ปิศาจทางหลวง


ปิศาจทางหลวง

"น้อยโหน่ง" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกในคืนสยองขวัญ



ดิฉันกับน้องสาวต้องเดินทางไปหัวหิน เพื่อนของน้องกำลังจะแต่งงานที่นั่น...

เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อสามปีที่แล้ว แต่ดิฉันยังจำได้แจ่มชัดเหมือนมันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน



วันนั้นเป็นวันศุกร์ เราจองโรงแรมไว้แล้ว พอเลิกงานตอนหกโมงเย็น



ดิฉันก็ไปรับน้องสาวที่บ้าน เธอเพิ่งเรียนจบมหาวิทยาลัย ยังไม่ได้ทำงาน อยู่กับบ้านช่วยแม่ทำขนมเปี๊ยะขายแก้เหงา รายได้ดีมากเสียด้วยซิคะ ไม่น่าเชื่อเลย

กว่าจะได้ออกเดินทางก็เกือบทุ่มแน่ะค่ะ แม่เป็นห่วงมาก บอกว่าไปพรุ่งนี้เช้าไม่ได้รึไง? งานแต่งมีตอนเย็นวันเสาร์ ไม่ต้องรีบร้อนก็ได้



คืนนั้นท้องฟ้าแดงฉาน อุตุฯ ประกาศว่าพายุเข้าค่ะ!



แม่กังวลใหญ่เลย แต่ดิฉันกับน้องเสียดายค่าโรงแรม อีกอย่างหนึ่ง ถ้าเดินทางพรุ่งนี้รถอาจติดก็ได้

ไม่เอาละ...ไปวันนี้เลยแล้วกัน ดิฉันบอกแม่ว่าไม่ต้องห่วง จะโทร.มาหาตลอดเลย! แหม...ไปกันสองคนจะกลัวอะไร



ตอนอยู่อเมริกา ดิฉันต้องขับรถตอนกลางคืนบ่อยออก



เกือบทุกคืนแน่ะค่ะ เพราะมหาวิทยาลัยอยู่ริเวอร์ไซด์ บ้านอยู่เรดแลนด์ ห่างกันราวๆ กรุงเทพฯ-อยุธยา

ยังขับได้...ดิฉันชอบขับรถตอนกลางคืนค่ะ มันสบายดีจริงๆ

เป็นอันว่าเราดื้อรั้น ขัดใจแม่จนได้! เป็นลูกก็อย่างนี้ละค่ะ ไม่รู้หรอกว่าแม่เป็นห่วงแค่ไหน ใจเรานึกสนุกอย่างเดียวแหละ!



เราออกจากบ้านอีกสิบห้านาทีจะหนึ่งทุ่ม รถติดแฮะ!



กว่าจะหลุดพระรามสอง แสมดำมาได้...ต่อจากนั้นก็โล่งตลอด ดิฉันแวะเติมน้ำมันแล้วเราก็ซื้อฮอตดอกกับกาแฟแก้วโตมากินระหว่างขับรถ

แม่โทร.เข้ามือถือดิฉัน บอกว่าเมื่อกี้นี้เอง นาฬิกาที่แขวนเหนือประตูห้องนอนแม่ตกลงมากลิ้งข้างล่าง แล้วอีกสิบนาทีต่อมา


กระถางดอกไม้ตั้งโต๊ะที่น้องสาวประดิดประดอยให้แม่กับมือก็ตกแตก



แม่ใจหายวูบ...เป็นห่วงเราที่สุด!

ดิฉันบอกแม่ว่าไม่เป็นไร ฝนฟ้าแถวนี้ก็ยังไม่ตก แม่ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก

แม่ทำอะไรไม่ได้ นอกจากนั่งวิตกกังวลอยู่ที่บ้าน แต่ดิฉันกับน้องน่ะรู้นะว่าแม่ต้องสวดมนต์ให้เราตลอดเลย!



เกือบชั่วโมงต่อจากนั้น เราก็มาถึงแม่กลอง!



ตอนนี้ละค่ะฟ้าแลบแปลบปลาบ เห็นเป็นแสงสว่างจัดจ้า เลื้อยเป็นงูยักษ์พาดผ่านท้องฟ้า

แล้วฟ้าก็คำรามจนแผ่นดินสะเทือน ลมพายุพัดอู้...เราดูจากต้นไม้สองข้างทางเอนลู่แทบถอนรากถอนโคน



นาทีถัดมา ฝนเม็ดโตๆ ก็พรูลงมาบนหลังคาและกระจกรถ



ดิฉันนึกว่าลูกเห็บซะอีกแน่ะ!

