เมื่อเจตภูตมาเยือน


เมื่อเจตภูตมาเยือน

"วีรยุทธ์" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกเมื่อพบเจตภูตก่อนขึ้นปีใหม่



เชื่อกันว่ามนุษย์ทุกคนล้วนแต่มี "เจตภูต" ประจำตัวกันทั้งนั้น!

ตั้งแต่เกิดมาจากครรภ์มารดาก็มีเจตภูตติดตัวมาแล้ว

เจตภูตจะสิงสู่อยู่ในร่างกาย จิตใจ รู้สึกทุกข์ สุข เบิกบาน หรือหดหู่เศร้าหมอง ไม่ว่าจะมีสาเหตุหรือไม่ก็ตาม ไปกับสภาพแวดล้อมที่ก่อให้เกิดอารมณ์นั้นๆ



เมื่อคนเราสิ้นลมหายใจ



เจตภูตประจำตัวก็จะกลายเป็นวิญญาณที่ล่องลอยออกจากร่างไปตามวิบากกรรม หรือไปแสวงหาแดนเกิดต่อไป

ยิ่งกว่านั้นเจตภูตยังมีพลังเร้นลับ

ไม่เคยหลับนอนเหมือนร่างกาย แม้ว่าเจ้าตัวจะหลับไปแล้ว แต่เจตภูตจะออกจากร่างล่องลอยไปสู่ที่ต่างๆ หรือไปหาคนที่มีจิตใจผูกพันอยู่



ไม่ว่าคนรักใคร่หรือคนเกลียดชัง...ยิ่งรักมากเกลียดมาก



หรือคิดถึงมาก แม้ว่าจะเป็นจิตใต้สำนึก เจตภูตก็จะไปหา

มีทั้งเจตภูตของเราไปหาผู้อื่น และมีทั้งเจตภูตของผู้อื่นมาหาเรา

สิ่งนี้เองที่เราเรียกว่า ความฝัน!

เมื่อตื่นขึ้นมาก็จำได้แม่นยำบ้าง ครึ่งๆ กลางๆ บ้าง จนถึงกับจำไม่ได้เลยก็มี บางครั้งก็เข้าใจได้ว่าตัวเองคิดถึงก่อนจะหลับ



แต่บางคราวก็ไม่ได้คิดหรือนึกถึงเลย แต่ฝันถึงเป็นตุเป็นตะ



ส่วนมากก็มักจะลืมๆ ไป ไม่ค่อยถือเป็นเรื่องจริงเรื่องจังอะไรนัก

หลายๆ คนเชื่อถือมาแต่โบราณว่าให้ไปแก้ฝันที่นั่นที่นี่ หรือกับคนนั้นคนนี้ เพื่อจุดประสงค์ให้

"ฝันร้ายกลายเป็นดี" หรือไม่ก็ให้ฝันดีต่างๆนั้นกลายเป็นความจริงขึ้นมาจนได้



หลายๆ คนก็ไม่เชื่อถือเลย ไม่ว่าจะเป็นความฝันของตัวเองหรือของผู้อื่น



โดยสรุปง่ายๆ ว่า "กินมากก็ฝันมาก" จนถึง "จะไปเอานิยมนิยายอะไรกับความฝัน"

วันนี้ผมมีเรื่องน่าขนหัวลุกของเจตภูตมาเล่าสู่กันฟัง

เหตุเกิดขึ้นเมื่อราว 4-5 ปีมาแล้ว ขณะนั้นเป็นวันใกล้จะสิ้นปี มีงานรื่นเริงส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่ ทั้งตามบริษัทห้างร้าน



ทั้งในหมู่ญาติสนิทมิตรสหาย คนที่มีเพื่อนฝูงค่อนข้างมากก็ไปสนุกสนาน



เฮฮากันแทบไม่ได้พักผ่อน แต่ส่วนมากก็เต็มอกเต็มใจ เพราะถือว่าเป็นโอกาสที่น่าเฉลิมฉลองกัน หนึ่งปีก็มีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น

คนที่สนิทสนมรักใคร่กันก็เปิดอกเล่าสู่กันฟังว่า เมื่อขึ้นปีใหม่จะทำอะไรบ้าง? ที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเองและผู้อื่น



จะเลิกละสิ่งใดที่ถือว่าไม่ดีงาม เช่น เลิกเล่นการพนัน เลิกดื่มสุรา



แม้แต่การเที่ยวเตร่ก็ควรลดน้อยลง เพื่อถนอมสุขภาพตัวเองและประหยัดเงินทองที่หามาได้ด้วยความยากลำบาก

ถือคติว่า...ประหยัดเงิน 100 บาทเท่ากับมีเงินเพิ่มขึ้น 100 บาทเป็นต้น!

