สยองฉลองปีใหม่
แนะนำตัวก่อนนะค๊ะ ชื่อแน็ทค่ะ ทำงานบริษัท์ค่ะ
เข้าเรื่องดีกว่าค่ะ โดยปกตินะค๊ะทางบริษัทฯ ของหนูจะมีการจัดงานสังสรรค์ปีใหม่ โดยการพาพนักงานทั้งหมดของบริษัทฯ และ บริษัทฯ ในเครือไปเที่ยวต่างจังหวัดทุกปี (แต่ในตอนนี้ก็ไม่มีแล้วค่ะเพราะเศรษฐกิจไม่ดี ) เรื่องก้อมีอยู่ว่าในปี 2546 ปลายปีน่ะค่ะ ทางบริษัทได้จัดให้พนักงานไปเที่ยวที่จังหจัดเพชรบูรณ์ ที่ภู...... กับ เขา...... โดยคืนแรกเราจะพักกันที่ ภู......ก่อน และก่อนเดินทางไปจริงเราก็มีการส่งเจ้าหน้าที่ไป SERWAY สถานที่จริง โดยหนูก็ได้ร่วมเดินทางไป SERWAY พร้อมเจ้าหน้าที่ท่านอื่นๆของบริษัทฯ
โดยพักอยู่ที่ละ 1 คืนพร้อมไกด์ของบริษัท ทัวร์แห่งหนึ่ง ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ณ ตอนนั้นเกิดตอนเราเดินไปพักจริงๆกันในเดือน ธันวาคม (หนาวมากขอบอก) โดยเราเดินทางไปกันทั้งหมดก็เกือบ 200 คนค่ะ ก็จะแบ่งกันพักตามบ้านพักต่างๆที่บริษัท ฯ ทัวร์จัดให้ โดยจะมีทหารแนะนำว่าทางสถานที่พัก (ภู......จะเป็นประมาณค่ายทหารอ่ะค่ะ) แห่งนี้จะเปิดไฟฟ้าให้ใช้ได้ถึงประมาณ 4 ทุ่ม ก็จะปิดทั้งหมดขอให้ทุกท่านทำกิจกรรมสว่นตัวให้เรียบร้อย เพราะทางสถานที่จะไม่มีเจ้าหน้าที่มาดูแลให้ เน้นตรงนี้นะ และขอให้พักผ่อนก่อนเที่ยงคืน กล่าวก็คือพอทางเจ้าหน้าที่ปิดให้บริการกระแสไฟฟ้าก็ขอให้ทุกท่านนอนนั่นแหละค่ะ
เรื่องก็จะเกิดตอนนี้แหละค่ะ พวกพนักงานใหญ่ก็จะพักผ่อนกัน
แต่ก็มีบางส่วนที่นั่งดื่มกันต่อกับพวกพนักงานชายรวมทั้งหนูด้วย ก็ดื่มกันไปซักประมาณ 5 ทุ่ม ถึง เที่ยงคืนเห็นจะได้ ก็จะมีคนเดินเข้ามาแต่ว่าหนูหันหลังให้เค้า (แต่ว่าแฟนหนูมาบอกภายหลังว่า 4 คน แต่เพื่อนๆบอก 3 คน) เค้าทั้งหมดนั่นแหละแต่งกายชุดทหารแต่มียศติดเยอะมากกกกกกก ประมาณนายพลนั่นแหละค่ะ ทีนี้เค้าก็ถามว่ายังไม่นอนกันหรือ เจ้าหน้าบอกแล้วไม่ใช่รึว่าให้พักผ่อนกันพรุ่งนี้จะเดินทางไปเขา......แต่เช้านะ พวกผู้ชายก็บอก ครับๆๆๆ ซักพักจะเลิกแล้ว เค้า้ทั้งหมดก็เดินจากไป แต่มันมืดมากตอนที่พวกเค้าไปนั้นหนูก็หันหน้ามาพอดี แต่ก็ไม่ทันเห็นนะเพราะรอบๆบ้านมันมืดมากด้วย แต่พวกผู้ชายก็กินกันต่อจนประมาณ 1 ชั่วโมงผ่านไป เค้าทั้งหมดก็เดินกลับมาอีก