ฝนเทลงมาอย่างหนักในพริบตาต่อมา หนักมากจนเหมือนผ้าม่านหนาๆ ดิฉันเริ่มใจไม่ดี

เห็นจะต้องจอดข้างทางแล้วละซิ เพราะน้ำฝนเทใส่กระจกหน้ารถราวกับน้ำตกไนแองการ่าไม่มีผิด



พอฝนซาลงดิฉันก็ค่อยๆ ประคองรถออก เกิดความหวาดระแวงไปร้อยแปด



ใจก็คิดถึงเรื่องนาฬิกาตก กับกระถางแตกในห้องแม่...มันเป็นลางสังหรณ์หรือเปล่านะ? เราไม่น่าดื้อเลย...คิดถึงแม่จัง!

ดิฉันระวังตัวเต็มที่ ไม่ขับเร็วเกินไป บนถนนไม่มีรถคันอื่นเลยค่ะ แปลกมาก! ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ ก็เหมือนกัน ถนนโล่ง ว่างเปล่าเหมือนแดนสนธยา


พื้นถนนเปียกโชก สะท้อนแสงไฟจากรถเราและแสงจากท้องฟ้า



ดูประหลาดพิกล...

ทันใดนั้นเอง มอเตอร์ไซค์คันหนึ่งไม่รู้โผล่มาจากไหน มันพุ่งข้ามคูกลางถนน เหาะลอยลิ่ว

เหมือนเทคนิคพิเศษในหนังสยองขวัญฮอลลีวู้ด เสียงน้องร้องวี้ด...ตามด้วยเสียงโลหะถูกบดขยี้ มอเตอร์ไซค์กระแทกพื้นจนบิดเบี้ยวในพริบตานั้นเอง!



คุณพระช่วย! คนขับกระเด็นสูงมากจนเหลือเชื่อ



แล้วก็หล่นโครมลงบนฝากระโปรงของรถเรา...ทั้งๆ ที่ดิฉันยังขับอยู่ราวหกสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง

รถเราปัดอย่างแรง ทำท่าจะพลิกคว่ำ เราสองคนพี่น้องร้องคำว่าแม่จ๋า...ออกมาพร้อมๆ กันอย่างไม่รู้ตัว!



...ผู้ชายที่ขับมอเตอร์ไซค์ นอนคว่ำกางแขนกางขาอยู่บนฝากระโปรง



ใบหน้าเขาหันมาทางดิฉัน มันอยู่เกือบชิดกระจก...อะไรกัน? เขาสบตากับดิฉันตรงๆ ใบหน้าเปรอะเลือดแดงฉานแสยะยิ้มน่าสยดสยอง

ทุกอย่างที่เห็นมันแค่พริบตาเดียว ดิฉันรู้สึกเหมือนถูกเหวี่ยงออกจากโลกมนุษย์ แล้วมันก็เงียบกริบ...มันช้าเหมือนสโลว์โมชั่น! รถพลิกเกือบหงาย


ผู้ชายอาบเลือดเกาะติดฝากระโปรง นั่น...เขากำลังอ้าปากแดงฉานหัวเราะร่า!



เสียงสวดมนต์ของแม่ดังขึ้นมาอย่างฉับพลัน เหมือนแม่มานั่งอยู่เบาะหลัง...แต่น้ำเสียงสงบมั่นคง...วินาทีนั้น ผู้ชายที่ดิฉันแน่ใจแล้วว่าเป็นผีก็หายวับไป!

รถไม่คว่ำ มันกลับมาตั้งหลักบนถนนอย่างเรียบร้อย ดิฉันหอบหายใจ แล้วเราสองคนพี่น้องก็หันมามองหน้ากัน



"เห็นอะไรมั้ย?" ดิฉันถาม น้องสาวพยักหน้าด้วยท่าที่สติยังกระจัดกระจาย



เราพยายามตั้งสติ สตาร์ตรถแล้วมองไปรอบๆ ไม่มีมอเตอร์ไซค์ยับเยินอยู่บนพื้นถนนให้เห็นเลย!

คืนนั้น เราถึงที่พักอย่างปลอดภัย แล้วรีบโทร.บอกแม่...



แม่บอกว่าสวดมนต์ให้ตลอด ตอนนี้แม่โล่งใจแล้ว...



เรายังไม่ได้เล่าเรื่องนี้จนกลับถึงบ้านในอีกสองวันต่อมา...ทันทีที่พบหน้า เราสามคนแม่ลูกกอดกันแน่น ความรักของแม่ศักดิ์สิทธิ์จริงๆ ค่ะ!




แหล่งที่มา:


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์