คุณไสยไล่ที่
เดิมทีคุณพ่อและคุณแม่ผมมีรายได้พิเศษจากค่าเช่าบ้าน 2 หลัง
บนพื้นที่รวมกันเกือบ 250 ตารางวา เป็นบ้านไม้ 2 ชั้น สภาพเก่าทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ท่านจึงคิดที่จะรื้อบ้านทั้ง 2 หลังทิ้ง เอาไม้ที่พอใช้ได้ดูค่อนข้างแข็งแรงเก็บเอาไว้เพื่อสร้างหอพักนักเรียน 2 ชั้น บนพื้นที่เดียวกันแต่ขยับตัวอาคารเป็นแนวยาว ประมาณว่าคงได้สัก 20 ห้อง ซึ่งคิดว่าจะคุ้มค่ากว่ากับรายรับที่เพิ่มขึ้นเกือบสิบเท่า มีเงินเหลือเก็บแถมยังสามารถจ่ายทั้งดอกเบี้ยและเงินต้นธนาคารได้อย่างสบาย เจรจากับผู้เช่ารายแรกยินดีที่จะย้ายออกแต่โดยดีเพราะเขาหาบ้านเช่าหลังใหม่ได้แล้ว ส่วนอีกรายคุยกันไม่รู้เรื่อง คุณพ่อปรึกษาทนายความให้ทำจดหมายลงทะเบียนส่งถึงผู้เช่าเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อมีผลต่อการดำเนินคดีในชั้นศาลต่อไป
ซึ่งหากรอถึงเวลานั้นก็กินเวลาเกือบปีจะเสียเวลาเปล่า
ด้วยความมุทะลุประสาเด็กวัยรุ่นอยากช่วยเหลือคุณพ่อและคุณแม่ ผมจึงได้คิดวิธีแผลง ๆ ขึ้นมา แบบนี้ต้องทดลองใช้วิชาไสยศาสตร์หรือคุณไส ค่ำวันนั้นผมใช้ดาบตัดต้นกล้วยขนาดเล็กขึ้นไปตั้งบนชานบ้านหลังเดิมที่คนเช่าก่อนหน้านี้ย้ายออกไปแล้ว เขียนชื่อคู่อริที่ไม่ยอมย้ายบ้านติดบนลำต้นกล้วย จุดธูปเทียนพนมมือยกดาบขึ้นแนบอก หันหน้าไปทางฝั่งบ้านที่มีปัญหา พร้อมอธิษฐานขอเจ้าที่เจ้าทางผีบ้านผีเรือนได้โปรดช่วยเหลือดลใจให้ผู้เช่าย้ายออกไปอย่าได้มีเรื่องโกรธเคืองต่อกันเลย ทั้งนี้เพื่อความเจริญของพื้นที่ที่จะก่อสร้างหอพักต่อไป ในระหว่างบริกรรมมนต์ผู้เช่าคู่อริเดินออกมาดูหน้าประตูยืนจ้องมองด้วยสีหน้าเย้ยหยัน ผมใช้ดาบฟันตัดชื่อคู่อริและลำต้นกล้วยขาดออกจากกันสองท่อน เป็นอันจบพิธี กลับบ้านเอาน้ำล้างหน้าล้างเสนียดจัญไรให้หายไป
รุ่งเช้าก็ได้ข่าวว่าคู่อริผู้เช่าบ้านขนข้าวของรีบย้ายออกไปตั้งแต่เช้ามืดไก่ไม่ทันโห่ขันท่ามกลางความลิงโลดดีใจของผม
อีกไม่กี่อาทิตย์ต่อมาช่วงปิดเทอม ผมกับกลุ่มเพื่อนร่วมชั้นก็ไปเรียนกวดวิชาล่วงหน้าเพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ พวกเราได้บ้านเช่ากลางกรุงอยู่ไม่ห่างจากโรงเรียนกวดวิชามากนัก พอผมได้เห็นตัวบ้านก็ถึงกับผงะกับสภาพบ้านร้างแม้ไม่เก่าและไม่โทรมแต่ดูน่ากลัว ทำยังไงได้ในเมื่อพวกเราย้ายข้าวของเสื้อผ้ามาแล้วก็จำใจอยู่ เพื่อนผมปลอบว่าไม่ต้องระแวงกลัวโจรผู้ร้ายเพราะบ้านหลังนี้เจ้าของคือ นายตำรวจประจำ สน.