "รอด้วย! รอกูด้วย..."

ถึงแม้ว่าเหตุการณ์สยองขวัญจะผ่านมาหลายปีแล้ว แต่นึกถึงแล้วยังขนลุกอยู่เลยครับ!




แหล่งที่มา:


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์