ผี...เพื่อนแท้ !!!
ณิกษา เล่าเรื่องวิญญาณเพื่อนมาช่วยให้รอดตาย
เพื่อนของดิฉันถูกรถไฟชนตายที่ต่างจังหวัดเมื่อ 3 ปีก่อน มันเป็นอุบัติเหตุที่น่าสลดใจมากๆ และเหตุการณ์นั้นเกือบเกิดขึ้นกับดิฉันเมื่อเร็วๆ นี้เอง แต่ดิฉันรอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด
ดิฉันมั่นใจว่าเพื่อนที่ตายมาช่วยให้พ้นวินาทีมรณะค่ะ!
กฤต-เป็นเพื่อนผู้ชายที่เรียนหนังสือกับดิฉันมาตั้งแต่ ป.1 จนจบชั้นมัธยมปลาย เราเรียนโรงเรียนสาธิตค่ะ ความรู้สึกจึงผูกพันแบบคนที่โตมาด้วยกัน เราสนิทสนมกันมากตอนเรียนมัธยม พอเรียนจบเราต่างคนก็ต้องแยกย้ายกันไป
ดิฉันสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ แต่พ่อแม่ส่งไปเรียนต่อที่อเมริกา ขณะที่กฤตเรียนมหาวิทยาลัยในเมืองไทย รวมเวลาแล้วเราต่างห่างเหินกันคนละซีกโลกตั้งเกือบ 5 ปีแน่ะค่ะ
ตลอดเวลานั้นเราติดต่อกันแค่ไม่กี่ครั้ง
เขียนจดหมายถึงกันแค่ 2-3 ฉบับ แต่ใจเรายังไม่ลืมกัน
หลังเรียนจบดิฉันกลับมาทำงานที่เมืองไทย กฤตมีธุรกิจส่วนตัวของครอบครัว เกี่ยวกับการทำเฟอร์นิเจอร์ เครื่องตกแต่งบ้าน
เราต่างคนต่างแต่งงานมีครอบครัว เมื่อมีภาระเราก็ยิ่งไม่ได้ติดต่อกัน ทั้งที่อยู่ห่างกันแค่เอื้อม คนเราก็เป็นแบบนี้น่ะค่ะจริงไหม? เพื่อนเก่าๆ จะจากกันไปมีชีวิตของตน แต่ละวันก็มัวยุ่งกับลูกกับเมีย หรือสามี วันคืนผ่านไปเป็นเดือนเป็นปี...และก็หลายๆ ปี มันเหมือนเราลืมกันสนิท
แต่ถ้าเกิดมาเจอกันเราจะกระดี๊กระด๊า...ความรู้สึกรักและผูกพันยังเหมือนเดิมทุกอย่าง...
กฤตกับดิฉันพบกันนานๆ ครั้งในงานเลี้ยงรุ่น ดิฉันไม่ได้ไปทุกปีหรอกค่ะ กฤตเองก็เช่นกัน ฉะนั้นเราก็ไม่ได้พบกันทุกปีหรอก แต่เมื่อ 3 ปีก่อนเราไปงานเลี้ยงรุ่นกันทั้งคู่ และนั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่เราได้พบกัน!
ดิฉันขับรถไปส่งกฤตที่บ้านของเขาในคืนนั้น...
ระหว่างทางเราคุยกัน กฤตห่วงว่าดิฉันทำงานหนัก กลับบ้านก็ดึก...บ้านไกลอยู่ถึงพุทธมณฑลสาย 4 โน่น บ้านสามีของดิฉันน่ะค่ะ
ที่จริงบ้านดิฉันอยู่ลาดพร้าว ถนนสายเดียวกับบ้านของกฤต เขาห่วงว่าดิฉันจะง่วงและหลับใน อีกอย่างหนึ่งดิฉันชอบเปิดวิทยุในรถเสียงดังๆ กฤตบอกว่าไม่ดีเลย เขาดุเพราะห่วงใยดิฉันมากนั่นเอง
แต่แล้ว...เขากลับต้องเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุร้ายแรงหลังจากคืนนั้นไม่กี่วัน!