ใกล้ๆ นี่เอง แต่หารู้ไม่สิ่งที่ผมหวาดกลัวไม่ใช่ขโมยขโจรที่ไหนแต่มันกลับกลายเป็นผีบ้านผีเรือน ณ ที่แห่งนี้นั่นเอง แม้จะจุดธูปแจ้งท่านว่าขอมารบกวนอยู่อาศัยด้วย แต่แล้วในคืนนั้นผมก็หลับฝันไปเห็นหญิิงแก่ชราผิวดำผมเป็นกระเซิงหน้าตาดุร้ายคล้ายแม่มด ใช้เล็บมือยาวแหลมมาตะกุยข่วนใบหน้าผม พร้อมตะโกนด้วยเสียงโกรธเกรี้ยวว่า
ไอ้หนุ่ม เอ็งมันใจชั่วใช้วิชาคุณไสยต่ำทรามกับผู้อื่น จงรีบไสหัวไปจากบ้านข้า
ผมผวาตื่นเหงื่อแตกท่วมตัวหัวใจเต้นไม่เป็นส่ำรีบย้ายข้าวของออกไปเช่าอยู่หอพักที่อื่น
โดยไม่ทันได้บอกพรรคพวกถึงเหตุผลที่ย้ายออก บัดนี้ผมเข้าใจถ่องแท้แล้วว่าคุณไสยหรืออวิชชาอันชั่วร้ายที่ใช้กับผู้อื่นได้ มันก็ย่อมย้อนกลับมาเล่นงานผู้กระทำดุจเดียวกัน ถึงจะมีวิชาเรียนผูกเรียนแก้มาอย่างดี ก็ไม่อาจรอดพ้นฤทธิ์มนต์ดำกลับมาครอบงำตนเองทำให้เป็นบ้าเป็นบอเสียสติไปก็หลายคน ยังดีที่ผมกลับตัวทันหลังจากถูกผีบ้านผีเรือนแห่งนั้นเตือน มิเช่นนั้นอนาคตคงดับวูบกลายเป็นปีศาจในร่างมนุษย์ดี ๆ นี่เอง
พลังจิตดอทคอม
บนพื้นที่รวมกันเกือบ 250 ตารางวา เป็นบ้านไม้ 2 ชั้น สภาพเก่าทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ท่านจึงคิดที่จะรื้อบ้านทั้ง 2 หลังทิ้ง เอาไม้ที่พอใช้ได้ดูค่อนข้างแข็งแรงเก็บเอาไว้เพื่อสร้างหอพักนักเรียน 2 ชั้น บนพื้นที่เดียวกันแต่ขยับตัวอาคารเป็นแนวยาว ประมาณว่าคงได้สัก 20 ห้อง ซึ่งคิดว่าจะคุ้มค่ากว่ากับรายรับที่เพิ่มขึ้นเกือบสิบเท่า มีเงินเหลือเก็บแถมยังสามารถจ่ายทั้งดอกเบี้ยและเงินต้นธนาคารได้อย่างสบาย เจรจากับผู้เช่ารายแรกยินดีที่จะย้ายออกแต่โดยดีเพราะเขาหาบ้านเช่าหลังใหม่ได้แล้ว ส่วนอีกรายคุยกันไม่รู้เรื่อง คุณพ่อปรึกษาทนายความให้ทำจดหมายลงทะเบียนส่งถึงผู้เช่าเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อมีผลต่อการดำเนินคดีในชั้นศาลต่อไป
ซึ่งหากรอถึงเวลานั้นก็กินเวลาเกือบปีจะเสียเวลาเปล่า