ทีนี้หนูเห็นเค้าค่ะ หน้าตาก็เป็นคนธรรมดาแบบเรานี่แหละ ไม่มีอะไรผิดปกติซักหน่อย
เค้าก็ถามคำถามเดิม คือทำไมยังไม่นอน แต่เค้าก็บอกเสียงดุๆ นะ และบอกด้วยว่าไม่ให้ตีกลอง ร้องเพลงเพราะมันเสียง ดังรบกวนคนอื่นเค้า ให้เลิกเล่นได้แล้ว ทีนี้ตามประสาวัยรุ่นนะ มันก็ออกอาการเซ็งๆ ก็จะบ่นๆ กัน แต่ก็ไม่ยอมนอน พอถึงประมาณตี 2 ได้มั้งค๊ะ หนูก็บอกให้พวกเค้าเลิกกินได้แล้ว ก็กำลังจะเลิกพวกเค้าก็มาอีกเป็นรอบที่ 3 ค่ะ คราวนี้เค้าท่าทางโกรธๆ งัยก็ไม่รู้ พูดเสียงดังมาก ว่า "บอกอะไรทำมัยไม่เชื่อฟังกันบ้างเลย อยากลองดีหรือ" พวกหนูก็เงียบ แต่มีเพื่อนคนนึงเมาอ่ะค่ะ ประมาณว่าสวนกลับไปเลย ถือว่ามียศใหญ่โตมั้งเลยมาว่าเอา ทีหลังถ้ามีแบบนี้อีกก็ไม่มาแล้ว จะมาสนุกสนานแต่ก็โดนว่าให้เลิก หนูก็ตอบไปว่า เราบอกแล้วตั้งแต่ก่อนมาว่าเค้าให้อยู่ได้ไม่เกินสี่ทุ่มนะ ต้องนอน ถ้าไม่นอนก็ห้ามเสียงดัง ทุกคนเลยเงียบและเริ่มทยอยกันไปนอน
ทีนี้มันดึกมากหนูก็เลยนอนที่บ้านหลังนั้นเพราะมันนอนเป็นสิบคนค่ะ
ซักประมาณตี 3 ถึง ตี 4 เพื่อนคนนึงก็ลุกมาโวยวายว่าใครเอาผ้าห่มเค้าไป เพราะอากาศมันหนาวมากงัยค๊ะ ก็หากันซักพักก็เจอค่ะ แต่มันออกไปอยู่นอกบ้านตรงระเบียงที่เรานั่งกินเหล้ากัน ก็ไม่สนใจกันละ มันดึกแล้วนี่ เจอก็ดีแล้วเก็บมาแล้วก็นอนกันต่อ ซักพัก เพื่อนอีกคนก็ลุกมาโวยวาย อาการเดียวกันเลยค่ะ หนูก็ชักทะแม่งๆ และทีนี้ แต่ก็นอนกันต่อ จนเช้า พวกไกด์ กับ สตาฟร์ ของบริษัทฯ ก็มาปลุกให้ไปทานอาหารเช้าและเตรียมตัวเดินทางต่อ พอถึงห้องอาหารเพื่อนก็โวยก่อนเลยเพราะเห็นมีทหารมาคอยอำนวยความสะดวกอยู่ก็เข้าไปต่อว่า ประมาณว่าเสียงดังแค่นี้ทำไมต้องไปบอกนายให้มาว่าด้วยล่ะ มาคุยกันดีๆก็ได้นี่ เพราะเราก็ต้องพักที่นี้กันอีก ทหารที่ยืนยู่ก็ทำหน้างง งง ว่าอะไร
ก็ถามไป ถามมา พวกเราก็เล่าเรื่องเมื่อคืนให้ทหารฟัง