ถึงแม้ว่าส่วนใหญ่มักจะทำไม่ได้ครบถ้วน แต่อย่างน้อยก็ถือว่ามีเจตนาดี ตั้งใจดี...เมื่อถึงปีใหม่ปีต่อไปก็ตั้งความหวังดีๆ



เอาไว้อีก อย่างน้อยก็ยังดีกว่าไม่ได้คาดหวังถึงสิ่งดีๆ สำหรับตัวเองเป็นแน่



ก่อนจะถึงปีใหม่เพียงวันเดียว ผมก็ได้ประสบกับเจตภูตน่าขนหัวลุกเข้าอย่างจังๆ

คืนนั้นผมไปงานเลี้ยงที่บ้านเพื่อนแถวเพลินจิต กลับมานอนคนเดียวราวสองยาม เพราะลูกเมียไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ที่ต่างจังหวัด...

กำลังเคลิ้มๆก็พอดีมองเห็นภาพนั้นปรากฏขึ้นที่หน้าต่างมุ้งลวดข้างเตียง



ท่ามกลางความเย็นยะเยือกของฤดูหนาว



ร่างของชายผู้หนึ่งเห็นเพียงครึ่งตัวเป็นรูปมืดสลัว แต่สัญชาตญาณบอกให้รู้ว่าเขากำลังมองมาที่ผม ลักษณะเป็นมิตรมากกว่าศัตรู

ได้ยินเสียงคล้ายลมพัดวู่หวิว ไม่แน่ว่าเขาพูดออกมาตามปกติ หรือผมได้ยินจากความรู้สึก แต่ก็จับใจความได้ชัดเจน



"ปีใหม่อีกแล้ว...คิดจะทำอะไรต่อไปล่ะ?"



ตอนนั้นผมคิดว่าคงจะเป็นวิญญาณพเนจรที่ผ่านมาพอดี แต่มีเสียงหัวเราะดังแว่วขึ้นก่อน...ไม่ใช่ผีสางหรอก อย่ากลัวไปเลย!

อ๋อ...เจตภูตของใครที่มาเยี่ยมเยือนเพราะความคิดถึง? ญาติมิตรคนไหนกันแน่ เพราะสุ้มเสียงที่มากระทบโสตสัมผัสก็ช่างคุ้นหู


เหมือนกับที่ได้ยินเพื่อนฝูงพูดคุยกันสนุกเฮฮาเมื่อตอนหัวค่ำนี่เอง



"เวลาผ่านไปเร็วเหลือเกินนะ เดี๋ยวปี...เดี๋ยวปี...ชีวิตคนเราก็หดสั้นลงทุกที เหมือนฟ้าแลบแปล๊บเดียว!

เหมือนน้ำค้างที่โดดแดดเผา รังแต่จะระเหยหายเหือดแห้งไปในชั่วพริบตา"

ผมนิ่งอึ้ง ความรู้สึกคล้ายเคลิบเคลิ้ม ถูกดึงดูดไปตามถ้อยคำที่ฟังเหมือนจะปรารภหรือบอกเล่าสู่กัน มากกว่าจะเป็นคำถามที่ต้องการคำตอบอย่างจริงๆ จังๆ



"ว่าไง...คนเราควรจะทำยังไงดีกับชีวิตที่เหลืออยู่?



ไม่ช้าก็หมดลมหายใจ อยากทำอะไรก็ทำไม่ได้แล้ว"

"หาความสุขให้ชีวิตกระมัง?" ผมนึก "ชีวิตนี้สั้นนัก อย่ามัวไปวิตกกังวลกับปัญหาต่างๆ ให้เสียเวลาเลย...

เขาว่าชีวิตเป็นสิ่งมหัศจรรย์! เมื่อเรายังมีลมหายใจอยู่ก็ควรใช้ชีวิตให้คุ้มค่ากับที่เกิดมาทั้งที"



สรรพสิ่งเงียบเชียบและเยือกเย็น



ร่างที่ปรากฏอยู่เหนือขอบหน้าต่างเพียงครึ่งเดียวผงกศีรษะช้าๆ ผมเริ่มจ้องดูอย่างเอาจริงเอาจัง นึกว่า...ใครนะ? มาจากไหนกัน?

ทันใดนั้น แสงสว่างเรืองรองก็ปรากฏขึ้นที่ใบหน้าช้าๆ จนมองเห็นได้ชัดเจนขึ้นทุกที...ผมนอนตัวแข็งทื่อ


หัวใจคล้ายจะหยุดเต้นด้วยความหวาดกลัว



เมื่อมองเห็นภาพนั้นได้เต็มตา

ถึงผมไม่บอกเชื่อว่าคุณๆ ต้องเอาได้แล้วว่า ภาพนั้นเป็นใบหน้าของผมเอง! เจตภูตของผมแท้ๆ ที่มาเยือนตัวเอง...ครั้งเดียวก็ขนหัวลุกเกินพอแล้วครับ!




แหล่งที่มา:


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์