เพื่อนของฉันมีวิญญาณอยู่ในตัวถึง 2 ดวง


เพื่อนของฉันมีวิญญาณอยู่ในตัวถึง 2 ดวง

เรื่องมีอยู่ว่า เพื่อนฉันคนนี้ได้ไปทำบุญที่วัดแห่งหนึ่ง

พิธีกรรมในการทำบุญในวันนั้นจะมี การทำบังสกุลเป็น-ตาย ไหว้พระราหู ถวายสังฆทาน และอีกพิธีหนึ่งเรียกว่าอะไรนั้นจำไม่ได้ แต่จะมีขันอยู่ 1 ใบ ในขันนั้นก็จะมี น้ำตาล ข้าว ถั่วเขียว สายสินสีขาว และอีกอย่างน่าจะเรียกว่ายันต์นะค่ะ เมื่อเพื่อนดิฉันได้ทำพิธีกรรมหลายอย่างผ่านพ้นไปแล้ว พระก็เริ่มสวดค่ะ จนกระทั่งสวดบทสุดท้ายนี่ละค่ะที่น่ากลัวมาก ๆ เพื่อนดิฉันก็เริ่มอาการร้องไห้ขึ้นก่อน แล้วก็เริ่มอาเจียน หลังจากนั้นตัวก็เริ่มสั่น ๆ ค่ะ สั่นขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นว่าไม่ใช่เพื่อนของฉันไปแล้ว เพราะเพื่อนของฉันกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด

ปรากฏว่าตอนนี้ไม่ใช่เพื่อนของฉันแล้วค่ะ แต่เป็นใครก็ไม่รู้ที่อยู่ในตัวของเพื่อนฉัน

พระก็มาช่วยกันให้ดื่มน้ำมนต์ สวดคาถาต่าง ๆ ตอนที่พระสวดคาถานะค่ะ มันไม่ใช่ภาษาบาลี แต่เพื่อนของฉันก็สวดมันได้ไปพร้อม ๆ กับพระเลยละค่ะ มารู้เอาตอนหลังว่าคาถาบทนั้นเป็นคาถาภาษาพม่า เพื่อนของฉันเป็นคนไทย เกิดที่ไทย พูดภาษาพม่าไม่เป็นค่ะ แต่ตอนนั้น เธอดันสวดภาษาพม่าได้พร้อม ๆ กับพระ แปลกมากเลยค่ะ สภาพของเธอตอนนั้นดูไม่ได้เลยค่ะ เกร็งไปทั้งตัว เล็บคอยจะจิกพื้นตลอดเวลา ตาก็เหลือกตลอดด้วยค่ะ พระท่านก็ช่วยกัน พอเพื่อนเริ่มจะรู้สึกตัว ปรากฏว่าตัวทั้งตัวของเพื่อนก็มีของเต็มตัวหมดเลยค่ะ ทั้งลูกประคำ สายสิน ของอื่น ๆ ทีพระให้มาอีก หลังจากเหตุการณ์วันนั้น เพื่อนของฉันคนนี้ก็แปลกไป เธอมักจะเห็นในสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น จนเธอคิดว่า เธอกำลังจะเป็นบ้ารึเปล่า

พระท่านบอกว่ามันเป็นเวรกรรมค่ะ ให้เธอทำบุญมากๆ

และที่แปลกไปกว่านั้นฉันคิดว่าฉันตาไม่ฝาดนะค่ะ วันนั้นไม่รู้ว่าเธอไปโมโหอะไรมาค่ะ ตอนที่เธอโมโหนี่ซิค่ะ ลูกตาเธอเปลี่ยนไปเป็นสีฟ้าค่ะ งงมากค่ะ ฉันให้กระจกกับเธอดู เธอก็ตกใจมาก ๆ ค่ะ ทุกวันนี้เธอได้ซื้อคอนเทคเลนส์สีฟ้าใส่แทนแล้วค่ะ เพราะเธอกลัวมาก ตอนนี้เพื่อนของฉันได้ลางานไป 1 เดือน เพื่อไปทำบุญ และทำกรรมฐานต่าง ๆ เพื่อที่จะเอาบุญนี้ให้กับเจ้ากรรมนายเวรของเธอ แต่ไม่รู้ว่าเธอจะทนกับสิ่งที่เธอต้องเห็นอะไรแปลก ๆ ได้รึเปล่าค่ะ ที่เป็นแบบนี้เพราะอะไรกันค่ะ ตอนนี้ดิฉันเองก็แปลกใจเหมือนกัน เพราะไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้ยังจะมีอยู่อีกในโลก ถ้าไม่เกิดขึ้นกับคนใกล้ตัวที่เป็นเพื่อนด้วยกัน ดิฉันก็คงไม่เชื่อตาตัวเองเลยละค่ะ


ขอบคุณเรื่องเล่าจาก
พลังจิตดอทคอม


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์