ทีนี้เป็นเรื่องเลย ทหารพวกนั้นบอกว่าพี่ๆๆ พวกผมออกเวรตั้งแต่สองทุ่มนะ ตรวจตราอะไรเรียบร้อยแล้วก็กลับที่พักกัน ไม่มีใครอยู่หรอกครับที่นี่ นอกจากนักท่องเที่ยว กับ ไกด์ที่พาคุณมา แต่เราก็บอกว่ามีซิก็ เมื่อคืนยังเดินมาต่อว่าพวกเราตั้ง 3 ครั้ง เค้าก็ถามกลับมาว่าแต่งชุดทหารสีมืดๆ ประมาณสีขี้ม้าดำ ใช่รึ่เปล่า พวกเราก็ตอบว่าใช่ ทหารพวกนั้นก็ทำหน้าแบบ สยองๆ แล้วก็เงียบ ที่นี้เพื่อนเราคนที่โวยวายคนที่ 2 น่ะ ถามว่ามีอะไรรึเปล่าบอกมาเถอะ ทางเจ้าหน้าที่ก็บอกว่า ที่นี่หลัง 2 - 3 ทุ่มไปแล้วจะไม่มีเจ้าหน้าที่ ที่มาเดินตรวจหรอก เพราะเจ้าหน้าที่เค้าก็กลับบ้านพักกันหมดแล้ว คิดดูซิว่าแล้วคนที่เดินมาหาพวกเรา 2 รอบ 3 รอบน่ะคือใครกันคะ ถ้าไม่ใช่เหล่าวิญญาณที่ยังคงผูกพันกับหน้าที่ ที่เคยทำมาอยู่เป็นประจำ พอคิดกันได้ก็หันหน้ามามองกัน แบบพร้อม ๆ กัน ประมาณว่า ลองของจนโดนดีซะแล้ว....เรื่องก็มีอยู่เท่านี้แหละค่ะ
ขอขอบคุณประสบการณ์ชวนขนหัวลุกจาก
ช็อคเอฟเอ็มออนไลน์
เข้าเรื่องดีกว่าค่ะ โดยปกตินะค๊ะทางบริษัทฯ ของหนูจะมีการจัดงานสังสรรค์ปีใหม่ โดยการพาพนักงานทั้งหมดของบริษัทฯ และ บริษัทฯ ในเครือไปเที่ยวต่างจังหวัดทุกปี (แต่ในตอนนี้ก็ไม่มีแล้วค่ะเพราะเศรษฐกิจไม่ดี ) เรื่องก้อมีอยู่ว่าในปี 2546 ปลายปีน่ะค่ะ ทางบริษัทได้จัดให้พนักงานไปเที่ยวที่จังหจัดเพชรบูรณ์ ที่ภู...... กับ เขา...... โดยคืนแรกเราจะพักกันที่ ภู......ก่อน และก่อนเดินทางไปจริงเราก็มีการส่งเจ้าหน้าที่ไป SERWAY สถานที่จริง โดยหนูก็ได้ร่วมเดินทางไป SERWAY พร้อมเจ้าหน้าที่ท่านอื่นๆของบริษัทฯ
โดยพักอยู่ที่ละ 1 คืนพร้อมไกด์ของบริษัท ทัวร์แห่งหนึ่ง ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ณ ตอนนั้นเกิดตอนเราเดินไปพักจริงๆกันในเดือน ธันวาคม (หนาวมากขอบอก) โดยเราเดินทางไปกันทั้งหมดก็เกือบ 200 คนค่ะ ก็จะแบ่งกันพักตามบ้านพักต่างๆที่บริษัท ฯ ทัวร์จัดให้ โดยจะมีทหารแนะนำว่าทางสถานที่พัก (ภู......จะเป็นประมาณค่ายทหารอ่ะค่ะ) แห่งนี้จะเปิดไฟฟ้าให้ใช้ได้ถึงประมาณ 4 ทุ่ม ก็จะปิดทั้งหมดขอให้ทุกท่านทำกิจกรรมสว่นตัวให้เรียบร้อย เพราะทางสถานที่จะไม่มีเจ้าหน้าที่มาดูแลให้ เน้นตรงนี้นะ และขอให้พักผ่อนก่อนเที่ยงคืน กล่าวก็คือพอทางเจ้าหน้าที่ปิดให้บริการกระแสไฟฟ้าก็ขอให้ทุกท่านนอนนั่นแหละค่ะ