ด้วยความมุทะลุประสาเด็กวัยรุ่นอยากช่วยเหลือคุณพ่อและคุณแม่ ผมจึงได้คิดวิธีแผลง ๆ ขึ้นมา แบบนี้ต้องทดลองใช้วิชาไสยศาสตร์หรือคุณไส ค่ำวันนั้นผมใช้ดาบตัดต้นกล้วยขนาดเล็กขึ้นไปตั้งบนชานบ้านหลังเดิมที่คนเช่าก่อนหน้านี้ย้ายออกไปแล้ว เขียนชื่อคู่อริที่ไม่ยอมย้ายบ้านติดบนลำต้นกล้วย จุดธูปเทียนพนมมือยกดาบขึ้นแนบอก หันหน้าไปทางฝั่งบ้านที่มีปัญหา พร้อมอธิษฐานขอเจ้าที่เจ้าทางผีบ้านผีเรือนได้โปรดช่วยเหลือดลใจให้ผู้เช่าย้ายออกไปอย่าได้มีเรื่องโกรธเคืองต่อกันเลย ทั้งนี้เพื่อความเจริญของพื้นที่ที่จะก่อสร้างหอพักต่อไป ในระหว่างบริกรรมมนต์ผู้เช่าคู่อริเดินออกมาดูหน้าประตูยืนจ้องมองด้วยสีหน้าเย้ยหยัน ผมใช้ดาบฟันตัดชื่อคู่อริและลำต้นกล้วยขาดออกจากกันสองท่อน เป็นอันจบพิธี กลับบ้านเอาน้ำล้างหน้าล้างเสนียดจัญไรให้หายไป
รุ่งเช้าก็ได้ข่าวว่าคู่อริผู้เช่าบ้านขนข้าวของรีบย้ายออกไปตั้งแต่เช้ามืดไก่ไม่ทันโห่ขันท่ามกลางความลิงโลดดีใจของผม
อีกไม่กี่อาทิตย์ต่อมาช่วงปิดเทอม ผมกับกลุ่มเพื่อนร่วมชั้นก็ไปเรียนกวดวิชาล่วงหน้าเพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ พวกเราได้บ้านเช่ากลางกรุงอยู่ไม่ห่างจากโรงเรียนกวดวิชามากนัก พอผมได้เห็นตัวบ้านก็ถึงกับผงะกับสภาพบ้านร้างแม้ไม่เก่าและไม่โทรมแต่ดูน่ากลัว ทำยังไงได้ในเมื่อพวกเราย้ายข้าวของเสื้อผ้ามาแล้วก็จำใจอยู่ เพื่อนผมปลอบว่าไม่ต้องระแวงกลัวโจรผู้ร้ายเพราะบ้านหลังนี้เจ้าของคือ นายตำรวจประจำ สน.ใกล้ๆ นี่เอง แต่หารู้ไม่สิ่งที่ผมหวาดกลัวไม่ใช่ขโมยขโจรที่ไหนแต่มันกลับกลายเป็นผีบ้านผีเรือน ณ ที่แห่งนี้นั่นเอง แม้จะจุดธูปแจ้งท่านว่าขอมารบกวนอยู่อาศัยด้วย แต่แล้วในคืนนั้นผมก็หลับฝันไปเห็นหญิิงแก่ชราผิวดำผมเป็นกระเซิงหน้าตาดุร้ายคล้ายแม่มด ใช้เล็บมือยาวแหลมมาตะกุยข่วนใบหน้าผม พร้อมตะโกนด้วยเสียงโกรธเกรี้ยวว่า
ไอ้หนุ่ม เอ็งมันใจชั่วใช้วิชาคุณไสยต่ำทรามกับผู้อื่น จงรีบไสหัวไปจากบ้านข้า
ผมผวาตื่นเหงื่อแตกท่วมตัวหัวใจเต้นไม่เป็นส่ำรีบย้ายข้าวของออกไปเช่าอยู่หอพักที่อื่น
โดยไม่ทันได้บอกพรรคพวกถึงเหตุผลที่ย้ายออก บัดนี้ผมเข้าใจถ่องแท้แล้วว่าคุณไสยหรืออวิชชาอันชั่วร้ายที่ใช้กับผู้อื่นได้ มันก็ย่อมย้อนกลับมาเล่นงานผู้กระทำดุจเดียวกัน ถึงจะมีวิชาเรียนผูกเรียนแก้มาอย่างดี ก็ไม่อาจรอดพ้นฤทธิ์มนต์ดำกลับมาครอบงำตนเองทำให้เป็นบ้าเป็นบอเสียสติไปก็หลายคน ยังดีที่ผมกลับตัวทันหลังจากถูกผีบ้านผีเรือนแห่งนั้นเตือน มิเช่นนั้นอนาคตคงดับวูบกลายเป็นปีศาจในร่างมนุษย์ดี ๆ นี่เอง
พลังจิตดอทคอม
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!