กฤตไปทำธุระที่หัวหิน เขาทำงานให้กับโรงแรมที่เปิดใหม่แห่งหนึ่ง ต้องข้ามทางรถไฟบริเวณใกล้ๆ วัดลั่นทม ทางรถไฟแห่งนี้มีอุบัติเหตุบ่อย เพราะมีต้นไม้ข้างทางบังสายตา คนขับรถมักไม่เห็นว่ารถไฟจะมาเมื่อไหร่
วันที่เกิดเหตุสัญญาณไฟเสียค่ะ
รถของกฤตอยู่บนรางรถไฟพอดีกับที่หัวรถจักรเสยเข้ามา!
3 ปีผ่านไป ดิฉันเผอิญต้องไปสัมมนาที่นั่น และต้องขับรถผ่านทางรถไฟนี้
ตอนนั้นเป็นเวลากลางวัน แดดเปรี้ยง ดิฉันง่วงนอนและเปิดเทปเพลงโปรดดังลั่น หวังจะปลุกอารมณ์ให้ตื่นตัว เปิดไม่เปิดเปล่า ยังร้องตามไปด้วย เรียกว่าแหกปากร้องคนเดียว...มันส์ในอารมณ์ซะเหลือเกินล่ะ
รถของดิฉันแล่นไปอยู่บนรางรถไฟอย่างไม่รู้ตัว และไม่ได้ยินเสียงอะไรทั้งนั้น นอกจากเสียงเพลง!
ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงกฤตดังอยู่ใกล้ๆ "ระวัง..รถไฟมา!"
โดยสัญชาตญาณดิฉันหันซ้ายหันขวา...ไหน? ไม่เห็นมีรถไฟ!
และแล้วดิฉันก็ต้องตกตะลึงจนหัวชา...หัวรถจักรอยู่ห่างดิฉันไม่เท่าไหร่เลย มันต้องชนดิฉันแน่ๆ นี่ละ...ฉากความตายของเราเอง
เวลาที่อยู่ในนาทีวิกฤตทุกอย่างเชื่องช้าเหมือนหนังสโลว์โมชั่น มันอาจจะแค่เสี้ยววินาที แต่ดิฉันรู้สึกเหมือนนิรันดร์กาล!
ขณะกำลังตกตะลึง ทำอะไรไม่ถูก ดิฉันรู้สึกว่ามีใครกระทืบบนหลังเท้าข้างที่เหยียบคันเร่ง...ทันใดนั้นรถพุ่งปราดไปข้างหน้าอย่างแรงเหมือนลูกธนู ดิฉันรอดตายอย่างหวุดหวิด...คุณพระช่วย! กฤตนั่งอยู่บนเบาะที่นั่งข้างคนขับนี่เอง!!
ใบหน้าของกฤตดูกระจ่างใส เขายิ้มให้ดิฉันก่อนจะเลือนหายไป...
ดิฉันเบรกรถ หมดแรงที่จะขับต่อ ต้องรวบรวมสติอีกพักใหญ่จึงจะค่อยๆ ประคองรถให้ไปถึงโรงแรมที่พักได้...ตลอดเวลาก็คิดทบทวนว่ามันเกิดอะไรขึ้น?
กฤตตายตรงนี้! เขาถูกรถไฟชนตายตรงที่ดิฉันเพิ่งผ่านหยกๆ และดิฉันก็เกือบตายแบบเดียวกับเขานั่นเอง
นี่เป็นเพราะความตกใจ ทำให้ดิฉันเห็นภาพและได้ยินเสียงเขาหรือคะ?
ดิฉันได้คำตอบอีกไม่กี่อึดใจต่อมา...นั่นคือ ที่หลังเท้าของดิฉันเจ็บมากๆ จริงสินะ! เมื่อตะกี้เขากระทืบคันเร่ง โดยเหยียบลงบนหลังเท้าของดิฉันแรงๆ
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ! วันรุ่งขึ้นหลังเท้าดิฉันเขียวช้ำเป็นรอยใหญ่..มันเกิดขึ้นได้ยังไงคะ? หรือนี่คือร่องรอยที่กฤตฝากไว้จริงๆ
แหล่งที่มา:
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!