เรื่องก็จะเกิดตอนนี้แหละค่ะ พวกพนักงานใหญ่ก็จะพักผ่อนกัน
แต่ก็มีบางส่วนที่นั่งดื่มกันต่อกับพวกพนักงานชายรวมทั้งหนูด้วย ก็ดื่มกันไปซักประมาณ 5 ทุ่ม ถึง เที่ยงคืนเห็นจะได้ ก็จะมีคนเดินเข้ามาแต่ว่าหนูหันหลังให้เค้า (แต่ว่าแฟนหนูมาบอกภายหลังว่า 4 คน แต่เพื่อนๆบอก 3 คน) เค้าทั้งหมดนั่นแหละแต่งกายชุดทหารแต่มียศติดเยอะมากกกกกกก ประมาณนายพลนั่นแหละค่ะ ทีนี้เค้าก็ถามว่ายังไม่นอนกันหรือ เจ้าหน้าบอกแล้วไม่ใช่รึว่าให้พักผ่อนกันพรุ่งนี้จะเดินทางไปเขา......แต่เช้านะ พวกผู้ชายก็บอก ครับๆๆๆ ซักพักจะเลิกแล้ว เค้า้ทั้งหมดก็เดินจากไป แต่มันมืดมากตอนที่พวกเค้าไปนั้นหนูก็หันหน้ามาพอดี แต่ก็ไม่ทันเห็นนะเพราะรอบๆบ้านมันมืดมากด้วย แต่พวกผู้ชายก็กินกันต่อจนประมาณ 1 ชั่วโมงผ่านไป เค้าทั้งหมดก็เดินกลับมาอีก
ทีนี้หนูเห็นเค้าค่ะ หน้าตาก็เป็นคนธรรมดาแบบเรานี่แหละ ไม่มีอะไรผิดปกติซักหน่อย
เค้าก็ถามคำถามเดิม คือทำไมยังไม่นอน แต่เค้าก็บอกเสียงดุๆ นะ และบอกด้วยว่าไม่ให้ตีกลอง ร้องเพลงเพราะมันเสียง ดังรบกวนคนอื่นเค้า ให้เลิกเล่นได้แล้ว ทีนี้ตามประสาวัยรุ่นนะ มันก็ออกอาการเซ็งๆ ก็จะบ่นๆ กัน แต่ก็ไม่ยอมนอน พอถึงประมาณตี 2 ได้มั้งค๊ะ หนูก็บอกให้พวกเค้าเลิกกินได้แล้ว ก็กำลังจะเลิกพวกเค้าก็มาอีกเป็นรอบที่ 3 ค่ะ คราวนี้เค้าท่าทางโกรธๆ งัยก็ไม่รู้ พูดเสียงดังมาก ว่า "บอกอะไรทำมัยไม่เชื่อฟังกันบ้างเลย อยากลองดีหรือ" พวกหนูก็เงียบ แต่มีเพื่อนคนนึงเมาอ่ะค่ะ ประมาณว่าสวนกลับไปเลย ถือว่ามียศใหญ่โตมั้งเลยมาว่าเอา ทีหลังถ้ามีแบบนี้อีกก็ไม่มาแล้ว จะมาสนุกสนานแต่ก็โดนว่าให้เลิก หนูก็ตอบไปว่า เราบอกแล้วตั้งแต่ก่อนมาว่าเค้าให้อยู่ได้ไม่เกินสี่ทุ่มนะ ต้องนอน ถ้าไม่นอนก็ห้ามเสียงดัง ทุกคนเลยเงียบและเริ่มทยอยกันไปนอน
ทีนี้มันดึกมากหนูก็เลยนอนที่บ้านหลังนั้นเพราะมันนอนเป็นสิบคนค่ะ
ซักประมาณตี 3 ถึง ตี 4 เพื่อนคนนึงก็ลุกมาโวยวายว่าใครเอาผ้าห่มเค้าไป เพราะอากาศมันหนาวมากงัยค๊ะ ก็หากันซักพักก็เจอค่ะ แต่มันออกไปอยู่นอกบ้านตรงระเบียงที่เรานั่งกินเหล้ากัน ก็ไม่สนใจกันละ มันดึกแล้วนี่ เจอก็ดีแล้วเก็บมาแล้วก็นอนกันต่อ ซักพัก เพื่อนอีกคนก็ลุกมาโวยวาย อาการเดียวกันเลยค่ะ หนูก็ชักทะแม่งๆ และทีนี้ แต่ก็นอนกันต่อ จนเช้า พวกไกด์ กับ สตาฟร์ ของบริษัทฯ ก็มาปลุกให้ไปทานอาหารเช้าและเตรียมตัวเดินทางต่อ พอถึงห้องอาหารเพื่อนก็โวยก่อนเลยเพราะเห็นมีทหารมาคอยอำนวยความสะดวกอยู่ก็เข้าไปต่อว่า ประมาณว่าเสียงดังแค่นี้ทำไมต้องไปบอกนายให้มาว่าด้วยล่ะ มาคุยกันดีๆก็ได้นี่ เพราะเราก็ต้องพักที่นี้กันอีก ทหารที่ยืนยู่ก็ทำหน้างง งง ว่าอะไร
ก็ถามไป ถามมา พวกเราก็เล่าเรื่องเมื่อคืนให้ทหารฟัง
ทีนี้เป็นเรื่องเลย ทหารพวกนั้นบอกว่าพี่ๆๆ พวกผมออกเวรตั้งแต่สองทุ่มนะ ตรวจตราอะไรเรียบร้อยแล้วก็กลับที่พักกัน ไม่มีใครอยู่หรอกครับที่นี่ นอกจากนักท่องเที่ยว กับ ไกด์ที่พาคุณมา แต่เราก็บอกว่ามีซิก็ เมื่อคืนยังเดินมาต่อว่าพวกเราตั้ง 3 ครั้ง เค้าก็ถามกลับมาว่าแต่งชุดทหารสีมืดๆ ประมาณสีขี้ม้าดำ ใช่รึ่เปล่า พวกเราก็ตอบว่าใช่ ทหารพวกนั้นก็ทำหน้าแบบ สยองๆ แล้วก็เงียบ ที่นี้เพื่อนเราคนที่โวยวายคนที่ 2 น่ะ ถามว่ามีอะไรรึเปล่าบอกมาเถอะ ทางเจ้าหน้าที่ก็บอกว่า ที่นี่หลัง 2 - 3 ทุ่มไปแล้วจะไม่มีเจ้าหน้าที่ ที่มาเดินตรวจหรอก เพราะเจ้าหน้าที่เค้าก็กลับบ้านพักกันหมดแล้ว คิดดูซิว่าแล้วคนที่เดินมาหาพวกเรา 2 รอบ 3 รอบน่ะคือใครกันคะ ถ้าไม่ใช่เหล่าวิญญาณที่ยังคงผูกพันกับหน้าที่ ที่เคยทำมาอยู่เป็นประจำ พอคิดกันได้ก็หันหน้ามามองกัน แบบพร้อม ๆ กัน ประมาณว่า ลองของจนโดนดีซะแล้ว....เรื่องก็มีอยู่เท่านี้แหละค่ะ
ขอขอบคุณประสบการณ์ชวนขนหัวลุกจาก
ช็อคเอฟเอ็มออนไลน์
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!